พอได้ยินชื่อนี้ ญาธิดาก็ตกตะลึงจนตัวแข็ง และความเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ แล้วแพร่กระจายไปตามกระดูกทั่วร่างกายของเธอทันที
เธอหายใจเข้าลึก แสร้งทำเป็นสงบนิ่ง ก่อนจะมองไปที่ภวินท์แล้วพูดว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันคะ? ”
ภวินท์พูดโดยที่สีหน้ายังคงเรียบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง “ตอนนี้เขากับภูผาร่วมเรือลำเดียวกันแล้ว และธีทัตกับภูผาก็ร่วมมือกัน คุณคิดว่าตอนนี้คุณกับธีทัตหย่ากันแล้ว ภูผาจะยอมปล่อยคุณไปหรือเปล่า? ”
คำพูดของเขาดูสมจริงและโหดร้ายมาก ทำให้เธออดที่จะรู้สึกเย็นยะเยือกในใจไม่ได้ ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พาลูกสองคนมาอยู่ข้างนอก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ผลลัพธ์เธอไม่อยากจะคิดเลย
“คุณหมายความว่าฉันอยู่กับคุณจะปลอดภัยกว่าอย่างนั้นเหรอคะ? คุณภวินท์ คุณอย่าลืมนะคะ ว่าคุณเป็นศัตรูหลักของพวกเขา พวกเขากำลังจับจ้องเงินและอำนาจที่คุณถืออยู่ในมือ ดังนั้นฉันอยู่ให้ห่างจากคุณถึงจะปลอดภัยกว่า. . "
ภวินท์มองหน้าเธอนิ่งแล้วพูดออกมาคำต่อคำ “คุณคิดผิดแล้ว คุณไม่มีทางคิดได้ว่าพวกเขาจะโจมตีมายังไง จะโจมตีที่ใคร ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ไม่มีทางที่ผมจะเพิกเฉยต่อคุณได้ พวกเขารู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นคุณต้องอยู่กับผมเท่านั้น”
น้ำเสียงของภวินท์ดูจริงจังมาก แต่ญาธิดายังคงจับจุดสำคัญในคำพูดของเขาได้ เธอหายใจเข้าลึก แล้วพูดออกมาว่า “คุณไม่จำเป็นต้องกังวลว่าฉันจะเป็นหรือจะตายก็ได้”
ภวินท์ตอบเสียงเรียบนิ่ง “ผมทำแบบนั้นไม่ได้”
เขาพูด สายตาของเขาเคร่งขรึม แววตาของเขาซับซ้อน รู้สึกอธิบายไม่ถูก
หัวใจของญาธิดาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ แต่ใบหน้าของเธอเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ เธอจึงพูดต่อ “ทำไมล่ะคะ”
ดวงตาของภวินท์ขยับไปมา แววตาดวงตาของเขาดูซับซ้อนแปลกๆ เขาเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง ก่อนจะพูดเน้นคำออกมา “เพราะอะไรคุณยังไม่รู้อีกหรือไง”
พอมองเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่ม หัวใจของญาธิดาก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย ลำคอของเธออึดอัด เธอหลบสายตาเขาเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู แต่ถูกคำพูดของชายหนุ่มทำให้ชะงักไปทันที. .
“ญาธิดา ผมหวงชีวิตของตัวเองมาก ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายเพื่อคนที่ไม่สำคัญ ดังนั้น ผมรู้สึกกับคุณยังไงคุณน่าจะรู้ดีแก่ใจ”
หาได้ยากที่ภวินท์จะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบนี้ ญาธิดาได้ยินแบบนี้ หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง แรงจูงใจที่ไม่ทราบสาเหตุก็ผุดขึ้นมาในใจของเธอ
ในเวลานี้ บรรยากาศดูน่าอึดอัดเล็กน้อย จู่ๆ เธอก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงติดตลกว่า “คุณกำลังสารภาพรักอยู่หรือไงคะ? คำพูดหยอกเอินที่ไม่น่าเชื่อใจแบบนี้ ฉันไม่ยอมรับหรอกนะคะ”
พอพูดจบ เธอก็รีบเปิดประตู แล้วเดินออกไปทันที
พอเห็นแผ่นหลังของหญิงสาวที่รีบออกไปอย่างรวดเร็ว ภวินท์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เรื่องราวมาจนถึงตอนนี้แล้ว เธอยังทำเป็นไม่รู้เรื่องกับเขาอีก แต่ไม่เป็นไร เขาไม่รีบร้อน ขอแค่รั้งเธอไว้กับเขาได้ ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะต้องขอคำตอบจากเธอได้แน่นอน
พอเขาได้สติกลับมา เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วเปิดดู นอกจากข้อความเกี่ยวกับงานที่ส่งมาจากบริษัทแล้ว ยังมีข้อความที่ดึงดูดสายตาของเขาเป็นพิเศษ
“ผลการตรวจออกมาแล้ว ดีเอ็นเอของเด็กทั้งสองคนกับตัวอย่างเลือด A มีความคล้ายเคียงสูงถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ ดีเอ็นเอของเด็กทั้งสองคนกับตัวอย่างเลือด B บ่งบอกว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดต่อกัน”
มือของเขาที่ถือโทรศัพท์ค่อยๆ กระชับแน่นขึ้น และเลือดในร่างกายของเขาก็เดือดพล่านขึ้นมาทันที
ตัวอย่างเลือด A คืออีเอ็นเอของเขา ส่วนตัวอย่างเลือด B คือของธีทัต
นั่นก็แสดงว่าอีธานกับเอลล่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับธีทัต เลยแม้แต่น้อย!
ในตอนนั้นไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยสงสัยฐานะที่แท้จริงของอีธานกับเอลล่า แต่ตั้งแต่วันนั้นที่เขายืนรอผลตรวจดีเอ็นเอหน้าห้องตรวจของโรงพยาบาล เขาก็ตัดความสงสัยทั้งหมดของเขาทิ้งไปจนหมด
แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าครั้งนั้นจะถูกคนวางแผนหลอก ผลตรวจที่เขาเห็นครั้งแรกเป็นของปลอม! ที่แท้เขาก็ถูกหลอกมานานถึงขนาดนี้!
จู่ๆ ความโกรธก็ปะทุขึ้นมา เขาอยากจะรีบออกไปจับญาธิดามาถามให้ชัดเจน ว่าทำไมถึงปิดบังความจริงกับเขา ทำไมถึงให้ลูกของเขาเรียกผู้ชายคนอื่นว่าพ่อ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...