ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 743

ขณะที่เธอกำลังสงสัยอยู่นั้น จู่ๆ ข้างล่างก็มีเสียงแหลมๆ ของผู้หญิงดังขึ้นมา เสียงดังมากจนทั้งคู่ขนาดอยู่ชั้นบนยังได้ยินอย่างชัดเจน

“แกออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ขวัญตานังคนชั้นต่ำล่ะ!”

ขวัญตาที่อยู่บนเตียงพอได้ยินแบบนี้ ร่างกายก็สั่นสะดุ้งอย่างไม่ตั้งตัว ใบหน้าที่เดิมทียิ้มแย้ม ก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวขึ้นมาทันที

ญาธิดากุมมือของเธอไว้แน่น พูดปลอบเธอด้วยเสียงที่นุ่มนวล ในขณะเดียวกันแววตาก็ดูเยือกเย็นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ผ่านไปสักพัก เสียงที่รีบร้อนลนลานของพี่ส้มก็ดังใกล้เข้ามา “คุณนารา อย่าทำให้ฉันลำบากใจอีกเลย ฉันเป็นแค่พี่เลี้ยงที่ทำงานเล็กๆ น้อยๆ ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น”

“ไอ้แก่ อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแกแล้วกัน!” คนข้างนอกประตูพูดขึ้นพลางเปิดประตูออกมา พูดด่าทอออกมาเสียงดัง “ขวัญตา แกนังชั้นต่ำหน้าไม่อาย……”

นาราพูดยังไม่ทันจบเสียงก็เงียบลงไป มองสำรวจญาธิดาหัวจรดเท้า ไฟโกรธแค้นในแววตาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น “ไม่คิดว่าธีทัตจะแอบซุกผู้หญิงถึงสองคน!แกเป็นใคร!”

เธอชี้นิ้วที่เต็มไปด้วยเพชรคริสตัลเต็มไปหมดมาที่ญาธิดา

“ฉันเป็นเพื่อนของขวัญตา แล้วคุณเป็นใครคะ?” ญาธิดาเลิกคิ้ว พูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา

นารามองเธอด้วยสีหน้าท่าทางหยิ่งยโส ในใจยังคงรู้สึกไม่สบอารมณ์ ทำท่าทางเหยียดหยามเธออย่างอดไม่ได้ พูดดูถูกออกมา “ดูจากใบหน้าปากแหลมแก้มตอบน่าเกลียดๆ ของแกก็รู้แล้วว่าแกไม่ใช่คนดีอะไร ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเมียน้อยของใครก็ได้ เป็นนังชั้นต่ำที่แย่งสามีของคนอื่นทั้งเพ”

ญาธิดาได้ยินแบบนั้นก็ไม่รู้สึกโกรธแต่กลับยิ้มแย้มด้วยซ้ำ มองเธอเหมือนกับกำลังมองตัวตลกอย่างไรอย่างนั้น “ฉันไม่ใช่เมียน้อยของใครทั้งนั้น ฉันญาธิดา ภรรยาของภวินท์ สถิรานนท์ ประธานของ STN Group”

“กะอิแค่STN Group ฉันเป็นลูกสาวของประธาน Hali Group ถ้าแกเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ดี ก็อย่ามายุ่งเรื่องระหว่างฉันกับขวัญตาจะดีกว่านะ จะได้ไม่หาเหาใส่หัวตัวเอง” นาราสีหน้ายโสโอหังอย่างถึงที่สุด

ญาธิดาก็ยิ้มเย้ยหยันมากขึ้น

Hali Groupบริษัทนี้เธอก็พอได้ยินมาอยู่บ้าง อติรุจที่เป็นประธานในตอนนั้นได้รับโอกาสที่ใหญ่มากๆ ที่ต่างประเทศ ใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะจัดตั้งบริษัทเล็กๆ แบบนี้ขึ้นมาได้ ถีบตัวเองจนร่ำรวยขึ้นมาเป็นเศรษฐีใหม่

ปีนี้ธุรกิจที่ต่างประเทศทำต่อไปไม่ได้แล้ว Hali Groupใกล้จะล้มละลาย อติรุจจึงทำได้แค่พาชื่อเสียงของบริษัทกลับมาพัฒนาภายในประเทศแทน บังเอิญก่อนหน้านี้ตอนที่เธอช่วยภวินท์บริหารจัดการบริษัทก็เคยตรวจสอบคัดกรองบริษัทนี้มาก่อน

เพราะว่าHali Groupวัยวุฒิไม่ค่อยสูง ก็เลยไม่ถึงมาตรฐานที่จะร่วมงานกันกับSTN ดังนั้นก็เลยถูกเธอปัดทิ้งไป คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินชื่อของบริษัทนี้อีกครั้งด้วยวิธีการแบบนี้

นาราคนนี้เดิมที่ก็ไม่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว บวกเข้ากับเพิ่งจะกลับประเทศมายังไม่ทันได้สัมผัสกับแวดวงธุรกิจภายในประเทศ การที่จะไม่รู้เกี่ยวกับSTN Group และไม่รู้จักเธอนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

