ตอน บทที่ 244 เจาะเลือด จาก เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 244 เจาะเลือด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด ที่เขียนโดย เยว่กวางจู่อวี เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เธอเห็นเฉียวซือเหิงอยู่ในห้องทำงานของคุณหมอจาง เธอมองไปทางเสี่ยวหว่านชิง เธอเสียใจจนลืมถามไปว่าใครส่งตัวเธอมา ลืมถามว่าเธอเป็นยังไงบ้าง เธอเลยกอดหว่านชิงอย่างรู้สึกผิดแล้วเอ่ยกับเฉียวซือเหิง "คุณชายเฉียว ขอบคุณที่คุณส่งหว่านชิงมา"
"คุณหญิงน้อย คุณชายเฉียวบอกว่าเขาหาวิธีที่จะรักษาคุณชายได้แล้วครับ"
"จริงหรอ?" ไป๋มู่ชิงมองไปทางเฉียวซือเหิง
ในเวลาที่สำคัญที่สุด เขาหาวิธีที่จะช่วยหนานกงเฉินได้แล้วหรอ? เป็นไปได้ยังไง!
"คุณหนูไป๋ ผมคุยกับคุณแค่สองคนหน่อยได้ไหม?" เฉียวซือเหิงมองไปที่เธอ
ไป๋มู่ชิงรีบพยักหน้า
คุณหมอจางพูด "ผมไปเตรียมตัวก่อนนะครับ"
หลังจากที่คุณหมอจางออกไป เฉียวซือเหิงก็ให้พี่เลี้ยงพาหว่านชิงออกไปด้วย สุดท้ายในห้องทำงานก็เหลือแค่พวกเขาสองคน ไป๋มู่ลิงรีบเอ่ยถาม "คุณชายเฉียว คุณช่วยหนานกงเฉินได้จริงหรอคะ?"
"ผมไม่กล้ารับประกันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าก็มั่นใจอยู่ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์"
"จริงหรอคะ?" ไป๋มู่ชิงเอ่ยอย่างดีใจ
"แต่ว่าผมมีเงื่อนไข……"
"ขอแค่เฉินฟื้น เงื่อนไขอะไรฉันตอบตกลงหมดเลยค่ะ" ไป๋มู่ชิงพูดแทรกเขา
"ใช่หรอ? รวมทั้งไปจากหนานกงเฉินด้วย?"
ไป๋มู่ชิงอึ้งไป เมื่อกี้ดีใจเกินไป เธอคาดไม่ถึงเลยว่าเฉียวซือเหิงจะเอ่ยเงื่อนไขนี้
ให้เธอไปจากหนานกงเฉิน? กว่าเธอจะตัดสินใจกลับมาข้างกายเขาแล้วผ่านช่วงยากลำบากนี้ไปกับเขา แต่เฉียวซือเหิงจะให้เธอไปจากหนานกงเฉิน? ทำไมถึงเป็นแบบนี้!
ถึงแม้เธอจะยอม แต่หนานกงเฉินก็คงไม่ยอมเด็ดขาด! ถ้าถึงเวลาหนานกงเฉินรักษาตัวหายแล้ว แล้วไม่เห็นตัวเธอก็คงจะเป็นบ้าไปอีกครั้ง
"กลับไปข้างกายเฉียวเฟิงแล้วไปอยู่ที่อังกฤษกับเขา ทั้งชีวิตนี้ห้ามเจอกับหนานกงเฉินอีก เธอทำได้ไหม? เธอคิดก่อนก็ได้ ถ้าได้ผมค่อยช่วยหนานกงเฉิน" เฉียวซือเหิงพูดด้วยสีหน้าเข้มงวด
ในใจไป๋มู่ชิงว้าวุ่นไป เธอควรจะทำยังไง? ร่างกายของหนานกงเฉินเสียเวลาไม่ได้แล้ว แต่จะให้เธอไปจากหนานกงเฉิน……เธอจะทำได้หรอ? หนานกงเฉินจะทำได้หรอ?
