20นาทีหลังจากนั้นเธอกลับถึงห้องของตัวเอง เธอพยายามพาตัวเองขึ้นไปบนเตียงแล้วใช้ผ้าห่มม้วนตัวเธอไว้
เหนื่อยแทบตาย แต่ทำไมหัวถึงหมอนแล้วก็ยังไม่รู้สึกง่วง
เธอกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงสักพักแล้วมองไปที่นาฬิกาที่ติดอยู่บนผนัง ตีหนึ่งแล้ว เวลานี้บ้านใหญ่เงียบสงัดจนได้ยินเสียงใบไม้ร่วงเต็มพื้น ลมพัดเข้ามาทางหน้าต่างของห้องเธอจนทำให้เกิดเสียงผ้าม่านที่กระทบกับผนัง ทั้งๆที่เรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อกี้ทำให้เธอจิตตกอย่างมาก จนตอนนี้เธอถึงขั้นต้องจับผ้าห่มมาห่มไว้อย่างแน่น
เธออยากไปเปิดไฟ แต่ไฟทุกดวงในห้องนี้เปิดไม่ติดหรอก เพราะพี่เหอพูดไว้ว่า ถ้าคุณชายใหญ่อยู่ห้ามเธอเปิดไฟเด็ดขาด
วินาทีต่อมา ภาพในหัวเธอกลับเป็นภาพที่หลินอันหนานกำลังทำอะไรบางอย่างกับไป๋ยิ่งอันอยู่ แล้วก็คำพูดที่ไป๋ยิ่งอันพูดที่ออกมา
เธอพยายามส่ายหัวไปมา แล้วหลับตาลง จะคิดถึงเรื่องพวกนี้ทำไมกัน
อยู่ดีๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอพยายามยันตัวให้ขึ้น แต่ร่างกายกลับพันอยู่กับห้าห่มพร้อมกับใช้มือเช็ดน้ำตาไปด้วย ดึกขนาดนี้แล้วนอกจากหนานกงเฉินแล้วจะเป็นใครอีกล่ะ
คนที่เปิดประตูเข้ามาเป็นหนานกงเฉินจริงๆด้วย ถึงแม้เธอจะมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด แต่ท่าทางบุคลิกแบบนี้เป็นเขาแน่ๆ
เขาเดินตรงมาแล้วฉุดเธอออกจากผ้าห่ม ใช้มือจับคางเธอไว้ นิ้วมือที่ลากผ่านหน้าเธอสัมผัสกับคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่
“ได้ข่าวว่าเธอแอบไปมีชู้งั้นหรอ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
ไป๋มู่ชิงอึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นรีบส่ายหัวปฏิเสธ “เปล่า ฉันไม่ได้......”
“คุณหนูไป๋ คุณอย่าลืมล่ะว่าตอนนี้คุณเป็ยภรรยาของผมแล้ว ถ้าจะร้องไห้ก็เพียงเพราะผมคนเดียวเท่านั้น รีบกั้นน้ำตาไว้ซะ” หนานกงเฉินแสดงท่าทางที่เอาแต่ใจของเขาออกมาอย่างไม่ปิดบัง
ไป๋มู่ชิงรีบยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้า พร้อมตอบกลับว่า “ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะผู้ชาย”
“งั้นเธอร้องไห้เพราะอะไร?”
“ฉัน......”
หนานกงเฉินยิ้มแสร้งขึ้นมา “เป็นเพราะผมหรอ? โกรธที่ผมไม่ได้กลับไปบ้านฝ่ายหญิงพร้อมคุณหรอ?”
“เปล่า......ไม่ใช่......”
หนานกงเฉินไม่รอให้เธออธิบาย ก็ก้มลงไปจูบปิดปากเธอ แต่กลับได้แต่รสชาติอันขมขื่นจากริมฝีปากเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...