ณ STN Group
ธีทัตจอดรถที่หน้าประตู เขาเปิดประตูก้าวเท้าลงจากรถ แต่งตัวด้วยชุดสูทสุดเนี้ยบ เดินตรงผ่านประตู ตรงเข้าไปแผนกต้อนรับและพูดว่า “ขอโทษนะครับ ผมชื่อธีทัต รบกวนแจ้งท่านประธานของพวกคุณด้วยครับว่าผมต้องการพบ”
พนักงานรู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่ดูจากลักษณะท่าทางของชายตรงหน้าดูไม่ใช่คนธรรมดา เธอก็ไม่กล้าปฏิเสธ ต่อสายเข้าห้องทำงานท่านประธานทันที
ไม่นานเลขาฯก็รับโทรศัพท์ เมื่อได้ยินว่ามีคนมาขอพบคุณภูผา จึงตอบว่า “ขอโทษด้วยค่ะ ตอนนี้คุณภูผาติดประชุมอยู่ รบกวนนัดมาก่อนล่วงหน้าและกลับมาใหม่อีกครั้งนะคะ”
ธีทัตที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินคำพูดทุกคำของเลขา ฯ ผ่านทางโทรศัพท์ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จนพนักงานต้อนรับที่เห็นถึงกับลำบากใจ
เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เอาโทรศัพท์มาให้ผม ผมจะคุยเอง”
พนักงานต้อนรับลังเลเล็กน้อย สุดท้ายจึงยอมให้โทรศัพท์ไป ธีทัตยกหูโทรศัพท์ขึ้นพูดกับปลายสายว่า “ผมชื่อธีทัต มาจากบริษัทเทคโนโลยีคลาวด์ วันนี้มาพบคุณภูผาก็เพราะมีเรื่องเร่งด่วน ผมไม่มีเวลามานัดก่อนล่วงหน้า ได้โปรดแจ้งคุณภูผาให้รับทราบด้วย ผมจะรออยู่ที่นี่เพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น หากผมยังไปพบคุณภูผาไม่ได้ ผมจะออกไปจากที่นี่ทันที หรือถ้าคุณช้าจนไม่ได้แจ้งให้เขาทราบ คุณก็รับผิดชอบเรื่องนี้เอาเองแล้วกัน”
เมื่อได้ยินดังนี้ ปลายสายก็รู้สึกสับสน นิ่งเงียบไปพักหนึ่งและตอบกลับมาว่า “โปรดรอสักครู่ค่ะ ดิฉันกำลังแจ้งเรื่องนี้ให้คุณภูผาทราบ”
พูดจบ สายก็ตัดไป
ธีทัตยืนขมวดคิ้วอยู่ข้าง ๆ หางตาของเขากระตุกเล็กน้อย ถ้าหากว่าคุณภูผาทราบว่าเป็นเขามาขอพบล่ะก็ ยังไงเขาก็ต้องตอบตกลงแน่นอน
รอไม่ถึงสองนาที โทรศัพท์ที่แผนกต้องรับก็ดังขึ้น พนักงานต้อนรับรับสาย จากนั้นวางลงและพูดว่า “คุณธีทัตคะ คุณภูผารับทราบแล้ว ขอเชิญขึ้นไปด้านบนได้เลยค่ะ”
ไม่นาน เขาก็ขึ้นมาถึงชั้นห้องทำงานของประธานบริษัท ลิฟต์เปิดออกทำให้เขาเห็นเลขา ฯ ยืนรออยู่ด้านนอก จากนั้นก็พาเขาเดินไปยังห้องทำงานของคุณภูผา
เดินไปได้ไม่กี่ก้าว โทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้น เขายกมันขึ้นมาดูพบว่าเป็นหมอกที่ส่งข้อความถึงเขาพร้อมกับแนบรูปภาพบางอย่างมาด้วย “คุณญาธิดาและคนอื่น ๆ ไม่ได้ไปที่วัดเขาราม แต่ขึ้นขึ้นไปบนเขาราม”
“คนของเราตามเธอขึ้นไป และพบว่าพวกเธอได้เข้าไปในสถานปฏิบัติธรรมที่เขาราม”
“ทีแรกผมคิดว่าที่นั่นจะเป็นสถานที่ร้าง แต่กลับมีคนอาศัยอยู่ ผมว่าสถานปฏิบัติธรรมนี้มันน่าสงสัยนะครับ”
ข้อความพวกนี้ถูกส่งมาในเวลาที่ต่างกัน เมื่อครู่เขายุ่งอยู่กับการเดินทางจนไม่ทันได้สังเกตเลย
เขาเปิดรูปภาพดู ทำให้เห็นรูปภาพที่หมอกถ่ายได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ที่ญาธิดาลงจากรถกำลังเตรียมตัวขึ้นไปบนเขา จนกระทั่งเมื่อเธอเดินเข้าไปในสถานปฏิบัติธรรม...
ธีทัตเลิกคิ้วขึ้น เรื่องพวกนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าที่ญาธิดาไปวัดเขารามก็เพื่อไปหาเบาะแสของภวินท์ แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอกลับขึ้นไปบนสถานปฏิบัติธรรมแทน นั่นก็หมายความว่าภวินท์ก็อาจจะซ่อนตัวอยู่ที่นั่น!
ธีทัตหัวใจเต้นแรง รีบสาวเท้าก้าวตามเลขา ฯ เข้าไปในออฟฟิศทันที
เลขา ฯ เปิดประตู ธีทัตรีบเดินเข้าไป เห็นภูผากำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานดูกองเอกสารที่สูงเป็นตั้ง ๆ ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร ภูผาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับฉีกยิ้ม บอกเลขา ฯ ให้เตรียมน้ำให้เขา
แต่ธีทัตปฏิเสษด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่เป็นไร ผมมาหาคุณเพราะมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคุณเท่านั้น พูดเสร็จผมก็ไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...