ความจริงเธอไม่มีทางปฏิเสธ เพราะว่าชีวิตของหนานกงเฉินสำคัญกว่าเธอมาก เธอแค่เสียใจ……
เธอไม่ได้ลังเลนานนักก็พยักหน้าทั้งน้ำตา "ได้ ฉันตกลง ขอแค่หนานกงเฉินมีชีวิตรอด ฉันก็จะไปอังกฤษกับเฉียวเฟิง แล้วจะไม่เจอหน้าหนานกงเฉินอีก"
"เธอแน่ใจหรอ?" เฉียวซือเหิงเลิกคิ้วไปทางเธอ
"ฉันแน่ใจ" ไป๋มู่ชิงพยักหน้า น้ำตาก็ไหลออกมา
"ทำตัวเหมือนผมกำลังบังคับคุณสะอีก คุณสามารถปฏิเสธได้"
นี่ไม่ใช่กำลังบังคับเธอหรอ? บังคับจนเธอไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่เวลานี้เธอไม่อยากเสียเวลาอีกก็เลยขอร้องเขา "ขอร้องคุณรีบช่วยเขาเถอะ……"
"ยังมีอีกเรื่องที่ผมต้องพูดกับคุณ" เฉียวซือเหิงโทรหาพี่เลี้ยงให้ส่งตัวหว่านชิงเข้ามา จากนั้นก็ยื่นมือไปทางหว่านชิง เสี่ยวหว่านชิงก็เดินไปข้างกายเขา "คุณลุงเรียกหนูหรอคะ?"
"ใช่" เฉียวซือเหิงยิ้มอ่อนโยนกับเธอ จากนั้นก็ลูบเส้นผมเธอไปด้วยพร้อมจ้องไปที่ไป๋มู่ชิง "ถ้าจะรักษาโรคของหนานกงเฉิน ก็ต้องใช้เลือดของหว่านชิงเยอะมาก แต่กฎหมายของประเทศห้ามไว้ว่าไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่าสิบขวบบริจาคเลือด แต่ที่นี่เป็นโรงพยาบาลหงเอิน ไม่ต้องสนใจก็ได้ ผมหมายความว่าตอนนี้ร่างกายของหว่านชิงกำลังเติบโต ไม่เหมาะที่จะบริจาคเลือด วันก่อนผมลองเจาะเลือดสองร้อยซีซีเพื่อเอาโครโมโซม คุณดูสีหน้าเธอก็คงจะดูออกว่านี่มีผลกระทบกับร่างกายเธอมากแค่ไหน"
ไป๋มุ่ชิงมองไปทางเสี่ยวหว่านชิง ก็เห็นสีหน้าของเธอซีดขาวเหมือนกระดาษ
เมื่อกี้ที่เห็นเธอแว๊บแรกก็รู้สึกว่าสีหน้าเธอซีดขาวไม่ปกติ แต่เธอเอาแต่เสียใจก็เลยมองข้ามไป
ไป๋มู่ชิงจับเสี่ยวหว่านชิงไว้แล้วมองสำรวจเธอ "วันนี้ก็จะต้องเจาะเลือดของหว่านชิงอีกหรอ?"
"ใช่ อย่างน้อยต้องสามร้อยซีซี แต่ปริมาณขนาดนี้อันตรายกับเด็กมาก" เฉียวซือเหิงมองไปที่เธอด้วยสีหน้าเข้มงวด "ก็หมายความว่า หว่านชิงอาจจะเสียเลือดมากเกินไปจนตกอยู่ในภาวะอันตราย"
"แล้วจะทำยังไง?" ไป๋มู่ชิงนิ่งไป ความหวังที่เพิ่งมองเห็นตอนนี้ก็ดับไปอีกครั้ง
"คุณเป็นคุณแม่ของหว่านชิง เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องคิดให้ดีก่อนว่าจะให้เธอไปเสี่ยงหรือเปล่า"
ไป๋มู่ชิงกอดตัวหว่านชิงไว้แน่นแล้วจ้องไปที่เขา "เจาะน้อยกว่านี้ไม่ได้หรอ?"
เธอจะทำเพื่อช่วยชีวิตหนานกงเฉินแล้วทำให้หว่านชิงตกอยู่ในอันตรายได้ยังไง? เธอจะเห็นแก่ตัวได้ยังไง? ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหว่านชิงถึงแม้หนานกงเฉินจะมีชีวิตอยู่ เธอกับหนานกงเฉินก็ต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิตแน่นอน!
"ไม่ได้ ไม่เพียงแต่ต้องเจาะวันนี้ อีกสามวันข้างหน้าก็ต้องเจาะอีกครั้ง"
"ไม่ได้ ถ้าทำแบบนี้หว่านชิงจะรับไม่ไหว" ไป๋มู่ชิงส่ายหน้าแล้วเอ่ยทั้งน้ำตา "ให้หว่านชิงไปเสี่ยงไม่ได้ ไม่ได้……"
"คุณคิดเอาเองเถอะ" เฉียวซือเหิงพูด "แต่ว่าผมอยากจะขอเตือนคุณหน่อย ถ้าพลาดวันนี้ไป หนานกงเฉินก็คงไม่มีทางรอดแล้ว"
"ไม่……"
"แต่ว่าเจ็บมากเลยค่ะ" หว่านชิงเอ่ยทั้งน้ำตา
"คุณลุงรู้ว่าจะเจ็บ แต่ว่าหว่านชิงกล้าหาญอยู่แล้ว หรือว่าหว่านชิงไม่อยากเป็นนางฟ้าที่ช่วยคุณพ่อแล้วหรอคะ?"
