เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 247

หลังจากไปจากเมืองซี ซูซี่ก็ไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายคนไหนอีกเลย ถ้าเฉียวซือเหิงใส่ใจมากกว่านี้ก็คงจะดูออก แต่ว่าตอนนี้เขาโมโหจนหน้ามืดตามัวแล้ว ไม่รู้สึกถึงความเขินอายของเธอเลย

กับซูซี่ เขาไม่เคยเชื่อเลย ถึงเธอจะพูดย้ำว่าเธอไม่เกี่ยวข้องกับอะไรหนานกงเฉิน เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเพราะอะไร!

แต่ซูซี่กลับจับแขนของเขาไว้แล้วเอ่ยเสียดสี "แค่นี้เองหรอ?"

ถึงแม้ลมหายใจของเธอจะไม่มั่งคงมาก ร่างกายก็เหนื่อยจนหมดเรี่ยวแรง เส้นผมที่เปียกก็ติดอยู่ข้างแก้มทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ความรู้สึกเซ็กซี่ลอยออกมา

เฉียวซือเหิงจับมือของเธอไว้ข้างๆแล้วเลิกคิ้ว "เธอแน่ใจเหรอว่าจะเอาอีก?"

"นายไหวเหรอ?"

"ก็ลองดูสิ?" เฉียวซือเหิงเอนตัวลงไป

"ไว้วันอื่นค่อยหากิ๊กของนายมาลองเองเถอะ" ซูซี่จะลุกขึ้นนั่ง แต่เฉียวซือเหิงก็กดเธอกลับไปแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย "ทำไม? เพิ่งจะทำให้ผมเก็บความโมโหไว้ได้ ตอนนี้ก็จะประกาศสงครามอีกงั้นหรอ?"

"ใช่แล้วจะทำไม? นายกัดฉันสิ?"

"ไม่ ผมไม่แค่จะกัดเธอ ผมจะกินด้วย" เฉียวซือเหิงกัดเธอไว้ไม่ให้โอกาสเธอได้พูดต่อ

ผ่านไปสักครู่ ซูซี่ค่อยเอ่ยขึ้น "ไม่คิดเลยว่าคุณชายเฉียวจะมีเวลาแบบนี้ด้วย"

เฉียวซือเหิวพูดเสียงเบาข้างหูเธอ "หวังว่าเธอจะท้องภายในคืนนี้"

ซูซี่มองไปที่เขา "นายว่าอะไรนะ?"

"ทำไม? เธอไม่อยากหรอ?" เฉียวซือเหิงยักไหล่ "แต่เมื่อกี้ผมตอบตกลงแม่ผมแล้วว่าจะมีหลานให้ท่านภายในหนึ่งปี"

"นาย……ฉันเคยบอกแล้วไงว่าฉันไม่มีทางคลอดลูกให้นาย นายไปหากิ๊กของนายสิ!" ซูซี่เอ่ยด้วยสีหน้าเยือกเย็น

"ถ้าลูกที่กิ๊กคลอดออกมาก็คงจะโดนรังแกเหมือนเฉียวเฟิง ผมไม่อยากให้ลูกผมซ้ำรอยแบบนั้น" เฉียวซือเหิงยิ้มอ่อน "เพราะฉะนั้น……ถ้าจะคลอดก็ต้องให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะฐานะหน้าตาเธอก็เป็นคนที่เหมาะสมที่สุด"

"ฉันไม่อยาก!"

"ใครให้เธอเป็นคุณหญิงเฉียวของผมล่ะ?"

"นายไปแต่งงานกับฟางมี่ก็ได้ ฉันยอมถอยออกมา" ซูซี่พูด

สีหน้าของเฉียวซือเหิงเปลี่ยนไป ผ่านไปสักพักค่อยเอ่ยขึ้น "ตอนที่พูดคำนี้ออกมา เธอไม่ต้องใช้เวลาคิดเลยหรอ? คุณหนูซูซี่"

"ถ้าจะให้ฉันมีลูก ฉันยอมหย่าดีกว่า"

"ทำไม?"

