เซินจือชูรออยู่ครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีคำตอบของหลี่จิงเซิน เธอหันไปดูเวลา เวลานี้เขาคงจะนอนหลับไปพร้อมกับเซี่ยหมิงเยว่แล้ว
เลือดในมือของเธอมันแห้งและเยิ้มจนทำให้น่ากลัว เซินจือชูหอบร่างตัวเองเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างเลือดบนมือออก น้ำมันเย็นจนทำให้ใจคนแข็งไปด้วยเลยทีเดียว
หลังจากกลับเข้ามาในห้องแล้ว เธอกดน้ำร้อนมาหนึ่งถ้วยด้วยความเคยชิน และกินยาแก้ปวดกับยาต้านมะเร็ง ยาแก้ปวดที่ฉินโม่ให้มามีผลค้างเคียงทำให้มึนง่วง ยาชนิดนี้หากอาการไม่หนักจนทนไม่ไหวก็ไม่ต้องกิน เพราะถ้ากินมากเกินไปจะมีผลข้างเคียงให้มึนงงและระบบประสาทจะรับไม่ไหว
เธอเทยาทั้งหมดออกมาใส่ขวดธรรมดาแล้วเก็บไว้ในลิ้นชัก หลี่จิงเซินอะไรนั่น เธอไม่ชอบแล้ว ก็แค่คนที่ชอบมา16ปี เป็นเพื่อนกันมา6ปี แต่งงานกันมา4ปี......มีอะไรยากเกินกว่าจะปล่อยวาง
.......
เมื่อท้องฟ้าสว่าง เซินจือชูก็ตื่นขึ้น เธอไม่ได้มีนิสัยชอบนอนขี้เกียจอยู่บนเตียง เมื่อตื่นแล้วเธอก็โทรหาทนายทันที ให้เขาร่างข้อตกลงการหย่าร้างและส่งมาให้เธอ
ทนายจางเมื่อได้ยินว่าเธอจะหย่าก็ตกใจอย่างมาก เขารู้สึกสงสัยในใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ถามเพียงเฉพาะเนื้อหาของข้อตกลงการหย่าร้างที่เกี่ยวข้อง เช่น การแบ่งทรัพย์สิน
รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ จัดทำขึ้นเองจะดีที่สุด เซินจือชูลังเลอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “ทนายจาง วันนี้คุณมีเวลาว่างไหม?”
ทนายจางตอบ : “มีครับ”
เซินจือชูกล่าว : “งั้นคุณมาที่นี่หน่อยได้ไหม เราจะได้คุยรายละเอียดกัน”
ทนายจาง : “ได้ครับ ผมเก็บของเสร็จแล้วจะไปหา”
ทนายจางเป็นอำนวยการแผนกกฎหมายของเซินกรุ้ป แน่นอนว่าเธอเชื่อใจเขามาก นอกจากเรื่องรายละเอียดการหย่าแล้ว เธออยากจะออธิบายเจตจำนงของเธอสักหน่อย
เซินจือชูส่งที่อยู่ไปให้ จากนั้นก็ไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกไปข้างนอกแต่เธอชินกับการแต่งหน้า เพื่อให้ใบหน้าที่ป่วยของเธอดูสดใสขึ้นเล็กน้อย
เมื่อมองดูตัวเองที่สดใสในกระจก เซินจือชูก็ยิ้มออกมา หลังจากผ่านวันนี้ไปเธอก็ยังมีวันพรุ่งนี้
เธอกลัวว่าทนายจางจะยังไม่ได้ทานอาหารเช้า เซินจือชูลงมือทำอาหารเช้าสองที่ เมื่อเวลา9โมงเสียงกริ่งก็ดังขึ้นที่ประตู
เซินจือชูถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วแขวนไว้บนผนังแล้วเปิดประตู ซึ่งผู้มาเยือนก็คือทนายจาง
“ท่านประธานเซิน”
“เข้ามาสิ ทานข้าวหรือยัง?” เซินจือชูถาม
ทนายจางเดินเข้ามาพร้อมกับตอบคำถาม : “ทานเรียบร้อยแล้วครับ”
เมื่อเซินจือชูได้ยินว่าเขาทานข้าวมาแล้ว เธอก็เลยไม่สะดวกใจที่จะทานข้าว จึงรินนมดื่มเพียงหนึ่งแก้วแล้วรินชาเข้าไปในห้องรับแขก
ทนายจางเองก็ไม่ได้จริงจังมาก เขานั่งลงแล้วหยิบคอมออกมา ตอนที่ได้ยินว่าเซินจือชูจะโอนหุ้นส่วนใหญ่ของเซินกรุ้ปไปให้หลี่จิงเซิน เขามองเธอด้วยความประหลาดใจ มือของเขาที่กำลังกดแป้นพิมพ์อยู่ก็หยุดชะงัก
“ท่านประธานเซิน เรื่องนี้คุณต้องพิจารณาให้รอบคอบ เซินกรุ้ปเป็นทรัพย์สินก่อนสมรสของคุณและสามีของคุณก็ไม่ได้ชอบมันสักเท่าไหร่” เคยได้เห็นการหย่าร้างและการต่อสู้ในศาลเพื่อการแบ่งทรัพย์สินกันมาหลายครั้งแล้ว นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เห็นใครบางคนมอบทรัพย์สินก่อนสมรสของตนให้อีกฝ่าย
นอกจากนี้มันยังเกี่ยวข้องกับบริษัทมูลค่าหลายร้อยล้าน ไม่ต้องคิดถึงว่าผู้ถือหุ้นจะเห็นด้วยหรือไม่ แค่พ่อของเธอก็คงไม่สามารถยอมรับได้แล้ว ถ้าหากรู้ว่าเธอหย่าแล้วแบ่งทรัพย์สินบริษัทนี้ออกไป กลัวก็แต่ว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่วุ่นวายกันไปหมด
“ฉันรู้ ดังนั้นฉันจึงต้องคุยกับคุณเกี่ยวกับเจตจำนงของฉัน……” เซินจือชูยังไม่ทันได้พูดจบ ทันใดนั้นก็มีเสียงกริ่งประตูดังขึ้นมา เธอจึงต้องลึกขึ้นไปเปิดประตู
“คุณรอสักครู่ ฉันจะไปเปิดประตู”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้านาย อาชญากรรมของมาดามไม่ได้ถึงตาย