เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 243

หนานกงเฉินหมดสติไปอีกครั้ง ผ่านไปตั้งหลายวันก็ยังไม่ฟื้น

ไป๋มู่ชิงรู้สึกว่าตัวเองจะรับมือไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีเสียงเตือนของเครื่องมือดังขึ้น กว่าคุณหมอจางจะช่วยชีวิตหนานกงเฉินกลับมาได้ แล้วบอกกับเธอตามตรงเลยว่าชีพจรของหนานกงเฉินเต้นอ่อนแรงมาก เธอก็ยิ่งเสียใจไปกว่าเดิม

ถึงแม้จะไม่อยาก แต่สุดท้ายคุณหมอจางก็บอกความจริงกับพวกเธอบอกว่าหนานกงเฉินมีชีวิตได้อีกแค่สามวัน

สามวัน อีกแค่สามวันเท่านั้น

ไป๋มู่ชิงมองตามแผ่นหลังของคุณหมอจางที่เดินจากไป จากนั้นเธอก็คุกเข่าลงต่อหน้าคุณหญิงแล้วกอดเข่าร้องไห้ "คุณย่า คุณย่าบอกว่าถ้าเอาหัวใจของหนูให้คุณหญิงจิ้งเฉินก็จะมีชีวิตต่อได้ใช่ไหมคะ? คุณย่าเอาหัวใจหนูไปเถอะค่ะ ขอร้อง ขอร้องคุณย่าช่วยเฉินด้วย……"

เธอแค่อยากให้หนานกงเฉินมีชีวิตอยู่ต่อ ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตตัวเองก็ไม่กลัว

ถ้าชีวิตของเธอสามารถแลกชีวิตของหนานกงเฉินได้ ถ้าเรื่องเล่าเป็นเรื่องจริงก็คงดีสิ!

คุณหญิงเอนตัวลงไปตบบ่าเธอเบาๆ "ลุกขึ้นเถอะมู่ชิง……"

" ไม่ หนูไม่ลุก" ไป๋มู่ชิงเงยหน้ามองไปทั้งน้ำตา "คุณย่า แต่ก่อนหนูไม่ดีเอง หนูปฏิเสธคุณย่า หนูผิดไปแล้ว ตอนนี้หนูยอมควักหัวใจตัวเองขอแค่เฉินได้มีชีวิตอยู่ต่อ ขอร้องเถอะค่ะ……"

"เฉินอยากให้เธอมีชีวิตอยู่ ฉันสัญญากับเฉินว่าจะไม่ทำร้ายเธอ" คุณหญิงนั่งลงมาแล้วลูบเส้นผมเธอ "เฉินพูดถูก หว่านชิงไม่มีคุณพ่อแล้ว ฉันจะทำให้เธอไม่มีแม่อีกไม่ได้ มู่ชิงเธอลืมแล้วหรอว่าเธอยังมีหว่านชิง? เธอจะพูดถึงความตายง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง? เธอทำแบบนี้คุ้มกับความจริงใจที่เฉินมีให้ไหม?"

"หนู……หนูไม่อยากเสียเฉินไป ถ้าไม่มีเฉินหนูก็คงมีชีวิตต่อไปไม่ได้……"

"แล้วเธอก็ยอมให้หว่านชิงกลายเป็นเด็กกำพร้าหรอ?"

"หนูไม่อยาก……" ไป๋มู่ชิงส่ายหัวแล้วใช้มือป้องปากร้องไห้อย่างเสียใจ "หว่านชิง……หว่านชิง……หนูควรจะทำยังไงดี?"

"อย่าร้องไห้เลย" คุณหญิงกอดเธอเข้ามาในอ้อมกอด น้ำตาของท่านก็ไหลลงมาเหมือนกัน

--

ยืนอยู่หน้าโลงศพคริสตัล คุณหญิงทอดมองไปที่ผู้หญิงในโลงศพเนิ่นนานกว่าจะเอ่ยพูดขึ้น "เธอช่วยชีวิตเฉินได้จริงหรอ?"

อาจารย์หวังพยักหน้าแล้วพูดอย่างหนักแน่น "ได้แน่นอนครับ"

"แม้แต่คุณหมอก็ยังบอกเลยว่าเลือดของเฉินมีปัญหา เขามีชีวิตรอดไม่เกินสามวัน" คุณหญิงหันกลับมาแล้วจ้องไปที่เขาด้วยน้ำตา "เขาถูกผู่เหลียนเหยาวางยาพิษ ผู้หญิงคนนี้ช่วยเขาได้จริงหรอ?"