"อยากค่ะ……" หว่านชิงพยักหน้า สุดท้ายก็ไม่ร้องไห้
เลือดของหว่านชิงไหลผ่านเข็มเจาะเลือดแล้วไหลเข้าไปในเครื่องเฉพาะทาง ไม่เหมือนกับคนทั่วไปที่บริจาคเลือดใส่ถุง ก็หมายความว่า เสี่ยวหว่านชิงจะต้องถูกเข็มเจาะอยู่แบบนี้แล้วให้เลือดไหลออกไปทีละนิดอย่างยาวนาน
ไป๋มู่ชิงเป็นห่วงจนเอ่ยพูดอะไรไม่ออก แม้แต่หายใจเสียงดังเธอก็ไม่กล้า ไม่กล้าให้หว่านชิงเห็นว่าน้ำตาของเธอไหลออกมา
เวลาผ่านไปทีละนิด เพื่อที่จะเปลี่ยนความสนใจของหว่านชิง กว่าไป๋มู่ชิงจะปรับอารมณ์ได้แล้วอุ้มหว่านชิงไว้ "หว่านชิง เดี๋ยวคุณแม่เล่านิทานให้หนูดีไหมคะ?"
"ดีค่ะ คุณแม่จะเล่านิทานอะไรให้หนูคะ?" น้ำเสียงของเธอดูอ่อนแรงไป
"เกี่ยวกับนิทานของคุณพ่อคุณแม่ดีมั้ยคะ?"
"ค่ะ……"
ไป๋มู่ชิงคิดไปคิดมาแล้วเริ่มเล่านิทาน "อื้อ……นิทานเริ่มต้นอย่างนี้นะคะ ความจริงคุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่รู้จักกัน แต่คุณทวดให้แต่งงานกัน แต่คุณแม่กับคุณพ่อก็ไม่เคยเจอกันเลย ทุกคนบอกว่าคุณพ่อหน้าตาขี้เหร่มาก แล้วชอบป่วยด้วย ตอนนั้นคุณแม่กลัวแล้วสงสัยมากว่าคุณพ่อขี้เหร่แค่ไหน"
"คุณพ่อขี้เหร่ไหมคะ?" หว่านชิงเอ่ยถาม
"หนูว่าล่ะ?"
"หนูว่าคุณพ่อหน้าตาดีค่ะ"
"ใช่ เรื่องเล่าไม่เป็นความจริง หลังจากที่คุณแม่ได้เจอคุณพ่อก็ถูกเขาดึงดูดทันที จากนั้นก็ค่อยๆชอบเขาแล้วก็มีหนูในท้อง" ไป๋มู่ชิงจูบที่หน้าผากเธอ "ก็เป็นตอนที่เสี่ยวหว่านชิงอยู่ในท้องคุณแม่เข้าใจไหมคะ?"
"ค่ะ……"
"จากนั้นก็คลอดหว่านชิงออกมา ความจริงคุณพ่อคุณแม่รักหว่านชิงมาก แต่เป็นเพราะเหตุผลหลายๆอย่างคุณพ่อกับคุณแม่ก็เลยอยู่กับเสี่ยวหว่านชิงไม่ได้ เลยให้หนูอยู่กับคุณลุง ช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่กับหว่านชิง คุณพ่อคุณแม่คิดถึงมาก หนูได้ยินมั้ยคะ? คุณพ่อคุณแม่รักหนูมาก"
"หว่านชิงก็รักคุณพ่อคุณแม่ค่ะ" น้ำเสียงของเสี่ยวหว่านชิงยิ่งอ่อนแรงไปกว่าเดิม
ไป๋มู่ชิงรู้สึกได้ว่าหน้าผากของเธอเริ่มมีเหงื่อแล้วสติก็ค่อยๆหายไป หลังจากที่เจาะเลือดนี่ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ไป๋มู่ชิงรู้สึกกังวลเลยเงยหน้ามองไปทางเฉียวซือเหิง "ยังอีกนานไหม? ดูเหมือนว่าเธอจะทนไม่ไหวแล้ว"
เฉียวซือเหิงทนเห็นหว่านชิงเป็นแบบนี้ไม่ได้ตั้งนานแล้ว เขากลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...