ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 48

เมื่อได้ยินประโยคนี้ นีราภาหน้าถอดสีจนซีดเผือด ถ้าต้องลาออก งั้นความขยันมาตั้งหลายปีของเธอก็เท่ากับสูญเปล่าทันทีนะสิ ถ้าจัดการกินมะม่วงลังนี้ให้หมด แล้วเธอจะฝืนทนได้แค่ไหนกันเชียว?

นวิยาที่อยู่ด้านข้างเธอไม่รู้เรื่องสักนิดว่าตกลงแล้วนีราภาไปทำผิดอะไรมา และคอยมองอยู่ข้างๆ ขนาดจะหายใจแรงๆ ยังไม่กล้าเลย

“คุณภวินท์คะ ดิฉันทำผิดไปแล้วค่ะ ฉันแค่คิดอยากจะสั่งสอนเธอเล็กๆ น้อยๆ แทนคุณก็เท่านั้นเองค่ะ ที่ฉันทำไปแค่คิดแทนคุณเองคะ!”

ภวินท์สีหน้าเช่นเดิม ราวกับไม่ได้ยินคำพูดของเธอเช่นนั้น พายุที่อยู่ด้านข้างก็คอยมองนีราภา และพูดตักเตือน “คุณนีราภา เวลาของท่านประธานมีขีดจำกัดครับ”

นีราภาทำท่าร้องไห้แต่ไร้น้ำตา พลางมองมะม่วงเต็มกล่องลังที่วางอยู่ด้านหน้า อย่างลังเล ทว่าสุดท้ายแล้วก็ยังเสียดายในการยอมปล่อยวางความขยันหมั่นเพียรมาในหลายปีนี้ เธอคว้ามะม่วงขึ้นมาหนึ่งลูก ด้วยอาการตัวสั่นเทาอยู่บ้าง

พลางมองสีหน้าเคร่งขรึมของชายหนุ่ม ซึ่งแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่มีพื้นที่ให้ได้พูดคุยกันอีกแล้ว นีราภาไม่มีวิธีอื่นแล้ว จึงจัดการปอกมะม่วงและเริ่มกินทันที น้ำมะม่วงเลอะเปรอะเปื้อนมือของเธอ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอเองก็ไม่สนใจภาพลักษณ์และหน้าตาอะไรอีกแล้ว พลางจัดการปอกเปลือกมะม่วงและเริ่มกินทันที

เพิ่งจะกินยังไม่ถึงสามลูก น้ำตาของเธอก็ไหลออกมา ทั้งมือและปากก็เปรอะเปื้อนไปด้วยมะม่วง อายจนไม่เหลือชิ้นดี

ภวินท์กวาดตามองเธออย่างเย็นชา และไม่ได้แสดงความหมายให้เธอหยุดกินสักนิด นีราภาเองก็ไม่มีวิธีอื่น ทำได้แค่หยิบมะม่วงลูกแล้วลูกเล่ายัดใส่ปากตัวเองอย่างกับกลไกของเครื่องจักร

นวิยาที่อยู่ด้านข้างก็ทนมองต่อไปไม่ไหว จึงเขยิบเดินมาทางด้านหน้าอย่างระแวดระวัง พลางเอ่ยปากพูดเกลี้ยกล่อม “ท่านประธานคะ ตกลงว่าเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันคะ? คุณนีราภาทำงานอยู่ในสำนักงาน CEOมาตั้งหลายปีจนกลายเป็นคนเก่ากันแล้ว จะพูดยังไงก็ไม่สามารถ...”

ภวินท์กวาดตาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง และพูดอย่างปกติ “อยากจะขอร้องแทนเธองั้นสิ งั้นคุณก็ช่วยเธอกินด้วยกันไปเลย”

คำพูดนี้เมื่อออกไปแล้ว สีหน้าของนวิยาเปลี่ยนไปทันที จนทำให้ประโยคที่ยังพูดไม่ทันจบก็ต้องกลืนลงท้องไป

