ชมพู่กำถุงกระดาษในมือไว้แน่น ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย และปากพึมพำไม่หยุด “ธิดา ขอโทษ ฉันเองก็จนปัญญา ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ฉันอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อจริงๆ……”
เธอสงบสติอารมณ์ในร้านกาแฟอยู่นานสองนาน จนกระทั่งใจเย็นลงถึงได้นำของที่หญิงสาวมอบให้กับเธอกลับที่ไปบริษัทอีกครั้ง
“ธิดา คนของแผนกR&Dได้รอเธออยู่ที่ห้องประชุมแล้ว นี่เป็นชิปอิเล็กทรอนิกส์ที่เธอให้ฉันไปหามา”
ญาธิดารับชิปอิเล็กทรอนิกส์จากเธอมากำไว้ในมือแน่น
ตรงส่วนมุมชิปอิเล็กทรอนิกส์ที่แหลมคมแทงฝ่ามือของเธอเจ็บ แต่ว่าเธอยังคงจ้องชมพู่อย่างไม่ละสายตา แล้วกล่าวถามขึ้นเบาๆ “เธอยังมีเรื่องอะไรที่จะบอกกับฉันอีกไหม”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชมพู่ชะงักค้าง เงยหน้าสบสายตากับเธอด้วยความสับสน วินาทีที่สายตาประสานกัน เธอก็รีบเบือนหน้าหนีทันที
“อ้อ ใช่แล้ว บริษัทอิเล็กทรอนิกส์บอกว่าชิปอิเล็กทรอนิกส์นี้เป็นเพียงรุ่นแรก บางทีอาจจมีตำหนินิดน้อย ให้เธอระวังหน่อย ในอนาคตถ้ามีการอัปเดตใดๆ พวกเขาจะส่งผลิตภัณฑ์ตัวอย่างมาให้ใหม่”
ญาธิดาได้ยินดังนั้น แสงอันเย็นยะเยือกใต้ดวงตาก็จางลงในทันที
ในที่สุดเธอก็เผยรอยยิ้มบางๆ ขึ้นบนใบหน้า เดินมาที่ด้านข้างของชมพู่แล้วตบไหล่เธอเบาๆ จากนั้นก็สาวก้าวยาวเดินออกจากห้องทำงานไป
อารมณ์ที่ตึงเครียดของชมพู่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ในใจสับสนปนเป เธอรีบโยนทิ้งอารมร์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ทิ้งไป แล้วก็เดินตามญาธิดา
บุคลากรหลักของแผนกออกแบบและแผนกวิจัยและพัฒนาต่างรออยู่ในห้องประชุม เมื่อเห็นญาธิดาต่างก็ลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันแล้วทักทายกับญาธิดา
ญาธิดายกมือขึ้นโบกสื่อความหมายให้ทุกคนนั่งลง จากนั้นก็นำชิปอิเล็กทรอนิกส์ของชมพู่มาวางไว้ใต้โปรเจ็กเตอร์ “ทุกท่าน นี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่พวกเราจะใช้แข่งขันเสนอราคาในครั้งนี้”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่เข้าใจการกระทำของเธอแบบนี้จะสื่อถึงอะไร
สาเหตุที่ STN Group ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ในการแข่งขันเสนอราคา เป็นเพราะผลิตภัณฑ์นี้เคยได้ยื่นขอจดสิทธิบัตร ทันทีที่บริษัทได้สิทธิ์อำนาจนี้ ก็จะสามารถผลิตสินค้าที่เป็นหนึ่งเดียวไม่เหมือนใครในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ได้ และปริมาณการขายก็จะเป็นที่น่าประทับใจ
“ที่ฉันเรียกทุกคนมาครั้งนี้ ก็เพราะอยากจะนั่งหารือด้วยกันว่าจะผลิตอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพสูงในรูปแบบใด” เธอกล่าวอธิบายอย่างนุ่มนวล
ได้ยินเธอกล่าวเช่นนี้ ทุกคนก็ยิ่งมึนงง และก็แสดงความคิดในใจออกมา
“ตอนนี้พวกเรายังแข่งขันเสนอราคาไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงยังเร็วเกินไปที่จะทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และแผนกของเรายังมีงานอื่นๆ อีก จึงแทบจะไม่มีเวลาว่างมาสร้างทีมเล็กเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่”
“อีกอย่างพวกเราไม่สามารถที่จะส่งงบประมาณผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับแผนกการเงินในขณะนี้ได้ การจัดสรรเงินและเบิกเงินเป็นอะไรที่ไม่สะดวกสุดๆ พวกเราไม่มีเงินทุนเริ่มต้นที่เพียงพอต่อการวิจัยและพัฒนาโครงการใหม่”
“การให้เงินทุนแก่โครงการที่ไม่มีสัญญานั้น บริษัทไม่เคยมีแบบอย่างเช่นนี้ แผนกการเงินจะต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน”
สีหน้าของญาธิดาก็เผยความลังเลออกมาเช่นกัน เธอเคาะอยู่บนผิวโต๊ะเบาๆ ด้วยปลายนิ้ว ท่าทางดูกังวลมาก ราวกับเธอไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้
หลังจากเงียบไปสักพัก เธอฝืนเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยปาก มองไปทางชมพู่จากนั้นกำชับ “เอาอย่างนี้แล้วกัน เธอช่วยไปค้นหาสำเนาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์หน่อย แล้วรีบส่งมาให้โดยเร็วที่สุด”
“ธิดา ทำแบบนี้จะได้ผลเหรอ” เธอถามด้วยความสงสัย
ญาธิดาขยิบตาให้เธอทันที และกล่าวอธิบายด้วยโทนเสียงเบาๆ “จะต้องหาเหตุผลเพื่อที่จะถ่วงเวลา เธอคงไม่อยากเห็นฉันอับอายหรอกนะ”
ชมพู่ได้ยินดังนั้นก็เข้าใจในทัน และเดินออกจากห้องประชุมไป ขณะที่กำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่นั้น โทรศัพท์ก็ดังครืดๆ อีกครั้ง เมื่อเห็นเนื้อหาบนหน้าจอ มือของเธอก็สั่นขึ้นทันที จนเกือบจะทำโทรศัพท์ตกลงพื้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...