ญาธิดาตามอัญมณีเข้าไปบนชั้นของเครื่องประดับ ทั้งชั้นเต็มไปด้วยเครื่องประดับแบรนด์เนมมากมาย มีทั้งแบรนด์จากต่างประเทศ ใช้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงมานาน นำมาแข่งขันกัน จนทำเอาคนตาลายไปหมด
อัญมณีลากเธอเข้าไปในร้านแบรนด์เนมร้านหนึ่ง ชี้ไปยังเครื่องประดับในตู้กระจกที่เด่นที่สุดในร้าน “ธิดาดูสิ อันนี้สวยไหม!”
ญาธิดายิ้มแล้วพยักหน้า “สวยสิ”
“อันนี้ละ?”
“สวย”
“อันนี้แต่ก็อันนี้ล่ะ ประณีตกว่านิดหน่อย เป็นไง?”
“ก็สวยเหมือนกัน”
กวาดตามองไปรอบๆ ทุกที่ที่มองไปต่างก็ประกายแสงวิบวับแสบตา สว่างไสวจนทำให้คนที่เห็นแล้วไม่อาจละสายตาได้ เครื่องประดับแต่งละชิ้นสวยมากจริงๆ แต่ญาธิดากลับรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง
อัญมณีมองดูรอบๆ ใบหน้าย่นขมวดขึ้นมา “รู้สึกว่าสวยหมดเลย แต่ถ้าจะซื้อจริงๆ ฉันก็ไม่ได้อยากได้ขนาดนั้น”
ญาธิดาสูดหายใจเข้า ลังเลสักพัก แล้วพูดเสียงเบาว่า “เพราะถึงแม้พวกนี้จะสวยมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีความแตกต่างกันเลย เหมือนๆกันไปหมด ไม่มีลักษณะเด่นอะไร”
ได้ยินดังนั้น อัญมณีก็พยักหน้าเบาๆ “เธอพูดถูก”
ว่าแล้ว เธอเงยหน้ามองไปยังพนักงาน แล้วถามว่า “ที่นี่ไม่มีสินค้าที่ดีกว่านี้แล้วเหรอคะ?”
พนักงานดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “มีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการดูไหมคะ?”
อัญมณีพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ดูค่ะ”
“ได้เลยค่ะ เชิญคุณลูกค้าตามดิฉันมาเลยนะคะ ไปรอที่ห้องรับแขกก่อน”
ว่าแล้ว พนักงานก็เดินไปข้างหน้า นำทางพวกเขาขึ้นไปชั้นสอง
เมื่อพวกเธอมาถึงชั้นสอง การตกแต่งหน้าร้านที่พวกเขามองเห็นก็ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับพื้นที่จัดแสดงที่ชั้นหนึ่ง ด้านนี้สว่างและกว้างขวางกว่ามาก มีชั้นวางสูงต่างกันและมีสินค้าวางอยู่บนนั้น บางอันก็เป็นรุ่นลิมิเต็ด
เห็นได้ชัดว่า ชั้นสองหรูหรากว่าชั้นหนึ่งเยอะมาก
“ธิดา เธอดูทับทิมนั่นสิ!”
อัญมณีเชิดคางขึ้น ให้ญาธิดามองไปยังสินค้าที่จัดอยู่ตรงนั้นสิ ญาธิดาได้ยินแล้วก็หันหน้าไปมอง พยักหน้าอย่างไม่รู้ตัวแล้วพูดเสียงเบาว่า “สินค้าของที่ดีขึ้นกว่าชั้นหนึ่งเยอะเลยนะ”
อัญมณีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
พนักงานเดินมาตรงหน้าพวกเธอ แนะนำสินค้าบนชั้นวางที่อยู่ตรงหน้าให้พวกเธอทีละชิ้น “คุณลูกค้าคะ เชิญดูทางนี้ค่ะ เครื่องประดับพวกนี้เป็นแบรนด์เฉพาะของทางร้านเรา เป็นรุ่นลิมิเต็ดทั้งหมดเลยค่ะ คุณลูกค้าสามารถดูก่อนได้เลยค่ะว่าชอบชิ้นไหน พวกนี้ไม่มีสินค้าจริงมีแต่รูปภาพ ถ้าหากชอบชิ้นไหนทางร้านค่อยเอาสินค้ามาให้ค่ะ”
พนักงานแนะนำให้พวกเธอ ญาธิดาเดินตามหลังช้าๆ ทันใดนั้น สายตาของเธอก็ชะงักค้างอยู่กับที่ สายตาของเธอหยุดอยู่ตรงชุดเครื่องประดับแซฟไฟร์ สร้อยกับต่างหูเป็นเซตเดียวกัน ไม่แพงมาก แต่ก็ประณีตและสวยมาก ใส่ที่คอแล้ว เหมาะกับเสื้อผ้าแบบเปิดไหล่มากกว่า และวันนี้เธอก็ไปลองชุดแต่งงานเปิดไหล่พอดี เหมาะสมกันมาก……
สังเกตเห็นสายตาของเธอ อัญมณีก็รีบหยุดเดินแล้วหันหน้าไปมองเธอ พูดเสียงเบาว่า “ธิดา สร้อยที่เธอดูสวยมากเลย เหมาะกับเธอมากด้วย”
ญาธิดาพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร
แซฟไฟร์เซตนี้ ทำให้เธอนึกถึงแซฟไฟร์ที่ภวินท์เคยให้เธอก่อนหน้านี้โดยไม่รู้ตัว ต่อมาเธอก็ไม่ได้เก็บไว้ แต่ตอนนี้ยังจำได้อยู่อีก ดูแบบนี้แล้ว เหมือนจะมีความเหมือนกับสร้อยเส้นนี้เลย
อัญมณีเห็นความประทับใจจากแววตาของเธอ ก็รีบเรียกพนักงานแล้วพูดว่า “เอาเซตนี้ออกมาได้ไหม พวกเราอยากดูใกล้ๆหน่อย”
พนักงานตอบตกลง ไม่นานก็เอากุญแจสีเงินออกมาเปิดตู้กระจก ไม่มีกระจก พื้นผิวที่โค้งมนของสร้อยคอเพชรประกายพร่างพรายยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนแสงที่แตกต่างกันภายใต้แสงไฟที่สาดส่องลงมา
ญาธิดามองดูสร้อยคอเส้นนี้ เธอก็ถูกดึงดูดจนไม่อาจละสายตาออกไปได้
สักพักใหญ่ เธอก็ขยับริมฝีปากแล้วพูดว่า “ราคานี้……”
พนักงานบอกราคาเสียงเบา
ญาธิดาได้ยินแล้วก็อึ้งไปทันที ไม่คิดว่า ราคาของแซฟไฟร์เซตนี้จะแพงขนาดนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...