ซูซี่พูด "นายพูดถูก ถ้าจะคลอดก็ต้องให้ดีที่สุด อีกสิบปีข้างหน้าฉันไม่อยากเหมือนยายแก่ที่พาลูกแล้วไปไล่ตามนายกับกิ๊ก ฉันยิ่งไม่อยากว่าถ้าวันไหนมีแม่ลูกคู่นึงโผล่มาแล้วมาบีบบังคับให้ฉันออกจากฐานะคุณหญิงเฉียว"

"เธอหมายความว่า รู้สึกว่าผมไม่รักเดียวใจเดียวงั้นหรอ?"

"ฉันไม่สนว่านายจะรักฉันคนเดียวหรือเปล่า แต่ฉันอยากให้นายรักลูกฉันคนเดียว" ซูซี่พูด "เพราะว่าฉันไม่รักนาย"

เฉียวซือเหิงโมโหขึ้นไปอีกแล้วเอ่ยกัดฟันแน่น "เธอไว้ใจเถอะ ผมจะรักแค่ลูกผมคนเดียว คุณไว้ใจได้"

"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากมี"

"คงตามใจเธอไม่ได้" เฉียวซือเหิงลุกขึ้นจากบนตัวเธอยิ้มอยากเยือกเย็นแล้วเดินไปทางห้องน้ำ

ซูซี่ก็ลงจากเตียงด้วยแล้วหายาคุมกำเนิดที่ลิ้นชักของเธอก็หาไม่เจอ เธอเลยปิดลิ้นชักกลับ ไปซื้อพรุ่งนี้ก็ยังทัน

ในห้องอาบน้ำมีเสียงฝักบัวดังขึ้น ซูซี่สวมใส่เสื้อคุมอาบน้ำแล้วเอ่ยถามขึ้นหน้าประตู "ได้ข่าวว่านายใช้อาการป่วยของหนานกงเฉินบังคับให้มู่ชิงกลับไปข้างกายเฉียวเฟิงงั้นหรอ?"

เสียงน้ำในห้องน้ำไม่ได้หยุดลง แต่กลับมีเสียงเปิดประตูดังขึ้น เฉียวซือเหิงก็โผล่มาต่อหน้าเธอ

ตัวเปียกแบบนั้น แล้วไม่ใส่อะไรด้วย

"ไม่ใช่บังคับ แค่แลกเปลี่ยน" เฉียวซือเหิงเอ่ย

"นายบังคับชัดๆ นายรู้ว่ามู่ชิงกับหนานกงเฉินรักกัน ไม่อยากให้เขาตาย" ซูซี่มองไปที่หยดน้ำบนร่างกายเขา ไม่รู้สึกหน้าแดงเลย

"โรคของหนานกงเฉินผมไม่ได้เป็นคนทำให้เป็น ผมมีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ช่วย"

"แต่ว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาย"

"เพื่อนที่ดีที่สุด……" เฉียวซือเหิงยิ้มอย่างเสียดสี จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าไปในห้องน้ำอาบน้ำต่อ

ซูซี่ก็เดินเข้าไปด้วยแล้วยืนถามต่อหน้าเขา "แล้วนายเคยถามเฉียวเฟิงหรือยัง? เขายอมอยู่กับผู้หญิงที่ไม่รักตัวเองแล้วลูกสาวที่ไม่ใช่สายเลือดเขาไปตลอดชีวิตเหรอ?"