"อันนี้……" เมื่ออาจารย์หวังได้ยินว่าถูกวางยาพิษก็เริ่มลังเลขึ้นมา "ถ้าเป็นแบบนั้นก็……ไม่กล้ารับประกันครับ แต่สถานการณ์ตอนนี้คุณหญิงก็ลองดูก่อนไหมครับ? คุณหญิงรอมาตั้งกี่ปีก็เพื่อเวลานี้ไม่ใช่เหรอครับ?"

"คุณหญิงฆ่าคนต้องชดใช้ชีวิตนะคะ" พี่เหอเอ่ยปากพูด "สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เซิ่งตงหยางจ้องมองการกระทำของคุณหญิง ถ้าได้หลักฐานความผิดของคุณหญิงตระกูลหนานกงก็คงต้องล้มละลายไป"

เธอเอนไปพูดข้างหูคุณหญิงด้วยเสียงเบา "คุณหญิงคะ พูดอะไรที่ไม่น่าฟัง ตอนนี้ตระกูลหนานกงเทียบกับแต่ก่อนไม่ได้แล้ว คำพูดของใครก็เชื่อไม่ได้"

คุณหญิงมองไปที่เธอ พี่เหอก็พยักหน้าให้ท่าน "คิดดูสิคะทั้งคุณหนูผู่คุณหนูจูแล้วคุณชายเซิ่ง……เปลี่ยนไปหมดเลย"

พี่เหอยืดตัวตรงแล้วเดินไปที่มุมห้องพร้อมจุดธูปขึ้นมา จากนั้นก็ยื่นธูปสามดอกให้คุณหญิง "คุณหญิงคะ ปักธูปเถอะค่ะ แล้วเรารีบไปจากที่นี่"

คุณหญิงรับธูปไปแล้วคุกเข่าลงต่อหน้าโลงศพพร้อมมองไปที่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้าจริงใจ "ท่านผู้หญิง ฉันไม่รู้ว่าชาติก่อนเฉินอะไรกับคุณ แล้วไม่รู้ด้วยว่าติดค้างอะไรคุณ แต่ว่ากี่ปีนี้มาเฉินทุกข์ทรมานมากแล้ว ขอให้คุณปล่อยเขาไปด้วย ถ้ามู่ชิงเป็นคุณในชาตินี้ ขอแค่เฉินได้มีชีวิตอยู่ต่อ เขาต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเขาชดใช้ให้มู่ชิงแน่นอน ขอให้คุณให้โอกาสเขาอีกครั้ง ขอให้คุณคุ้มครองเขาให้ดีขึ้น ฉันยอมก้มหัวกราบคุณ……"

เมื่อพี่เหอเห็นว่าคุณหญิงเอาแต่ก้มกราบอยู่กับพื้นอย่างนั้น ก็รีบพยุงคุณหญิงแล้วเอ่ยอย่างเป็นห่วง "คุณหญิงอย่าทำแบบนี้เลยค่ะ คุณหญิงจิ้งท่านได้ยินแล้ว ท่านต้องคุ้มครองคุณชายให้ผ่านไปได้แน่นอนค่ะ"

คุณหญิงพูดแล้วส่ายหัว "แม้แต่แรงที่จะฟื้นมาเฉินก็ไม่มี……"

"คุณหญิงขอร้องท่านก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ท่านช่วยคุณชายไม่ได้ ไปขอให้พระคุ้มครองดีกว่าครับ" อาจารย์หวังพูด

คุณหญิงเช็ดน้ำตาบนใบหน้าและพยักหน้า "ได้ ฉันไปขอ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้……"

หลังจากที่คุณหญิงเดินออกจากตระกูลหนานกง ท่านก็ไปที่วัดทันที ท่านคุกเข่าอยู่ต่อหน้าพระพุทธรูปแล้วใช้สีหน้าจริงจังแล้วขอร้องหนานกงเฉินให้ปลอดภัย นอกเหนือจากนั้นท่านก็ไม่มีวิธีอื่นอีกเลย

"ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเฉินให้มีชีวิตรอด……" ท่านย้ำๆซ้ำๆพูดคำนี้

"ให้ผมพูด เรื่องเล่าบ้าบออะไรก็เป็นแค่เรื่องปลอม คงจะเป็นเพราะคุณหญิงทำเรื่องชั่วมากเกินไปก็เลยให้คุณชายชดใช้กรรมแทน" ข้างกายก็มีเสียงแทรกคำอธิฐานของคุณหญิง ท่านหันหน้าไปอย่างประหลาดใจ ก็เห็นว่าเซิ่งตงหยางมาถึงข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

