ทันใดนั้นเอง สีหน้าของภวินท์ก็บึ้งตึงทันที
เขาเป็นลูกชายของปกรณ์ ตอนนี้เขากลับติดต่อปกรณ์ไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะให้เขารีบกลับจากต่างประเทศเพื่อมาประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเลย
เส้นเลือดบนขมับของเขากระตุกตุบๆอย่างรวดเร็ว ภวินท์เงยหน้าขึ้นนวดระหว่างคิ้ว รู้สึกหงุดหงิดภายในใจ
ช่วงนี้STN Groupเกิดเรื่องแปลกๆขึ้นมากมาย เรื่องร้ายทั้งหมดมาเจอกัน ไม่ให้โอกาสเขาได้พักหายใจบ้างเลย
เขารู้สึกว่า สองมือของเขากำลังจัดการเรื่องทุกอย่างอยู่ นี่เป็นวงล้อม เป็นกับดัก เป็นเชือกที่กำลังดึงเขาลงนรก
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองดูข้อความแจ้งเตือนที่ขึ้นเต็มหน้าจอ ก็ยิ่งปวดหัวเข้าไปใหญ่ จึงมองผ่านข้อความที่ยังไม่ได้อ่านพวกนั้น แล้วกดโทรหาปกรณ์
เรื่องมาจนถึงวันนี้ ต้องการคนที่เป็นกลางมาควบคุมสถานการณ์ เขากับภูผาทะเลาะกันอย่างหนัก สู้กันทั้งต่อหน้าและลับหลัง คนที่เหมาะจะเป็นคนกลางมากที่สุดก็คือพ่อของพวกเขาปกรณ์
โทรศัพท์ดังขึ้นหลายครั้ง ก็ยังไม่มีคนรับสาย
ภวินท์สูดหายใจเข้าลึกๆ ลังเลสักพัก แล้วกดโทรหามรกตแทน
โทรศัพท์ดังขึ้นสองครั้ง ทันใดนั้น เสียงก็หยุดดังไปเพราะถูกคนตัดสาย ทางนั้นมีเสียงภาษาอังกฤษจากระบบดังขึ้นสองครั้ง จากนั้นก็ตัดสายไปอัตโนมัติ
ภวินท์กำโทรศัพท์ไว้ในมือแน่น เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นภายในใจ
ปกรณ์ติดต่อไม่ได้ มรกตจะติดต่อไม่ได้ได้ยังไง? ทางนั้นเห็นได้ชัดว่ามีคน ทำไมถึงตัดสายล่ะ?
คำถามมากมายพลุ่งพล่านเข้ามาในหัว ทำเอาภวินท์อดไม่ได้ขมวดคิ้วเป็นปม สักพักหลังจากนั้น ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ สายตามืดมนลง วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ เงยหน้าขึ้นมองพายุแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ติดต่อคนทางฝั่งอเมริกา ให้พวกเขาไปดูสถานการณ์”
พายุได้ยินแล้ว ก็มองดูภวินท์ด้วยสีหน้าเข้มงวด ก็รู้สึกได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เขารีบพยักหน้าแล้วออกไปจัดการทันที
ประตูห้องปิดลง ทันใดนั้น ห้องทำงานอันกว้างใหญ่เหลือเพียงภวินท์คนเดียว เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกเย็นวาบภายในจิตใจ
เขารู้ดี เขาใช้ชีวิตอยู่ในความลำบาก ปกรณ์ก็เหมือนกันนี่? คนข้างกายของเขา มรกตก็เป็นผู้หญิงที่เลือดเย็นอำมหิตคนหนึ่ง
ภวินท์รู้สึกร้อนรนใจ มีความรู้สึกสับสนพลุ่งพล่านขึ้นมา สักพักหลังจากนั้น ความรู้สึกนี้ก็ถูกกดทับลงไป ความรู้สึกกังวลและไม่สบายใจก็เหมือนถูกลมพัดไปเบาๆ ให้เขาใจเย็นลงอีกครั้ง
ถ้าจะบอกว่าเย็นชาไร้หัวใจ ใครจะเทียบกับปกรณ์ได้ล่ะ? ตอนนั้น ก่อนตายแม่ของเขายังเรียกชื่อของปกรณ์อยู่เลย แต่แค่มาเจอหน้าครั้งสุดท้ายเขายังไม่ยอมเลย
ถ้าจะบอกว่าใจร้าย งั้นทั้งตระกูลสถิรานนท์ ปกรณ์อยู่อันดับต้นๆเลย
ภวินท์เหอะอย่างเย็นชาในลำคอ หยิบสูทข้างๆขึ้นมา สลัดความรู้สึกสับสนในสมองเมื่อกี้ออกไปทั้งหมด ก้าวเท้าเดินออกจากห้องทำงานไป
พอออกจากประตูมา เลขาที่มีสีหน้าลนลานสองคนเดินเข้ามา “คุณภวินท์คะ พวกหุ้นส่วนโทรมาไม่หยุดเลยค่ะ……”
ไม่รอพวกเธอพูดจบ ภวินท์ก็พูดแทรกพวกเขาทันที “แจ้งหุ้นส่วนทุกคน เริ่มการประชุมฉุกเฉิน ทุกคนจะต้องมาให้ได้”
ในเมื่อพวกเขาอยากกดดันเขา งั้นก็ไม่เป็นไร เขาจะรับไว้ทั้งหมด ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน ถึงพวกเขาไม่มาหาเขา ยังไงสักวันเขาก็ต้องไปหาพวกเขาอยู่ดี
......
อีกด้าน หน้าประตูกองถ่าย
ญาธิดาจอดรถไว้ด้านนอก แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังกองถ่าย
ก่อนออกจากบ้าน เธอนัดเจอกับคุณบิ๊กไว้แล้ว แม้ทางโทรศัพท์เธอจะไม่ได้พูดอะไรเลย แต่คุณบิ๊กเหมือนจะรับรู้อะไรได้ แล้วมารอรับเธอที่หน้าประตูใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...