"เฉียวเฟิงต้องยอมสิ เขาแค่ใจดีเกินไป ไม่อยากให้ไป๋มู่ชิงเสียใจก็เลยหลอกตัวเองว่าปล่อยมือได้แล้ว" เฉียวซือเหิงยื่นมือออกมาดึงตัวเธอไปใต้ฝากผัวด้วย จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมอาบน้ำเธอออกแล้วเอ่ยข้างหูเธอ "ความรู้สึกแบบนี้ก็เหมือนที่ผมมีต่อเธอ ถึงแม้จะคิดถึงมากแต่ก็ไม่กล้ายอมรับ……"

"อยากจะอ้วก! นายไม่ได้สูงส่งขนาดนั้น!" ซูซี่ใช้มือปาดน้ำบนใบหน้าแล้วหยิบผ้าขนหนูบนราวมาห่อตัวเองไว้ นายโรคจิตนี้อาบน้ำเย็นงั้นหรอ!

ซูซี่สูดจมูกแล้วมองไปที่เขา "คุณชายเฉียว ฉันขอร้องคุณเถอะ อย่าทำอะไรครอบครัวพวกเขาอีกเลยได้ไหม? มู่ชิงลำบากมาทั้งชีวิตน่าสงสารมาก"

"เธอไว้ใจเถอะ เฉียวเฟิงต้องดีกับเธอแน่นอน"

"นายเป็นคนหัวแข็งที่สุดในโลก"

"ถ้าเทียบกับเธอล่ะ?" เฉียวซือเหิงใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมไปด้วยแล้วเดินไปที่เธอ จากนั้นก็ทอดมองไปที่เธอ "คุณหนูซูซี่ วันนี้ผมเหนื่อยมากแล้ว ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก คุณอย่ายั่วอารมณ์ผมดีกว่า"

"ได้ ถ้านายตอบตกลงที่จะปล่อยมู่ชิงไป ฉันก็จะไม่ยั่วนายอีก"

"ถ้าเธอยังพูดเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาอีกแม้แต่คำเดียว ผมจะไม่ให้หนานกงเฉินมีวันฟื้นขึ้นมาแน่"

"นาย……แม้แต่ฉันนายก็ขู่หรอ?"

"เธอคิดว่าผมไม่กล้าหรอ? อยากจะลองดูไหม?" เฉียวซือเหิงเอนตัวลงไปเป่าลมไปที่ใบหน้าเธอ จากนั้นก็เดินผ่านตัวเธอไป

--

ซูซี่ที่เอาแต่คิดมากก็นอนไม่หลับทั้งคืน แค่นอนอยู่บนเตียงอยู่อย่างนั้น แต่เฉียวซือเหิงข้างกายกลับหลับได้สบายมากก็กอดเธอจากข้างหลัง เธอที่ไม่ชินกับการโดนคนอื่นกอดก็นำมือเขาออกหลายครั้ง แต่เขาก็กอดเธอเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง

เป็นแบบนี้เธอก็ยิ่งนอนไม่หลับเข้าไปอีก

จนกระทั่งฟ้าใกล้จะสว่างแล้วเธอค่อยหลับ เลยหลับยาวไปจนถึงตอนเที่ยง

เมื่อเธอตื่นมา เฉียวซือเหิงก็ไม่อยู่บนเตียงตั้งนานแล้ว มองไปที่ข้างเตียงที่ว่างเปล่า เธอก็อดนึกถึงเมื่อคืนไม่ได้ นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เขาทำกับเธอ

เพื่อที่จะป้องกันไว้ เธอก็เลยลุกขึ้นจากเตียง เมื่อแต่งตัวเสร็จหยิบกระเป๋าแล้วก็กุญแจรถกำลังจะออกไป แต่ว่าโทรศัพท์ที่เธอวางไว้บนโต๊ะหายังไงก็หาไม่เจอ

เธอพริกผ้าห่มไปมาใต้เตียงก็หาแล้วก็ไม่มีโทรศัพท์ของเธอ เธอเลยตัดสินใจที่จะลงไปถามคุณป้าที่ทำความสะอาด แต่ว่าประตูเปิดยังไงก็เปิดไม่ออก ประตูเสียงั้นหรอ? เธอลองใหม่อีกครั้งค่อยรู้ว่าประตูถูกล็อคจากข้างนอก

ใครล็อคประตู? ในใจเธอก็รู้สึกสงสัย จากนั้นก็ยกมือขึ้นทุบประตู "มีใครไหม? คุณป้าหง……!"