"แกมาทำอะไร?" คุณหญิงมองไปที่เขาอย่างหงุดหงิด

"ฉันก็ต้องมาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ฉันมาขอร้องเรื่องเงินทองไม่ใช่ชีวิต" เซิ่งตงหยางคุกเข่าลงที่เบาะข้างกายคุณหญิงแล้วไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็หันไปมองคุณหญิง "หรือว่าคุณหญิงลองขอร้องผมสิ? ผมสามารถให้หลานคุณหญิงฟื้นคืนมาได้"

"แกพูดว่าอะไรนะ?" เมื่อคุณหญิงได้ยินเขาบอกว่าสามารถทำให้หนานกงเฉินฟื้นมาได้ ในใจก็รู้สึกมีความหวังแล้วจ้องไปที่เขา

"ผู่เหลียนเหยาเป็นสะใภ้ที่ยังไม่ได้แต่งเข้าบ้านของผม เธอช่วยผมโกหกเซิ่งเคอแล้วยักยอกทรัพย์สินของบริษัทได้ แล้วยังกล้าวางยากับหนานกงเฉินอีก" เซิ่งตงหยางพูดจบก็พูดอีกว่า "คุณหมอตรวจเช็คไม่ได้เลยว่าเฉินถูกวางยาอะไร ก็เลยไม่รู้จะรักษายังไง?"

"แกรู้เหรอว่าเธอวางยาอะไร?"

"แน่นอน"

"งั้นแกก็รีบบอกฉันสิ?" คุณหญิงรีบเอ่ยถาม

เซิ่งตงหยางหันไปมององค์พระพุทธเจ้าจากนั้นก็เอ่ย "ที่นี่ไม่ใช่ที่จะคุย เราขึ้นไปคุยกันในรถดีกว่าไหม?"

"ได้……" คุณหญิงพยักหน้า

"คุณหญิง……" พี่เหอมองกวาดเซิ่งตงหยางแล้วเอ่ยอย่างเป็นห่วง "คำพูดของเขาคุณหญิงเชื่อได้ยังไงคะ?"

ถึงแม้เซิ่งตงหยางจะเชื่อถือไม่ได้ แต่เพื่อที่จะช่วยหลานตัวเองคุณหญิงก็ไม่สนใจอะไรขนาดนั้นแล้ว ก็ลุกขึ้นแล้วเดินตามเซิ่งตงหยางออกไปที่ลานจอดรถนอกวัด

เมื่อขึ้นไปบนรถคุณหญิงก็เอ่ยถามขึ้น "แกรีบอกฉันมาสิว่าเป็นยาพิษอะไร?"

"คุณหญิง บนโลกนี้ไม่มีมื้อกลางวันที่ฟรีหรอกครับ ก็คงต้องทำการแลกเปลี่ยนที่ไม่ขาดทุนใช่ไหมครับ?" เซิ่งตงหยางยิ้ม

"แกจะเอายังไง?"

เซิ่งตงหยางหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้คุณหญิง "ขอแค่คุณหญิงเซ็นเอกสารพวกนี้ ผมก็จะบอกคุณหญิง"

คุณหญิงรับเอกสารมาอย่างลังเลแล้วมืออีกข้างก็หยิบแว่นขึ้นมองกวาดไปที่เอกสารก็รู้สึกประหลาดใจ "เอกสารโอนย้ายหุ้น?"

"ใช่ครับ" เซิ่งตงหยางพยักหน้า "ขอแค่คุณหญิงโอนหุ้นร้อยละสิบห้าของคุณให้ผม ผมก็จะบอกคุณว่าคุณหนูผู่วางยาอะไรให้เฉิน"

"แกฝันไปเถอะ!" คุณหญิงโยนเอกสารกลับไปให้เขา เปิดประตูรถกำลังจะลงไป

"คุณหญิงดูเหมือนว่าคุณจะไม่อยากให้เฉินมีชีวิตอยู่" เซิ่งตงหยางเอ่ยพูด

คุณหญิงหยุดมือที่ดึงเปิดประตูรถ ดูเหมือนว่าจะตกใจกับคำพูดของเขา

ท่านก็ต้องอยากให้หนานกงเฉินมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าท่านโอนย้ายหุ้นที่เหลือให้เซิ่งตงหยาง อีกหน่อยบริษัทหนานกงก็จะเป็นของเซิ่งตงหยาง ถึงแม้ในมือของหนานกงเฉินจะมีหุ้นอีกสิบห้าเปอร์เซนต์ แต่ถ้าเทียบกับเซิ่งตงหยางก็สู้เขาไม่ได้

