หลุยส์นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ แล้วก็จ้องมาที่เธอเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มและพูดว่า “วันนี้โชคไม่ดีหน่อยนะ วินไปประชุมเกี่ยวกับการทำโครงการอยู่ข้างนอก ไม่ได้เข้ามา”
ญาธิดามองเขาอย่างเย็นชา แล้วก็พูดอย่างมุ่งมั่นว่า “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะเขา”
เธอมาที่นี่เพราะเณรศีล ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับภวินท์เลยแม้แต่นิดเดียว
หลุยส์ยิ้ม เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่เปลี่ยนหัวข้อว่า “นักบวชเฒ่าที่ทำร้ายวินที่โรงพยาบาลครั้งที่แล้ว คนของเราได้เจอร่องรอยเขาแล้วนะ ตอนนี้ติดอยู่แค่เรื่องเวลาเท่านั้น ในการสืบหาเจอว่าเขาอยู่ที่ไหน”
ญาธิดาตาเป็นประกาย สีหน้าอ่อนโยนลงทันที “หาเขาเจอก็ดีแล้วล่ะ ระวังจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาถ้าเกิดว่าถูกคนของภูผาจับจ้องขึ้นมา”
หลุยส์ชะงักไป หลังจากนั้นก็เชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “แล้วเจ้าตัวเล็กนั้นล่ะ? ”
ญาธิดาสงสัยเล็กน้อย “หมายความว่ายังไง? ”
หลุยส์กางมือทั้งสองข้างออก แล้วก็พูดอย่างสบายๆ ว่า “จะให้เขาอยู่ที่บ้านผมตลอดไม่ได้หรอกนะ คนอื่นที่ไม่รู้ก็คิดว่าจู่ๆ ผมก็มีลูกนอกสมรส”
ญาธิดาจมเข้าสู่ความเงียบ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดเบาๆ ว่า “ถ้าเกิดว่าคุณไม่สะดวกให้เขาอยู่ ก็ส่งต่อมาให้ฉันแล้วกัน”
เธอจะปล่อยให้เณรศีลระเหเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่อาศัยไม่ได้อีกต่อไป ประสบการณ์แบบนั้น สำหรับเด็กอายุ5-6ขวบคนหนึ่งแล้ว แค่ต้องประสบพบเจอมันเพียงครั้งเดียวก็เกินพอ
หลุยส์ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “โอเค งั้นคุณรับต่อไปแล้วกันนะ หรือบางทีคุณก็ลองไปปรึกษากับวินดูสิ ว่าจะจัดการกับปัญหาการเลี้ยงดูนี้ยังไง? ”
พอได้ยินน้ำเสียงของเขา ญาธิดาก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน ทำไมพอฟังคำพูดนี้ออกมาจากปากเขาแล้ว ความหมายมันถึงได้ดูแปลกๆ
เธอชะงักไป แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ว่า “ไม่ต้องหรอก ฉันตัดสินใจแล้ว”
พอพูดจบ จู่ๆ ก็มีคนผลักประตูเข้ามา แล้วก็ตามมาด้วยเสียงพูดคุยเอะอะ อีธานกับเอลล่ากำลังจูงเณรศีลออกมาจากห้องผู้ป่วย
อีธานกระโดดโลดเต้น เขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า “แม่ครับ พวกเราอยากจะไปเล่นกับเณรศีล!”
สายตาของญาธิดามองไปยังเณรศีล ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ
เธอทั้งประหลาดใจและดีใจ พร้อมกับเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “จะไปไหนกันล่ะ? ”
อีธานกระโดดโลดเต้นและพูดว่า “ไปสวนดอกไม้ข้างล่างครับ เมื่อกี้ตอนที่พวกเราเดินขึ้นมาได้เดินผ่านตรงนั้นด้วยไม่ใช่เหรอ? ”
เอลล่าที่อยู่ด้านข้างเห็นพ้องต้องกัน “ใช่ แม่คะ ลืมไปแล้วเหรอ? ”
ญาธิดารีบยิ้มพร้อมกับพูดว่า “พอได้ยินลูกพูดถึงแม่ก็นึกขึ้นมาได้แล้ว ไปเถอะ!เดี๋ยวแม่พาพวกลูกลงไปเอง!”
“เย่!”
อีธานกับเอลล่ากระโดดด้วยความดีใจ พวกเขาประกบข้างซ้ายและขวาของเณรศีลและจับมือของเขาเอาไว้ แล้วก็เดินไปข้างนอกด้วยความตื่นเต้น
ญาธิดาเดินตามไป แล้วก็ไม่ลืมที่จะหันหน้ามาพยักหน้าให้กับหลุยส์ แล้วก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
พอมาถึงสวนดอกไม้ เด็กสองสามคนก็เหมือนกับได้ปลดปล่อยความเป็นธรรมชาติของพวกเขาออกมา พวกเขาวิ่งเล่นไปทั่ว และหัวเราะอย่างสนุกสนาน
ญาธิดานั่งอยู่มองภาพเหตุการณ์นี้อยู่บนม้านั่งด้านข้าง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา
ที่แท้ การเผยแพร่ความรู้สึกระหว่างพวกเด็กๆ นั้นมันแข็งแกร่งมาก ขอแค่ตอนนี้เณรศีลยิ้มเดินออกมา ยอมพูดคุยกับคนอื่นๆ เรื่องทั้งหมดมันก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
หลายวันถัดมา ญาธิดาก็ได้พาอีธานกับเอลล่ามาเยี่ยมเณรศีลที่โรงพยาบาลเอกชนKทุกวัน เณรศีลเริ่มมีชีวิตชีวาและร่าเริงมากขึ้น และก็เริ่มพูดเยอะขึ้นเช่นกัน เขาเริ่มสนิทกับญาธิดามากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว
แม้แต่คุณหมอที่นั่นก็ชมว่าเณรศีลฟื้นตัวได้ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ แล้วก็ทำการตรวจสอบส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และรอจนกว่าผลจะออกมา
ช่วงบ่าย ตอนที่ญาธิดากำลังเตรียมจะเก็บของพาอีธานกับเอลล่ากลับบ้าน คุณหมอก็เข้ามารายการเกี่ยวกับผลการตรวจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...