ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าสีหน้าบึ้งตึง ไม่มีท่าทีเล่นตลกเลย เขาเงียบอยู่ครู่ ถึงเอ่ยปากพูด “ญาธิดา ถ้าหากเธอเชื่อฉัน ก็มอบนิวมาให้ฉัน ฉันจะไปตรวจสอบเอง”
ถึงแม้นิวราจะทำผิดจริงๆ แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีหลักฐานแล้วมาจับคนไป แบบนี้ที่เขาทำมันผิดกฎหมาย
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเรื่องนี้ธีทัตเป็นคนทำ แต่เขาก็ติดต่อธีทัตไม่ได้ ตอนนี้เขาทำได้แค่ติดต่อเขาผ่านญาธิดา
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก และส่ายหน้า “ฉันไม่เชื่อนาย”
มีหลายครั้ง เธอมอบใจตัวเองทั้งหมดให้เขาไป แต่สุดท้ายสิ่งที่เธอได้รับมีแต่ความผิดหวัง
อย่างน้อย เขาเมื่อเทียบกับธีทัต ธีทัตนั้นน่าเชื่อกว่าจริงๆ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการตรวจสอบอุบัติเหตุของอันอัน เธอยิ่งถอยไม่ได้ และยิ่งไม่ยอมเชื่อฟังเขาอย่างง่ายๆ
เธอสูดหายใจเข้าลึก พลางมองภวินท์ และพูดน้ำเสียงเย็นชา “ทัตก็แค่ทำการตรวจสอบเท่านั้น รอให้ทั้งหมดตรวจสอบอย่างชัดเจน เขาจะส่งนิวรากลับไป”
ภวินท์ขมวดคิ้ว สีหน้าเข้มเล็กน้อย “แต่ตอนนี้พวกเธอจะจับตัวนิวราไว้ไม่ได้”
ญาธิดายิ้มอย่างเย็นชา กัดฟันกรอด และถามกลับ “ภวินท์ นายรู้มั้ยว่าพวกเรากำลังตรวจสอบอะไร? นายเคยคิดมั้ย ถ้าหากนิวราเป็นคนร้ายจริงๆล่ะ? ”
ดวงตาเธอเป็นส่องแสงดุจดวงดาว เป็นประกายอย่างแน่วแน่ ดูเหมือนว่าในใจจะมีคำตอบที่แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว
ภวินท์ขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไรเลยอยู่นาน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดเขาก็ขยับปากและพูดเสียงเบา “ส่งนิวมาให้ฉัน เรื่องนี้ฉันจะได้ตรวจสอบเอง และจะให้คำตอบกับเธอ”
“ครั้งก่อนเรื่องที่ฉันถูกลักพาตัวในวันเกิดฉัน นายก็พูดแบบนี้กับธีทัตไม่ใช่เหรอ? ” ญาธิดาหัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วตอนนี้ล่ะ? คำตอบของนายล่ะ? ”
คำพูดเหล่านี้ ทำภวินท์จุกทันที เขาขมวดคิ้ว “มันไม่เหมือนกัน”
ญาธิดายิงคำถามต่อ “ทำไมจะไม่เหมือนกัน? ต่างก็เป็นแผนร้ายของคนอื่น นายรู้ได้ยังว่าไม่ใช่ฝีมือคนเดียวกัน!”
คิ้วของภวินท์ขมวดแน่นกว่าเดิม ไม่พูดอะไรเลยอยู่นาน
เพราะว่าในใจของเขารู้ดี ในวันเกิดของญาธิดาวันนั้นเป็นใครที่ลงมือกับเธอ เป็นหลุยส์ ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา พวกเขาตัดสินใจหักดิบ เรื่องนี้ เขาตัดสินใจเก็บไว้ในส่วนลึกของหัวใจ ไม่พูดถึงมันอีก
จะบอกความจริงของเรื่องนี้ให้ญาธิดาฟัง คงจะไม่ดี
เห็นภวินท์ไม่พูดอะไรครึ่งค่อนวัน ในใจของญาธิดาก็ค่อยๆเย็นชาลง เป็นแบบนี้จริงๆ ด้วย เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
เธอสูดหายใจเข้าลึก และเอ่ยปาก “ภวินท์ นายเชื่อฉันมั้ย? ถ้าหากนายเชื่อ งั้นที่ฉันบอกว่านิวราเป็นคนชนอันอันนายเชื่อมั้ย? ”
เมื่อเสียงของเธอจบลง บรรยากาศก็เงียบสงัดลง ภวินท์ขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไรอยู่นาน
ในขณะนั้น จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศอึดอัด ญาธิดาดึงสติกลับมา ต่อมาถึงยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า
ชื่อธีทัตโชว์อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ เธอลังเลอยู่ครู่ ยังไม่ทันได้กดรับสาย ใครจะรู้ว่ามือใหญ่ด้านข้างจะยื่นมา คว้าโทรศัพท์ไปจากมือของเธอ
เธอเงยหน้ามองอย่างตกใจ ก็เห็นภวินท์กดปุ่มรับสาย ต่อมาก็เอาโทรศัพท์แหนบหู
เขาทำสีหน้าจริงจังขึ้น และพูดทีละคำๆ “ธีทัต ปล่อยนิวออกมา”
ญาธิดาเห็นว่าเป็นแบบนี้ ก็โมโหขึ้นมาทันที เธอยื่นมือออกไป ลองคว้าโทรศัพท์ของตนกลับมา “เอาโทรศัพท์คืนมานะ!”
ภวินท์สูงกว่าเธอมาก เขายืดมือหลบมือที่ยื่นออกมาของเธอ ธีทัตที่อยู่ปลายสายพูดอย่างเย็นชา “ถ้าไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โต ก็ปล่อยคนซะ ไม่อย่างนั้น พวกเราทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้ประโยชน์กันทั้งนั้น”
ญาธิดาที่อยู่ด้านข้างลองหลายรอบ ก็เอาโทรศัพท์คืนมาไม่ได้ สีหน้าแดงก่ำ เห็นแค่ภวินท์พูดประโยคนี้อย่างไม่รีบไม่ร้อน กดวางสายไป และยื่นโทรศัพท์ให้
ญาธิดาโมโหจนพูดไม่ออก ยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ แล้วจ้องภวินท์เขม็ง
“เป็นทางเลือกที่ฉลาดคือให้เขาปล่อยนิว” ภวินท์เดินขึ้นหน้า นัยน์ตาจ้องไปที่เธออย่างจริงจังพลางพูด “ถ้าหากเขาไม่ปล่อยนิว เธอต้องดือนร้อนไปแน่”
ได้ยินดังนั้น ญาธิดาก็ทั้งโมโหทั้งหงุดหงิด ที่เขาพูดมา ที่เขาถ่อมาหาเธอกับธีทัตเพื่อหาคน ที่แท้ก็หวังดีกับเธองั้นหรอ? ตรรกะอะไรเนี่ย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...