ภวินท์มาปรากฏตัวข้างๆ ทั้งสองคนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขาคว้าข้อมือของนพเก้าไว้แน่น เอ่ยเตือนด้วยเสียงเย็นชา "กฎของที่นี่ เท่านี้ก็ถือว่าพอแล้ว"
เธอจ้องไปที่ญาธิดาอย่างไม่เต็มใจเมื่อได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น เตรียมชักมือกลับ แต่แรงบนมือของภวิน์กลับเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน และผลักเธอออกไป
เธอไม่คิดว่าภวินท์จะมีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้ ในขณะเดียวกัน เมื่อเธอรู้สึกเจ็บข้อมือ เธอก็ถอยหลังไปสองก้าวโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็กุมข้อมือตัวเองและมองมาที่ภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ภวินท์เอื้อมมือไปหาญาธิดา
ดึงเธอขึ้นแล้วโอบเธอเข้ามาในนอ้อมแขนด้วยการกระทำที่เป็นธรรมชาติ "ไปกันเถอะ"
“เดี๋ยวก่อน!” นพเก้ากังวลและหงุดหงิดในใจ เธอก้าวไปข้างหน้าไปขวางพวกเขา กล่าวเตือนอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์แบบนี้ไปปฏิบัติภารกิจด้วยหรอกนะ ถ้าเธอไม่ยอมถอนตัว ฉันก็จะไปพูดเรื่องนี้กับจรณ์เอง”
สีหน้าของภวินท์มืดมนอย่างยิ่ง แม้แต่อากาศโดยรอบก็ดูเหมือนจะเย็นยะเยือกลง
ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยเผยให้เห็นแสงอันตราย "เธอจะทำภารกิจได้หรือไม่ได้ มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ กลับไปทำหน้าที่ของคุณเถอะ หรือไม่อย่างนั้นก็ไสหัวกลับสำนักงานใหญ่ไป”
“วิน คุณ...”
ฮกัดฟันด้วยความโกรธ จ้องมองแผ่นหลังของธาธิดาที่กำลังเดินออกไปอย่างโกรธเคือง ประกายแดงฉานวาบผ่านดวงตาของเธอ
การฝึกสองสามวันสิ้นสุดลงในไม่ช้า และญาธิดาก็ได้รับแจ้งจากจรณ์
ภารกิจในครั้งนพเก้าเป็นผู้บัญชาการสูงสุดอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ ซึ่งต้องรับผิดชอบงานหลักร่วมกัน ในขณะที่เธอต้องรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของนพเก้า เพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะสามารถทำภารกิจได้สำเร็จลุล่วง ส่วนอลิสารับผิดชอบงานเบื้องหลัง คอยวิเคราะห์สภาพจิตใจด้านทักษะการต่อสู้ของทั้งสองคนจากทางไกล
ตอนห้าโมงเย็น รถตู้ที่ไม่เด่นสะดุดตามาจอดที่ทางเข้าของozone นพเก้า และ าธิดาสวมชุดสูทสีดำแบบเดียวกัน และมีหูฟังบลูทูธแบบพิเศษติดหู จากนั้นก็ขึ้นรถไปพร้อมกับคนอื่นๆ
ภารกิจครั้งนี้ไม่ถือว่าเข้มงวดเท่าไหร่ ที่ญาธิดาและอลิสาได้เข้าร่วมเพราะสำนักงานใหญ่อยากให้โอกาสผู้มาใหม่ เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่น นพเก้าที่ เป็นดั่งอาวุธลับมาเข้าร่วมด้วย
นพเก้ากางผังตำแหน่งตกแต่งภายในของบาร์บนเบาะรถ เอ่ยพูดอย่างเย็นชา: "หลังจากไปถึงที่หมายแล้ว ทุกคนจะยืนตามจุดต่างๆในฐานะลูกค้า และคอยสื่อสารโต้ตอบกับคนในทีมตลอดเวลา เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ส่วนญาธิดา... …”
เธอชะงักเล็กน้อย ประกายวาบในดวงตาของเธอก็หายไปในความมืด "คุณมีหน้าที่คุ้มกันฉัน เพื่อให้ฉันอัดคลิปเสียงได้สำเร็จ และในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับต้องรอให้แน่ใจก่อนว่าภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และรอให้ฉันกลับไปอย่างปลอดภัยก่อน ถึงจะถอนตัวออกมาได้”
เมื่อญาธิดาได้ยินแบบนั้น ก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีแปลกๆ จากนั้นสีหน้าเคร่งขรึมของอลิสาก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ เช่นเดียวกับคำว่า "ระวังตัวด้วย" ที่อีกฝ่ายค่อนข้างเน้นย้ำเป็นพิเศษ
แต่แผนของนพเก้าไม่ได้แตกต่างไปจากงานที่จรณ์มอบให้เธอเท่าไหร่นัก เธอทำได้เพียงปลอบตัวเองว่าอาจจะแค่กังวลมากเกินไป
รถหยุดที่ประตู "Triangle Bar" อย่างรวดเร็ว ด้านหน้าประตูมีแสงวิบวับ ผู้หญิงที่นุ่งน้อยห่มน้อยยืนอยู่ที่ประตู เอาผมทัดหูด้วยท่าทางเขินอายเมื่อมีผู้ชายเดินผ่านมา
ยังไม่ทันเดินเข้าไปข้างใน กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนๆก็พุ่งเข้าจมูกของญาธิดา เธออดไม่ได้ที่จะส่งเสียงแหวะจะอวกออกมา นพเก้ามองมาที่เธออย่างรังเกียจ จากนั้นทั้งสองคนก็อาศัยทางเดินที่ไม่มีกล้องเดินเข้าไปในห้องเก็บของ
“ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน อย่าทำตัวเกะกะล่ะ” น้ำเสียงของนพเก้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ จากนั้นก็โยนเสื้อผ้าของพนักงานเสิร์ฟใส่เธอ
พวกเธอต้องปลอมตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ให้บริการแขก และแอบเข้าไปในห้องวีไอพีเพื่ออัดคลิปเสียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...