พอได้ยินนารา ยิ่งด่ายิ่งเกิดอารมณ์ฮึกเหิมแบบนั้น สีหน้าของพี่ส้มก็ยิ่งดูแย่ลงเรื่อยๆ มองญาธิดากับขวัญตาพร้อมกับพูดอธิบายขึ้น “คุณญาธิดา คุณผู้หญิง ฉันรั้งคุณนาราไว้ไม่อยู่จริงๆ ค่ะ……”

เพี๊ยะ……

ไม่รอให้เธอพูดจบ นาราก็โบกมือตบเข้าไปที่หน้าของเธอหนึ่งที

เห็นได้ชัดว่าตบเข้าไปอย่างแรง ที่หน้าของพี่ส้มแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่นารากลับไม่แยแสสนใจ พูดตะคอกออกมา “คุณผู้หญิงอะไรกัน คนที่ธีทัตจะแต่งงานด้วยคือฉัน”

ตบนี้เหมือนกับดึงขวัญตากลับเข้าไปในความทรงจำเมื่อครั้งอดีต ร่างกายที่ผอมบางของเธอเริ่มสั่นกระส่ายเล็กน้อย ญาธิดารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเธอ แววตาก็ยิ่งมืดมนมากขึ้น มองพี่ส้มด้วยสายตาเย็นชาพร้อมกับพูดสั่งกำชับขึ้น “ตบกลับไป”

พี่ส้มกับนาราอึ้งตะลึงไปพร้อมกัน

“คุณญาธิดา แบบนี้มันไม่ได้หรอกนะคะ”

บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดูหนักอึ้งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ญาธิดาก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเธอยังไงดี บังเอิญพี่โอ๊ตโทรศัพท์มาพอดี ทำลายบรรยากาศภายในห้อง

ขวัญตายิ้มเล็กน้อยอย่างโล่งใจ “ไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”

ญาธิดาพยักหน้าตอบรับ หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ของตระกูลกรเวชแล้ว ระหว่างทางกลับก็โทรศัพท์กลับไป

เสียงของพี่โอ๊ตดังขึ้นมาทันที “ธิดา หนังปีใหม่ที่พี่บอกกับเธอครั้งที่แล้วเริ่มมาลองฟิตติ้งแล้วนะ แถมคุณลีก็ให้ความสนใจกับหนังปีใหม่นี้เป็นอย่างมากเลยด้วย เชิญคนมาฟิตติ้งที่ห้องโดยเฉพาะเลยล่ะ แทบจะไม่จำเป็นต้องปล่อยเวลาให้กับเธอเลย ถ้าไม่ตัดสินใจอีกก็จะไม่มีโอกาสแล้วจริงๆ นะ”

พอนึกถึงสีหน้าท่าทางที่ปรารถนาของอีธานกับเอลล่าตอนที่แสดงนั้น เธอก็ครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะพูดตอบกลับไปเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนพี่โอ๊ตเชิญคนมาถึงบ้านด้วยค่ะ อีธานกับเอลล่าอยู่ที่บ้านพอดี”

เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอตั้งใจพูดเสริมไปอีกประโยค “พี่เอาสัญญาที่พวกเราเซ็นลงชื่อกันในตอนแรกมาด้วยนะ ฉันจำเป็นต้องแก้ไขสัญญาใหม่”

“คุณผู้หญิงจะไปหาผู้จัดการที่ดีขนาดนี้แบบผมที่ไหนได้อีกล่ะ!” พี่โอ๊ตลากเสียงออกมาอย่างเศร้าเสียใจ จากนั้นก็พูดถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมจู่ๆ ถึงจะแก้ไขสัญญาล่ะ พี่ยังดูแลจัดการได้ไม่ผ่อนคลายพออีกเหรอ?”

“ไม่ใช่ๆ พี่ดูแลพวกเราแม่ลูกได้ดีมากแล้ว” เธอรีบพูดอธิบาย “เนื่องจากอีธานกับเอลล่าถึงอายุที่ต้องเข้าเรียนแล้ว ดังนั้นจำเป็นต้องจัดระเบียบเวลาใหม่ ตราบใดที่มีการแก้ไขสัญญา ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายกรณีผิดสัญญาตามเนื้อหาแน่นอน”

หลักๆ แล้วคือเธอกลัวว่าภายหลังอีธานกับเอลล่าจะต้องอาศัยอยู่ที่ozone ไม่สามารถบรรลุภาระหน้าที่ในการถ่ายทำได้อย่างราบรื่น ดังนั้นจึงอยากที่จะแก้ไขสัญญาก่อน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงที่จะสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นให้กับพี่โอ๊ต

พี่โอ๊ตถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างสบายใจ พูดตอบกลับมาอย่างสบายๆ “ไม่ต้องห่วงค่าชดใช้กรณีผิดสัญญาอะไรนั่น พี่จะออกหน้าไปเป็นหลักประกันกับบริษัทให้เอง วางใจได้”

พอได้ฟังเขาพูดแบบนี้ ญาธิดาก็รู้สึกสบายใจ สีหน้าค่อยๆ ยิ้มแย้มออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์