นีราภาได้ยินคำพูดของภวินท์แล้ว จิตใต้สำนึกรู้ว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว และไม่มีพื้นที่ให้เปลี่ยนทิศทางอีกแล้ว ทำได้แต่ยัดมะม่วงเข้าท้องของตัวเองไปอย่างหวานอมขมกลืน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว นีราภากินมะม่วงที่บรรจุมาเต็มลังกระดาษจนเหลือแค่ครึ่งลัง สถานที่เกิดเหตุนั้นเลอะเทอะเป็นวงกว้าง

ภวินท์กวาดตามองลังอันว่างเปล่าไปครึ่งลังแล้ว ซึ่งในใจก็มีความคิดอยู่แล้ว พลางพูดกำชับกับนวิยาที่อยู่ด้านข้าง “ช่วยดูให้เธอกินให้หมดด้วย”

พูดจบ เขาก็หันหลังกลับ และสาวเท้ามุ่งหน้าเดินออกไปทางด้านนอกทันที พายุเองก็รีบเดินตามไป

พวกเขาเพิ่งจะเดินออกจากประตูห้องทำงานไปนั้น ภายในห้องก็เริ่มมีเสียงนีราภาอาเจียนออกมา ราวกับต้องการอาเจียนทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดไส้หมดพุง

นวิยามองเห็นนีราภามีอาการเช่นนี้ ทั้งรู้สึกหวาดกลัวและวิตกกังวล “นีราภา แกไม่ต้องกินเข้าไปแล้วแหละ ถ้าขืนยังกินเข้าไปต้องเกิดเรื่องแน่!”

ไหล่นีราภาห่อตัวขึ้น เพราะอาการคลื่นเหียนจึงส่งผลให้น้ำตาคลอเบ้าตาทั้งสองข้าง เธอกำหมัดไว้แน่น พลางกัดฟันต่อ ทั้งเกลียดทั้งเสียใจ

เธอเป็นลูกน้องที่อยู่ใต้อาณัติของภวินท์โดยตรงมาตั้งนานขนาดนี้ เธอย่อมชัดเจนเป็นอย่างดี ถ้าเธอกินมะม่วงลังกระดาษนี้ไม่หมด เขาต้องทำตามที่พูดออกมาแน่ จนทำให้เธอต้องม้วนเสื่อกลับบ้านแน่ แต่เธอก็ไม่ยินยอม ซึ่งทำงานที่ STN Group มาตั้งหลายปี คุณสมบัติที่สั่งสมมารวมทั้งตำแหน่งในเวลานี้ทำให้เธอไม่มีวิธีอื่นจะยอมปล่อยมือไป ดังนั้น เธอจึงไม่สามารถปล่อยวางได้

เธอกัดฟันทน พลางหยิบมะม่วงลูกหนึ่งขึ้นมาปอกเปลือก และยัดเข้าปากของตัวเองลงไปอย่างโหดเหี้ยม

นวิยาที่อยู่ด้านข้างดึงเธอดึงเธอเอาไว้ทันที “นีราภา แกกินเข้าไปอีกไม่ได้แล้วนะ!”

นีราภาสะบัดมือของเธอออก “แกไม่ต้องมาสนใจฉัน!”

ซึ่งในเวลานั้นเอง ตรงประตูก็มีฝีเท้าดังขึ้นอย่างกะทันหัน เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น จึงเห็นว่าพายุยืนอยู่ตรงนั้น

“คุณพายุคะ...”

พายุพูดข้อมูลตามที่ได้รับมาทุกกระบวนความ “คุณภวินท์แจ้งว่า ที่เหลือไม่ต้องกินแล้ว แต่การสั่งสอนในครั้งนี้ ต้องจำไว้นะ”

นีราภาได้ยินดังนั้น พยักหน้าอย่างไม่ลังเลสักนิด “ฉัน...ฉันจดจำแล้วค่ะ! ครั้งหน้าฉันไม่กล้าอีกแล้วค่ะ!”

พายุพูดเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาอย่างกะทันหัน “แต่ว่า การแพร่ข่าวลือ และโทษในเรื่องที่ทำให้มันเกิดความวุ่นวายคุณต้องรับผิดชอบนะ”

นีราภายังไม่ทันได้พูด นวิยาที่อยู่ด้านข้างอดใจไม่ไหวจึงออกหน้าเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมแทนเธอ “คุณพายุคะ เรื่องนี้ทำไมถึงไปโยนความผิดให้นีราภายังไงคะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์