ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 668

เมื่อได้เห็นข้อความนี้ ที่จริงเธอควรจะดีใจ แต่เบื้องหลังข้อความฉบับนี้มีอะไรซ่อนอยู่มากมาย และเธอสัมผัสได้แต่ความเยือกเย็นเท่านั้น

ทำไมเขาถึงจะยอมปล่อยพ่อแม่ของเธอไปหลังจากวันนี้ หรือว่าวันนี้เขาตั้งใจจะทำอะไรอย่างนั้นเหรอ? แผนของเขาคืออะไรกันแน่? สิ่งที่เขาให้เอาใส่ลงไปในคอมพิวเตอร์ของภวินท์มันคืออะไร? และจะเกิดผลอะไรตามมา?

คำถามยุ่งเหยิงมากมายอัดแน่นอยู่ในหัวของเธอ ทำเอาเธอคิดอะไรไม่ออกเลย

ตอนแรกเธอเคยพยายามจะเปิดดูเนื้อหาข้อมูลข้างในแฟลชไดร์ฟว่ามันคืออะไร แต่เธอกลับพบว่าไฟล์พวกนั้นเป็นเอกสารที่ต้องเข้ารหัส และที่น่ากลัวไปมากกว่านั้นคือการเข้ารหัสมีการตั้งเวลานับถอยหลังเอาไว้ เมื่อเลยเวลาที่กำหนดเอาไว้ก็จะสามารถเปิดอ่านมันได้ เหมือนกับระเบิดเวลาที่หลังจากถูกฝังเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะระเบิดตามเวลาของมันเอง

แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าของที่อยู่ข้างในคืออะไร แต่ก็พอจะเดาได้บ้างแล้ว มันต้องมีพลังพลังมากกว่าระเบิดเวลาอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลามันก็จะระเบิดและส่งผลทำลายร้ายแรงแน่

ในเมื่อเขาให้ใส่มันเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของภวินท์ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าภวินท์ก็คือเป้าหมายที่ภูผาต้องการจะทำลาย

พอคิดแบบนี้แล้ว ตัวของเธอเริ่มสั่นอย่างห้ามไม่ได้ เธอพยายามบอกกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามสูดหายใจเข้าลึก ๆ ค่อย ๆ ขจัดความวิตกกังวลในใจ บังคับให้ตัวเองสงบลงมากที่สุด

เมื่อมาถึงหน้าประตูSTN Group เธอเปิดประตูลงจากรถด้วยใบหน้าซีดขาว แขนขาไร้เรี่ยวแรง เธอถือกล่องอาหารกลางวันขึ้นลิฟต์ตรงไปที่ห้องทำงานของท่านประธาน

เมื่อขึ้นไปถึงหน้าประตูหน้าห้องประธาน ผู้ช่วยของภวินท์ก็เข้ามาบอกกับเธอว่า “คุณภวินท์กำลังรับแขกคนสำคัญ คงไม่ได้ออกมาเร็ว ๆ นี้ คุณญาธิดาจะรอก่อนไหมคะ?”

เดิมทีญาธิดายังคงรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่บ้างและอยากไปพักก่อนสักหน่อย พอได้ยินผู้ช่วยบอกแบบนี้เธอจึงรีบหันไปพยักหน้าตอบตกลงทันที “อืม ฉันจะรอ”

ผู้ช่วยพยักหน้า “ค่ะ เชิญตามมาเลยค่ะ”

จากนั้นเขาก็พาเธอไปที่ห้องรับแขกข้าง ๆ หลังจากเสิร์ฟชาให้เธอแล้วเขาก็เดินออกไปจากห้อง

ทันใดนั้นทั้งห้องก็มีแค่ญาธิดาคนเดียว เธอหอบหายใจจนผ่านไปพักใหญ่ ความตึงเครียดก็ค่อย ๆ คลายลง และรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เธอก็นั่งจิบชาอยู่ในห้องนั่งเล่น เปิดอ่านนิตยสาร ก่อนที่เวลาจะผ่านไปกว่ายี่สิบนาทีโดยไม่รู้ตัว เธอเหลือบมองนาฬิกาบนผนังและก้มมองไปที่กล่องอาหารกลางวันบนโต๊ะ แล้วลังเลอยู่พักหนึ่ง

ถ้าไม่เอาอาหารไปส่งให้ภวินท์ตอนนี้ อีกเดี๋ยวก็คงจะเย็นหมดแล้ว แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ทางฝั่งภวินท์ก็ยังไม่เสร็จงาน

ทันใดนั้นประตูห้องรับแขกก็ถูกเปิดออก ผู้ช่วยผู้หญิงปรากฏตัวที่หน้าประตู

ญาธิดาดีใจและรีบเอ่ยถามขึ้นว่า “ทางนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?”

ผู้ช่วยชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบกล่าวขอโทษเธอพร้อมรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว “ยังค่ะ แต่เมื่อกี้มีผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมา เธอจากแผนกการตลาดแจ้งว่าผู้อำนวยการคุณชมพู่เรียกหาคุณ ให้คุณขึ้นไปที่ดาดฟ้าบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับคุณค่ะ”

ญาธิดาตกใจเล็กน้อย

มีคนกำลังตามหาเธอ?

แปลกจังเลย ตอนนี้เธอไม่คุ้นเคยกับคนในบริษัทเลยนี่นา!

ขณะที่คิด ปากของเธอก็พึมพำไปด้วยว่า “ผู้อำนวยการคุณชมพู่ ฝ่ายการตลาด…”

สองวินาทีต่อมาเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

หรือว่าจะเป็นชมพู่! เมื่อห้าปีที่แล้วเธอกับชมพู่อยู่ฝ่ายการตลาดด้วยกัน ตอนที่เธอออกจากที่นี่ชมพู่ก็ได้ขึ้นเป็นรองผู้อำนวยการอยู่แล้ว ตอนนี้ก็สมควรจะเลื่อนขึ้นเป็นผู้อำนวยการแล้ว

เธอรู้สึกดีใจเมื่อจะได้เจอเพื่อนเก่า แต่วินาทีต่อมาเธอก็นึกสงสัยขึ้นมาในใจ

เธอมา STNอย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่ได้บอกให้ใครรู้ แถมตอนนี้ก็มีแค่ไม่กี่คนในบริษัทที่รู้จักเธอ ชมพู่รู้ได้ยังไงว่าเธอมาที่นี่?

ญาธิดารู้สึกสงสัยจึงถามผู้ช่วยออกไปว่า “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?”

ผู้ช่วยสาวยิ้มให้อย่างมีมารยาทและตอบว่า “ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ คนที่มาแจ้งรออยู่ข้างนอก คุณสามารถถามเธอได้ค่ะ”

พอได้ยินแบบนั้น ญาธิดาจึงลุกขึ้นเดินออกไปทันที

แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ว่า ห่างจากประตูห้องนั่งเล่นไม่กี่เมตรมีเด็กสาวคนหนึ่งยืนอยู่ท่าทางดูเฉลียวฉลาด ใบหน้าดูมีไหวพริบไม่น้อย

เมื่อเด็กสาวเห็นเธอก็รีบเดินเข้ามาทักด้วยรอยยิ้ม “คุณคือพี่ธิดาใช่ไหมคะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์