เรียกไปแล้วก็ไม่มีเสียงตอบรับ เธอก็เลยไปตะโกนที่ข้างระเบียง ข้างล่างก็มีคนตอบรับสักที "คุณหญิงน้อย ฉันจะขึ้นไปเดี๋ยวนี้ค่ะ"

คนรับใช้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ว่าเธอไม่ได้เปิดประตูให้ซูซี่ แต่ว่าเอ่ยขึ้น "คุณหญิงน้อยคะ คุณรอก่อนนะคะ ฉันจะยกอาหารกลางวันมาให้ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณยังต้องการอะไรอีกไหมคะ?"

"รีบเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้" ซูซี่ตะโกน

"เป็นแบบนี้นะคะคุณหญิงน้อย เมื่อเช้านี้คุณชายพาคุณหญิงออกไปเที่ยวพักผ่อน คุณชายกลัวว่าคุณอยู่บ้านคนเดียวจะอันตรายก็ให้พวกเราเฝ้าดูคุณไว้ค่ะ ว่าอย่าให้คุณออกจากห้องนอน"

เมื่อได้ยินสิ่งที่คนรับใช้พูด ซูซี่ก็อึ้งไป เธอไม่ได้โง่จนไม่เข้าใจการกระทำของเฉียวซือเหิง

เขาพาตัวคุณหญิงเฉียวไปแล้วยังขังเธอไว้ในห้องไม่ให้เธอออกไปซื้อยาไม่ได้ จากนั้น……

ดีไม่ดีคุณหญิงก็ร่วมมือกับเขาด้วย จุดประสงค์ของทั้งสองแม่ลูกก็คือจะให้เธอตั้งท้อง เจ็บใจมาก!

"เธอเปิดประตูให้ฉันก่อน!" เธอเอ่ยอย่างรีบร้อนแล้วทุบตีประตู

"ขอโทษค่ะคุณหญิงน้อย คุณชายบอกว่าถ้าใครกล้าเปิดประตูให้คุณก็จะตีจนขาหักค่ะ" หญิงรับใช้พูดด้วยสีหน้าเอื้อมระอา

"งั้นเธอไปซื้อของให้ฉันหน่อย" ซูซี่คิดไปคิดมา ถึงจะไม่หวังมาก แต่ก็เอ่ยพูด

หญิงรับใช้รีบส่ายหน้า "ขอโทษค่ะ คุณชายไม่ให้พวกเราช่วยเหลือคุณหญิงน้อย โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับยา"

"เขาพูดแบบนี้หรอ?" ซูซี่กัดฟันแน่น

หญิงรับใช้ตอบรับ เพื่อที่จะไม่โดนซูซี่ด่าเธอก็เลยเอ่ย "คุณหญิงน้อยคะ ฉันลงไปเตรียมอาหารเที่ยงก่อนนะคะ"

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าไกลออกไป ซูซี่ก็ตะโกนร้อง " เสี่ยวโล้เธอกลับมาเดี๋ยวนี้! เปิดประตู! ไม่งั้นฉันจะทุบประตูทิ้ง……!"

เพื่อที่จะแสดงความมุ่งมั่นของตัวเอง เธอก็เลยใช้เท้าถีบไปที่ประตู แต่ว่าเสียงประตูไม่ได้ทำให้เสี่ยวโล้กลับมาเลย แต่ยิ่งถีบก็ยิ่งทำให้เท้าตัวเองเจ็บ

เธอรู้ว่าเฉียวซือเหิงทำอะไรไม่เหมือนคนทั่วไปอยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าเพื่อที่จะให้เธอตั้งครรภ์ก็ใช้วิธีสกปรกแบบนี้ รู้สึกเจ็บใจมาก!

