หน้าผากของอีธานมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด เขาไม่ได้ร้องไห้ แต่ดึงทิชชูออกมาซับบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บเอาไว้อย่างใจเย็น
“อีธาน!”ญาธิดาร้องอย่างตกใจ วิ่งตรงไปทางลูกชาย
ภวินท์เร็วกว่าเธอก้าวหนึ่ง รีบโอบอีธานเอาไว้ในอ้อมแขนเพื่อปลอบใจ
อีธานที่เมื่อครู่ยังคงเข้มแข็งและใจเย็นอยู่หลังจากได้รับความรู้สึกปลอดภัยที่คุ้นเคยแล้ว ก็ซุกหน้าไปที่อกของเขา ทิ้งรอยน้ำตาไว้บนเสื้อเชิ้ตของเขา
รับรู้ได้ว่าอีธานที่อยู่ในอ้อมอกของเขากำลังตัวสั่นเทาไม่หยุด เสียงที่เยือกเย็นของเขาดังกังวานขึ้นในห้อง “คุณอนณ รบกวนช่วยเชิญหมอประจำตัวของคุณไปที่ห้องของผมด้วย”
สิ้นเสียงพูด แววตาที่ดูลึกล้ำไร้จุดสิ้นสุดมีประกายกระหายเลือดเต็มไปหมด ค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้พี่ยู่ยี่ หลุบตามองลงไปมองเธอ ราวกับซาตานที่เพิ่งจะลงมายังโลกมนุษย์
พี่ยู่ยี่อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงไป รู้สึกเพียงแค่ว่าขาทั้งสองข้างเริ่มชา อยากจะหนีไปให้พ้นแต่กลับก้าวไม่ออกเลยสักนิด ได้แต่จ้องมองภวินท์ที่เตือนเธอเป็นครั้งสุดท้ายด้วยตาปริบๆ
“เมื่อครู่คุณบอกว่าจะถอนตัวจากรายการ”ในน้ำเสียงของภวินท์ฟังไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ใด กลับยิ่งทำให้รู้สึกหวาดกลัว
พี่ยู่ยี่รีบเข้าไปดึงขากางเกงของเขาเอาไว้ น้ำเสียงสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว“ คุณภวินท์ ได้โปรดฟังฉันอธิบายก่อน ฉัน……”
ความเย็นชาในดวงตาของภวินท์ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น สะบัดมือของเธอออกอย่างรังเกียจ เธอล้มลงไปกับพื้นทันทีพร้อมกันนั้นของที่พกติดตัวก็ตกกระจาย ดูเข้ากับสภาพน่าสมเพชของเธอพอดี
“ตอบคำถาม ”เสียงของเขาดังขึ้นอีกครั้ง
พี่ยู่ยี่รู้ตัวว่าเจอคนจริงเข้าให้แล้ว และไม่กล้าจะดิ้นรนต่อหน้ากล้องไปมากกว่านี้ ได้แต่ตอบด้วยเสียงสะอึกในลำคอ“ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบหายตัวไปซะ อย่าให้ผมต้องลงมือเอง”น้ำเสียงของเขาไม่หนักหน่วงมาก แต่พี่ยู่ยี่กลับได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ
หลังจากที่คุณอนณจัดการเรื่องหมอส่วนตัวแล้วก็เดินกลับมาที่ห้องอีกครั้ง สายตาของภวินท์มีแววบีบบังคับที่มากพอจะทำให้รู้สึกกลัวขึ้นมา กวาดตามองเธออย่างเย็นชา พาเอลล่าและญาธิดาเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพี่ยู่ยี่หรือว่าคอมเมนท์ที่เคยอวดดีก่อนหน้านี้ ต่างก็ตกอยู่ในความเงียบขรึม
บาดแผลของอีธานไม่สาหัสมาก เป็นเพียงการถลอกของผิวภายนอกเท่านั้น เพียงแต่ลักษณะของเขาค่อนข้างพิเศษ จึงทำให้ดูเหมือนว่าแผลนั้นสาหัสมาก หลังจากห้ามเลือดในเบื้องต้นก็ไม่เป็นไรแล้ว
“คุณพ่อ หลังจากหายดีแล้วหน้าผากของผมจะมีแผลเป็นหรือเปล่า”เสียงเล็กๆของอีธานดังขึ้น
ภวินท์ได้ยินคำถามแล้ว แววตาที่เย็นชาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที
เขาค่อยๆปลดกระดุมแขนเสื้อเชิ้ต เผยให้เห็นรอยแผลเป็นบนแขนทั้งสองข้าง เอ่ยตอบเบาๆว่า “การจะเป็นลูกผู้ชายอกสามศอก ก็ต้องยอมรับสัญลักษณ์แห่งความกล้าที่ดูโหดร้ายเหล่านี้ให้ได้ ”
อีธานเอียงหน้า มือน้อยๆลูบไปที่แผลเป็นของเขา ใบหน้าไร้เดียงสามีรอยยิ้มผุดขึ้นมา “คุณพ่อพูดถูก ลูกผู้ชายมีควรกลัวการเสียเหงื่อและเสียเลือด”
ภวินท์พยักหน้า ฝ่ามือจับที่เส้นผมอ่อนนุ่มของอีธาน “วางใจได้ บาดแผลเล็กแค่นี้ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้หรอกนะ“
ญาธิดามองดูภาพที่รักใคร่กลมเกลียวกัน ก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ก่อนหน้านี้เธอเป็นห่วงว่าจะทำให้อีธานตื่นตกใจ ตอนนี้ดูแล้วอีธานมีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มากทีเดียว จุดนี้คล้ายคลึงกับภวินท์มาก
“คุณแม่ ได้ยินที่คุณพ่อพูดหรือเปล่า ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ”
ก่อนหน้านี้เขากลัวว่าแม่จะเป็นห่วงเขาเกินไป ฉะนั้นจึงไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับแม่ ตอนนี้จิตใจของเขาสงบลงแล้ว ยังมีอารมณ์หันกลับมาปลอบใจแม่
ในใจของญาธิดาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ค่อยๆเดินเข้าไป “วิน คุณกลับไปรอฉันก่อน ฉันขออยู่กับอีธานและเอลล่าตามลำพังสักครู่ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...