เสียงฝีเท้าหนักดังขึ้น แม้จะยังไม่เห็นใคร แต่ญาธิดาก็ได้ยินการหายใจที่ไม่เป็นระเบียบของอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว
ใจญาธิดาเกิดการแจ้งเตือนในทันใด เงยหน้าขึ้นมองภวินท์ ภวินท์กันเธอไว้ข้างหลัง กล้ามเนื้อทั่วร่างตึงเครียด
เมื่อย่างก้าวใกล้เข้ามา ญาธิดาอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ ภวินท์ก็เตรียมพร้อมสู้กลับทุกขณะ
วินาทีถัดมา ขาสั้นๆ เล็กๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าทั้งสอง
เมื่อมองขึ้นไปอีกที ปรากฏว่าเป็นเด็กน้อยที่ทั้งคู่เคยพบก่อนหน้านี้
เขาอุ้มสุนัขตัวโตสีครีมตัวหนึ่งมาอย่างยากลำบาก เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ที่นี่จึงวางลงก่อน ดวงตาเกิดแววระแวดระวัง แต่หลังจากเห็นหน้าทั้งสองคนชัดๆ ก็โล่งใจอย่างเห็นได้ชัด แล้วนั่งลงกับพื้นอย่างเหนื่อยมาก
ญาธิดากับภวินท์สบตากัน ร่างกายค่อยๆ ผ่อนคลาย
ญาธิดาก้าวเข้าไปหาก่อน “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
เด็กน้อยก้มหน้าไม่พูดอะไร เพียงแค่ลูบสุนัขสีครีมตัวใหญ่ที่อ่อนแอในอ้อมแขนเงียบๆ ดวงตามีเพียงความเศร้า
ญาธิดาเห็นสีหน้าของเขา ญาธิดารู้ว่าสุนัขตัวนี้มีความสำคัญต่อเด็กน้อยมาก จึงโน้มตัวลงไปตรวจอาการบาดเจ็บของสุนัขสีครีมตัวใหญ่
เด็กน้อยไม่ได้ห้าม ปล่อยให้ญาธิดาตรวจดูสุนัขสีครีมตัวใหญ่
สุนัขสีครีมตัวใหญ่หันมาใช้ลิ้นเลียหลังมือของญาธิดา น่ารักเชื่อฟังมาก ไม่ดุเหมือนในงานแต่งงานก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ญาธิดาถอนหายใจโล่งอก “ไม่ต้องกังวล แผลไม่ลึก ไม่บาดเจ็บอวัยวะภายใน ดูหนักก็จริงแต่เลือดหยุดไหลแล้ว รอโอกาสล้างแผลเสร็จก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
ดวงตาของเด็กน้อยเป็นประกาย ยิ้มให้ญาธิดาจนเผยฟันขาว
เมื่อเขายิ้มแบบนี้ ญาธิดารู้สึกว่าหัวใจตัวเองกำลังจะละลาย ยื่นมือไปลูบศีรษะเด็กน้อย อีกฝ่ายไม่ขัดขืนเลย
“ที่นี่อันตรายมาก เราออกไปจากที่นี่กันก่อนค่อยว่ากัน” ภวินท์พูดเสียงหนัก
ญาธิดาพยักหน้ามองเด็กน้อย “เราจะไปแล้ว เธออยากไปกับเราไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...