งานก่อนหน้านี้ ถึงแม้พวกบริหารระดับสูงก็ไปด้วย แต่ว่าไม่เคยทำกิจกรรมร่วมกับพนักงานอย่างพวกเขาเลย เพราะฉะนั้นเธอใส่ใจมากเลยว่าภวินท์จะไปพร้อมกับพวกเขารึเปล่า มองดูดวงตาของผู้หญิงที่มัวหมอง เอ่ยปากถามว่า “คุณอยากให้ผมไปกับพวกคุณหรือ?”
ญาธิดาพูดเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “งานทุกปีทุกคนต่างเล่นเกมกัน รู้สึกว่าคุณไม่เคยเข้าร่วมเกมระหว่างพนักงานเลยนะ”
ภวินท์เอ่ยปากด้วยเสียงเบา “ถ้าคุณอยากให้ผมไป ก็ได้นะ”
สิ่งที่เขาติดค้างเธอมันมากพอแล้ว ข้อเรียกร้องเล็กๆน้อยๆแค่นี้เขายังสามารถทำให้เธอพึงพอใจได้
ได้ยินผู้ชายพูดแบบนี้ ญาธิดาเผยสีหน้าที่ดีใจออกมา เธอไม่เคยเห็นภวินท์เล่มเกมมาก่อนเลย ครั้งนี้ได้เปิดหูเปิดตาสักที
เช้าตรู่ของอีกวัน ญาธิดาตื่นนอน และทำงานตามปกติ เพิ่งถึงบริษัทได้ไม่นาน ก็ได้รับอีเมลการแจ้งให้ทราบของทำเนียบประธานาธิบดี
วันครบรอบการก่อตั้งบริษัทก็คือหลังจากอีกสองวัน ในอีเมลยังกำชับสิ่งของจำเป็นที่ต้องพกพา รวมทั้งยังยืนยันสถานที่และเวลาของงานอีกด้วย
ข่าวนี้แพร่ออกไปปุ๊บ ในบริษัทมีทั้งดีใจและเสียใจ มีความคาดหวัง แน่นอนก็ต้องมีคนไม่เห็นด้วย
ญาธิดาไปรินน้ำในห้องน้ำชา ก็ได้ยินเสียงมากมายซึ่งแตกต่างกันออกไป
เธอยกแก้วชาและกำลังจะออกไป จู่ๆพิชญ์สินีที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยปากอย่างกะทันหัน “ยังมีข่าวที่สุดยอดข่าวหนึ่ง พวกคุณรู้รึเปล่า?”
“ข่าวสุดยอดอะไรอ่ะ?”
“งานครั้งนี้ของเรา คุณภวินท์ก็ไปกับเราด้วยนะ ที่ต่างจากปีก่อนๆก็คือ ครั้งนี้เขาจะมากินข้าวด้วยกันและพักด้วยกัน เพิ่มการร่วมกิจกรรมกับพนักงานและแชร์ความรู้สึกอีกด้วย”
“จริงหรือเนี่ย ท่านประธานผู้เย็นชาของเราคนนั้นแม้แต่งานปีก่อนยังไม่หยุดเลยนะเนี่ย ได้ยินว่าประชุมกับนักธุรกิจต่างชาติทางวีดีโอคอลล์ในโรงแรม”
เห็นคนข้างๆไม่เชื่อ พิชญ์สินีพูดด้วยน้ำเสียงที่ยืนยันว่า “จริงๆนะข่าวของฉันเนี่ย เป็นจริงร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนะ”
ทุกคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ต่างคาดเดาและพนันกัน ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆ และก้าวขาเดินออกไปจากห้องน้ำชา
ชมพู่รู้สึกเบื่อๆ ก็เลยตามออกมา รีบวิ่งตามญาธิดาไปแล้วถามว่า “ธิดา เธอว่าไงหล่ะ คุณภวินท์จะไปรึเปล่านะ ”
ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “เขาไปอยู่แล้ว”
เมื่อวานเขารับปากกับเธอด้วยตัวเองเลยนะ ไม่น่าจะโกหกหรอก
ชมพู่หัวเราะ “ถ้าคุณภวินท์ไปจริงๆ งั้นก็สนุกดีนะ”
ญาธิดาได้ยิน สมองเริ่มจินตนาการหน้าตาที่เล่นเกมของภวินท์อย่างไม่รู้ตัว ถึงเวลานั้นเขาคงไม่เล่นเกมด้วยสีหน้าที่เย็นชาหรอกนะ
คิดถึงตรงนี้ปุ๊บ เธอก็อดที่จะยกมุมปากขึ้นมาไม่ได้
เดินไปถึงหน้าประตูห้องทำงาน ชมพู่ยื่นมือจับเธอไว้ “ทานข้าวเที่ยวด้วยกันมั้ย ข้างๆเพิ่งเปิดร้านข้าวหมูซี่โครง ได้ยินว่ารสชาติไม่เลวเลยทีเดียว”
ญาธิดามองดูเวลา ระยะห่างเลิกเที่ยงเหลือแค่ครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอกะะจะตอบรับปาก ใครจะไปรู้ล่ะจู่ๆมือถือก็สั่นขึ้นมาซะงั้น
เธอตื่นตกใจปุ๊บ และก้มหน้าดูหมายเหตุ ตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว
ถึงกับเป็นภวินท์โทรมา!
เธอรีบเก็บมือถือเข้าไป และหัวเราะให้กับชมพู่ “ฉันรับสายก่อนนะ เดี๋ยวค่อยว่ากัน”
พูดอยู่ เธอหันหลังแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงาน และกดปุ่มรับสาย
“ฮัลโหล ”
จู่ๆเขาก็โทรหาเธอในเวลาทำงาน หรือว่ามีธุระด่วนอะไร
เสียงโทนต่ำของผู้ชายดังออกมาจากทางโน้น“ตอนเที่ยงอยากทานอะไร ”
ญาธิดาอึ้งไปก่อน ค่อยๆเอ่ยปาก “เมื่อกี้ชมพู่บอกว่ามีข้าวหมูซี่โครงร้านหนึ่งไม่เลวเลยทีเดียว……”
ผู้ชายทางโน้นพูดอย่างไม่ลังเลว่า “ผมไปเป็นเพื่อนคุณ”
ญาธิดาอึ้ง และงงเล็กน้อย
วันนี้ภวินท์เป็นอะไรเนี้ย นัดเธออกมาทานข้าวด้วยตัวเอง นี่มันผิดจากปกติโดยสิ้นเชิงเลยนะ!
“อ๋า……”ญาธิดากะพริบตา และถามด้วยเสียงเบาๆ “ยังมีธุระยังอื่นใช่ไหม?”
ภวินท์พูดด้วยเสียงนิ่งว่า “อืม ทานข้าวเสร็จ ตอนเย็นผมจะพาคุณไปที่โรงพยาบาล ตรวจเช็คร่างกายแบบครบวงจร”
ญาธิดาได้ยิน ตอบรับด้วยความสงสัย “งั้น…ได้เลย”
“อีกยี่สิบนาทีก็ลงมาได้แล้ว ผมรอคุณอยู่ใต้โรงจอดรถนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...