สายตาของธีทัตเป็นประกายมืดมน แววตาเยือกเย็น แต่ว่าตอนที่ญาธิดาหันหน้ามานั้น อารมณ์ทั้งหมดก็ถูกซ่อนเอาไว้ กลับมาเป็นเหมือนปกติ
เขาจับไหล่ของเธอเบาๆ และพูดว่า “หลายวันมานี้คุณเหนื่อยมามากแล้ว กลับไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ เดี๋ยวผมจะให้ป้าเตรียมอาหารไว้ให้คุณกับเด็กๆ ”
ญาธิดารู้สึกอุ่นใจ เธอยิ้มให้กับเขา เธอรู้สึกประทับใจเพราะการให้อภัยและการยอมรับของเขา ก็เลยก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับกอดเขาเบาๆ “ทัต ขอบคุณสำหรับการยอมรับและการให้อภัยของคุณนะ”
ธีทัตชะงักไป หลังจากนั้นก็ยกมือขึ้นมาลูบผมของเธอเบาๆ พร้อมกับพูดอย่างอ่อนโยนว่า “แค่คุณรับรู้ถึงความดีของผมก็พอแล้ว”
ญาธิดายิ้มพร้อมกับพูดว่า “ฉันรู้มาโดยตลอดแหละ”
พอพูดจบ เธอก็ปล่อยเขา ทั้งสองคนยิ้มให้กัน และญาธิดาก็ถือของขึ้นชั้นบนไป
ธีทัตหันหลังไปมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินห่างออกไป และสีหน้าของเขาก็เริ่มเยือกเย็นขึ้นเรื่อยๆ
เขาก็นึกว่าญาธิดาเลิกล้มความตั้งใจที่จะตามหาคนทรยศแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่า เธอจะยังเก็บมันไว้ในใจอยู่ตลอด
พอพูดขึ้นมาแล้ว ก็เพราะว่าเขาเปิดเผยตำแหน่งของเธอให้ภูเขา ถึงได้นำไปสู่เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น รวมถึงเรื่องที่เจ้าอาวาสถูกฆ่าตาย มันก็เป็นเรื่องที่เขาทำให้เกิดขึ้นโดยอ้อมเหมือนกัน
คนที่ญาธิดาเอาแต่พูดว่าจะจับให้ได้นั้น ความจริงแล้วมันก็คือเขา แต่ว่าเรื่องนี้ เขาจะปล่อยให้เธอรู้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เขาทุ่มเทและรอคอยมาหลายปีมันจะสูญเปล่า
ดังนั้น ต้องหาแพะรับบาปมาตัวหนึ่ง เพื่อทำให้เรื่องนี้มันจบลง
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วก็ส่งข้อความหาหมอก “คนที่นายซื้อมาคราวที่แล้ว ตอนนี้ได้ใช้ละ”
พอเห็นว่าข้อความมันถูกส่งไปสำเร็จแล้ว เขาก็ลบข้อความนั้นทิ้งโดยทันทีอย่างไม่ลังเล
ตอนที่เก็บโทรศัพท์และเงยหน้าขึ้นมานั้น ก็เห็นเด็กทั้งสามคนกำลังเล่นแมวจับหนูกันอยู่พอดี พร้อมกับยิ้มและวิ่งเข้ามาหาเขา
อีธานยิ้มและพุ่งเข้ามา “พ่อครับ!ช่วยผมเร็ว!”
เณรศีลกับเอลล่าก็วิ่งตามมาด้านหลัง และเด็กๆ ก็กรีดร้องพร้อมกับหัวเราะอย่างสนุกสนาน
ธีทัตคลี่ยิ้ม พร้อมกับโน้มตัวลงไปอุ้มอีธานขึ้นมา และยกเขาให้สูงขึ้น “แบบนี้ก็จับไม่ได้แล้ว”
อีธานหัวเราะคิกคัก เอลล่ากับเณรศีลที่อยู่ด้านข้างนั้นก็หัวเราะไม่หยุดเหมือนกัน
ภาพเหตุการณ์นี้มันดูเหมือนจะกลมกลืนกันมาก แต่ว่ามีแค่ธีทัตเท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขารู้สึกรังเกียจมันมากแค่ไหน
ไม่ว่าจะเป็นอีธาน เอลล่า หรือว่าเณรศีลในตอนนี้ก็ดี คนพวกนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เหตุผลที่เขายอมรับอีธานกับเอลล่าในตอนแรกนั้น ก็เพราะว่าเขารู้ดีว่านี่คือเชือกที่มัดตรวนญาธิดาเอาไว้ ความจริง เพื่อการเจริญเติบโตของลูก ญาธิดาก็เลยจดทะเบียนสมรสกับเขา ดูภายนอกเหมือนครอบครัวที่สวยงาม แต่ว่าความจริงแล้วไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาที่แท้จริงเลย
5-6ปีแห่งความทรมาน ตัวเขาในปัจจุบันนั้น ไม่อยากจะทุ่มเทอย่างบริสุทธิ์ใจอีกแล้ว เขาอยากให้ตัวเองกับญาธิดาเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง อยากจะมีลูกที่เป็นของพวกเขาทั้งสองคน แต่ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้……
เขาวางอีธานลง แล้วก็ปล่อยให้เด็กทั้งสามคนไปเล่นกันเอง แต่ว่าสายตาของเขามันกลับเยือกเย็นลงเรื่อยๆ
ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่ง เขาจะต้องได้มาทั้งตัวและหัวใจของญาธิดา มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น จะได้คุ้มกับเวลา5-6ปีที่เขาได้เสียไปกับเธอ
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ญาธิดาก็ลงมาจากห้องนอน เธอพึ่งจะอาบน้ำเสร็จ ผมหอม ดูสะอาดสะอ้านเหมือนนักศึกษาสาววัย 20 ปี ผิวเรียบเนียน และใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
ธีทัตกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ พอเห็นเธอใส่ชุดเดรสสีขาวเดินลงมาก็อึ้งไปในทันที เขาพูดอะไรบางอย่างกับคนในโทรศัพท์และวางสายอย่างรวดเร็ว
ญาธิดาเดินเข้าไปตรงห้องครัวเปิด และเทน้ำมะนาวพร้อมกับหันไปมองธีทัตและเอ่ยถามว่า “เด็กๆ ล่ะ? ไม่ได้อยู่ข้างล่างหรอกเหรอ? ”
“ไปเล่นจิ๊กซอว์ที่ห้องเด็กนั่นแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...