เซิ่งตงหยางเห็นว่าท่านลังเลก็เอ่ยพูดอีกว่า "ยังไงตอนนี้บริษัทหนานกงก็เหลือแค่สองทางเลือก หนึ่งล้มละลายไป สองให้ผมมาดูแลแล้วรักษาบริษัทไว้ ถ้าคุณหญิงเลือกสองยังสามารถมีเงื่อนไขอีก ก็คือให้คุณชายเฉินได้ฟื้นกลับคืนมา อะไรสำคัญกว่าคุณหญิงคิดพิจารณาดีๆเถอะครับ"

คำพูดของเขากระแทกใจมาก จนคุณหญิงเริ่มหวั่นไหว

ผ่านไปสักพักท่านค่อยเอ่ยขึ้น "ฉันขอคิดก่อน"

"คุณหญิง คุณหมอบอกว่าเฉินมีชีวิตได้อีกสามวัน คุณแน่ใจหรอว่าจะยื้อต่อไป?" เซิ่งตงหยางพูดข่มขู่ "ตอนนี้อวัยวะในร่างกายของเฉินค่อยๆทดถอยไป จนกระทั่งตายหลังจากสามวันนี้ แต่ยังไงถ้าได้แผนการช่วยเหลือก็จะมีโอกาสมีชีวิตรอดมากขึ้น"

ใจคุณหญิงก็ว้าวุ่นไปกว่าเดิม เมื่อลังเลไปอีกครั้งท่านก็เงยหน้ามองไปที่เขา "แกจะช่วยชีวิตเฉินจริงใช่ไหม?"

"แน่นอน" เซิ่งตงหยางยื่นเอกสารกลับไปในมือท่าน "อีกอย่างคุณหญิงต้องคิดให้ดี นอกจากผมกับผู่เหลียนเหยา ไม่มีใครอีกที่สามารถช่วยคุณชายเฉินได้ แล้วผู่เหลียนเหยาก็อยากจะให้เฉินตายด้วย"

"จะให้ฉันเซ็นก็ได้ แต่แกต้องบอกฉันก่อน"

"คุณหญิง อย่าว่าแต่คุณไม่เข้าใจเลย แม้แต่ผมก็ไม่เข้าใจคำศัพท์เฉพาะเหมือนกัน เพราะฉะนั้น……บอกคุณตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์" เซิ่งตงหยางยักไหล่ "แต่ว่าคุณไว้ใจเถอะ รอให้คุณเซ็นเอกสารแล้วผมจะไปคุยกับคุณหมอจางเอง เขาฟังแล้วต้องเข้าใจแน่นอน"

"ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าแกโกหกฉันหรือเปล่า?" คุณหญิงมองไปที่เขา

เซิ่งตงหยางถามกลับ "แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าถ้าคุณได้แผนรักษาแล้วไม่เซ็นชื่อให้ผม?"

พูดจบ เขาก็ยกข้อมือขึ้นดูเวลา "คุณหญิงรีบตัดสินใจเถอะครับ ผมยังมีธุระสำคัญที่ต้องไปจัดการ"

คุณหญิงยกมือขึ้นกดหัวใจที่กำลังเต้นแรงแล้วสายตาก็จ้องมองไปบนเอกสาร จากนั้นก็กัดฟันรับเอกสารมาจากเขาแล้วเซ็นชื่อตัวเอง

เมื่อเห็นท่านเซ็นชื่อ เซิ่งตงหยางก็ยิ้มแล้วเปิดไปอีกหน้า "ยังมีตรงนี้อีกครับ"

หลังจากที่เซ็นเอกสารในมือเสร็จ คุณหญิงก็โยนเอกสารกลับไปให้เขา "ตอนนี้ไปโรงพยาบาลกับฉันได้หรือยัง?"

"แน่นอนครับ ผมส่งคนไปแล้ว" เซิ่งตงหยางพูดไปด้วยแล้วยิ้มไปด้วย "ยังไงเฉินก็เป็นหลานของผมเหมือนกัน ผมจะไม่ช่วยได้ยังไง คุณหญิงไว้ใจแล้วกลับไปเถอะครับ เฉินต้องฟื้นแน่นอน"

"แน่ใจหรอ?"

"แน่ใจ" เซิ่งตงหยางพยักหน้า

คุณหญิงค่อยเปิดประตูแล้วลงจากรถ เมื่อพี่เหอเห็นท่านลงมาก็มองกวาดไปในรถแล้วพยุงคุณหญิง "คุณหญิงคะ เขาบอกอะไรกับคุณบ้าง? เขาบอกอาการของคุณชายกับคุณหรือเปล่าคะ?"

คุณหญิงมองไปที่เธอแล้วถอนหายใจ "ไปเถอะ เราไปโรงพยาบาลกัน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด