“ยิ่งอยู่ยิ่งไม่ได้เรื่องจริงๆ !”
“ก็ใช่น่ะสิ บริษัทเพิ่งสงบได้มากี่วัน ก็มีข่าวเน่านี่ออกมาอีก”
“คุณวิชัยเป็นถึงเสาหลักของพวกเรานะครับ ถ้าครั้งนี้คุณวิชัยยังไม่เจรจากับคุณภวินท์ ชีวิตหลังจากนี้ของพวกเราคงลำบากแน่ๆ”
ท่ามกลางเสียงซุบซิบของผู้ถือหุ้น ภวินท์นั้นเดินเข้ามาแล้วนั่งลงประจำที่ของตัวเอง สีหน้าของเขาไม่ได้โกรธแต่อย่างใด บรรยากาศภายในห้องประชุมเงียบลงในทันที
ญาธิดาเพิ่งจะนั่งลงข้างเขา เสียงของวิชัยก็ดังขึ้นในทันที “คุณภวินท์ คุณให้เธอตามติดตัวอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ ไม่ดีมั้งครับ?”
“ไม่ดียังไง?” ภวินท์เงยหน้าขึ้น ดวงตาคมที่เหมือนเหยี่ยวกวาดตามองเอย่างเฉียบขาด
พอเห็นว่าเขาเตรียมใช้อำนาจต่อภวินท์ ผู้ถือหุ้นที่อยู่รอบๆ ก็รีบร่วมมือในทันที “เธอเป็นภรรยาของธีทัต ดูก็รู้ว่ามาล้วงความลับทางธุรกิจของบริษัทพวกเรา”
วิชัยที่มีคนช่วยพูด อารมณ์ก็ยิ่งแรงมากขึ้น เขาลุกขึ้นทันทีและทำท่าเตรียมตัวจะออกไป “ถ้าคุณยังยืนยันที่จะให้เธอร่วมการประชุมที่สำคัญแบบนี้ งั้นผมขอถอนตัวจากการประชุมผู้ถือหุ้นตอนนี้เลยครับ”
สีหน้าของภวินท์ยังคงเหมือนเดิม เขาโบกมือเป็นสัญญาณให้พายุ “ส่งคุณวิชัยออกไป”
“ภวินท์! แก......”
เดิมทีเขาแค่อยากขู่ภวินท์เฉยๆ แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ จะออกไปก็ไม่ใช่ จะอยู่ต่อก็ไม่ใช่
พอจะดูออกว่าเขาไม่ได้อยากออกไปจริงๆ ภวินท์ถึงพูดขึ้นช้าๆ ว่า “เริ่มการประชุมเหมือนเดิมได้หรือยังครับ?”
วิชัยกลับไปนั่งประจำที่อย่างขายหน้า สีหน้าของเขาดูแย่ขึ้นมากกว่าเดิม
ญาธิดารู้ตัวดี ว่าการปรากฏตัวของเธอทำให้เขาลำบากมากมาย พอเห็นสายตาของพวกผู้ถือหุ้นที่มองมาทางตัวเองไม่หยุด ปลายเล็บของเธอจิกแฟ้มเอกสารริมโต๊ะอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“คุณภวินท์ครับ ตอนนี้บริษัทพัฒนาไม่เท่าเมื่อก่อน แล้วตอนนี้ก็ยังมาเจอข่าวขายหน้าแบบนี้อีก คุณจะให้พวกเราผู้ถือหุ้นเอาอะไรไปเลี้ยงครอบครัวครับ”
ภวินท์โยนเอกสารของEAST Residencesในมือให้วิชัยและตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “ที่ทุกท่านนั่งอยู่ที่นี่ตอนนี้ ไม่ใช่เพราะว่าอยากได้ส่วนแบ่งของEAST Residencesอยู่เหรอ?”
“เฮอะ” สิ่งที่วิชัยคิดจะมุบมิบถูกแฉ เขาจึงรีบกระแอมเพื่อจะกลบเกลื่อน
เขาผลักเอกสารตรงหน้าออก แล้วชักสีหน้าที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ตอนนี้เรื่องเน่าของบริษัทมีเป็นกอง บริษัทข้ามชาติJV จะร่วมงานกับSTNได้ยังไง พอโครงการEAST Residencesล้มไม่เป็นท่า ผมจะรอดูว่าคุณจะอธิบายเรื่องนี้ให้พวกเรายังไง”
“ไม่จำเป็นต้องอธิบาย” ภวินท์ยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้าง มองไปที่เขาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม แล้วถามออกมาทีละคำ “คุณควรจะหวังให้STNล้มไม่เป็นท่าถึงจะถูก”
“แกหมายความว่ายังไง!” วิชัยทั้งซีดทั้งแดง รีบชักสีหน้าใส่เขาทันที
ดวงตาของภวินท์เย็นวาบขึ้น ในขณะเดียวกันพายุเปิดโปรเจคเตอร์ รูปภาพหลายรูปถูกฉายบนจอแล้วเลื่อนไปเรื่อยๆ
ในรูปคือสถานการณ์ที่วิชัยนัดเจอกับใครบางคนที่คาเฟ่ ซึ่งผู้ชายคนนั้นคือศัตรูคู่แข่งของSTN Group บนโต๊ะวางเอกสารสัญญาที่เหมือนกันไว้สองชุด ท่าทางทั้งสองคนทำให้คนคิดไปไกลได้
พอเห็นภาพพวกนี้ ผู้ถือหุ้นคนอื่นก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ มองไปทางเขาแล้วถามอย่างบังคับว่า “คุณวิชัย พวกเราทำงานตามที่คุณสั่งตลอด ภาพพวกนั้นมันอะไรกัน”
พอเห็นเขาไม่ตอบอะไร พายุจึงก้าวขึ้นมาข้างหน้า แล้วอธิบายด้วยน้ำเสียงราบนิ่งว่า “ลับหลังคุณวิชัยได้ขายหุ้นของตัวเองไปแล้วครับ ที่ยังอยู่ที่นี่เพราะว่าอยากใช้โอกาสนี้ในการซื้อหุ้นของพวกคุณแล้วขายมันต่ออีกครั้งเท่านั้นครับ”
เกิดความโกลาหลขึ้นในห้องประชุม ภวินท์ถึงจะมองไปที่เขาแล้วพูดขึ้นช้าๆ ว่า “น่าเสียดาย คุณสันต์ที่พบคุณวันนั้นขายหุ้นให้ผมต่อ”
พูดจบ พายุก็วางหนังสือโอนหุ้นลงตรงหน้าญาธิดา น้ำเสียงเรียบนิ่งของภวินท์ดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...