--

สองวันนี้ไป๋มู่ชิงโทรหาซูซี่ไม่ติดเลย ในใจก็สงสัยว่าเธอไปทำอะไรกันแน่?

สัญญากันแล้วว่าวันที่สองจะมาเยี่ยมเธอ แต่นี่ก็ผ่านไปสองวันแล้วแต่ไม่เห็นเงาเลย ซูซี่ก็ไม่ใช่คนที่ไม่ใส่ใจแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

หลังจากที่ไม่ได้เจอเฉียวซือเหิงมาสองวัน ไป๋มู่ชิงก็ได้เจอเขาสักที แล้วเธอก็พูดคำแรกก็คือถามหาซูซี่

เมื่อเฉียวซือเหิงได้ยินเธอถามหาซูซี่ ฝีเท้าก็หยุดลงแล้วหันไปมองเธอ "คุณจะหาเธอทำไม?"

ไป๋มู่ชิงตกใจกับสายตาที่ไม่สบอารมณ์ของเขาแล้วเอ่ย "ฉันหาเธอ……คุยเล่น"

"เธอถูกผมขังไว้แล้ว"

"อะไรนะ?"

"วิธีนี้เรียนมาจากหนานกงเฉิน" เฉียวซือเหิงยิ้มอย่างมีเลศนัย

"ทำไม?"

"เพราะว่าเธอเอาแต่ขอร้องผม ให้ผมปล่อยคุณกับหนานกงเฉิน แต่ว่าผมไม่อยากได้ยินคำพูดอะไรแบบนี้"

"อะไรนะ? เพราะแบบนี้นายก็เลยขังเธองั้นหรอ?" ไป๋มู่ชิงเอ่ยอย่างร้อนรน "คุณชายเฉียว คุณทำแบบนี้กับเธอไม่ได้ ฉันเป็นคนขอร้องเธอเอง ความผิดของฉันเอง ฉันจะไม่ขอร้องเธอพูดกับคุณอีก"

"ตีเป็นเพราะห่วง ขังเป็นเพราะรัก คุณไม่รู้หรอ?" เฉียวซือเหิงยิ้มอีกครั้ง นี่เป็นคำพูดของหนานกงเฉิน

"แต่ว่าคุณก็เข้าใจนิสัยของซูซี่ดี เธอทำลายบ้านคุณแน่"

"ไว้ใจเถอะ บ้านของผมแข็งแรงมาก" เฉียวซือเหิงมองกวาดไปที่เธอ "อีกอย่าง รอคุณไปจากที่นี่ ผมจะปล่อยเธอออกมาเอง"

"คุณ……" ไป๋มู่ชิงไม่รู้จะเอ่ยพูดอะไร จากนั้นก็สูดหายใจเข้าแล้วเอ่ย "คุณชายเฉียวคะ ฉันอยากจะเตือนคุณ ซูซี่ไม่เหมือนกับฉัน เธอหัวแข็งมาก ถ้าคุณยังจะแข็งข้อกับเธอแบบนี้ พวกคุณสองคนก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปจากตอนนี้แน่นอน"

ถึงผู้หญิงจะนิสัยดุร้ายแค่ไหน ก็แค่สิงโตตัวน้อยที่ไม่มีเล็บ ผมไม่เชื่อว่าผมจัดการเธอไม่ได้" เฉียวซือเหิงยิ้มอย่างมีเลศนัยจากนั้นก็หันหลังเดินเข้าห้องพักฟื้นของหนานกงเฉิน

มองตามแผ่นหลังของเขาที่จากไป ไป๋มู่ชิงก็ทำได้แค่สูดหายใจเข้าแล้วเดินตามไปด้วย

เธอไม่คิดเลยว่าจะทำให้ซูซี่ตกอยู่ในอันตราย เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เธอถูกขังในบ้าน เธอก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที

--

พอตกดึก ไป๋มู่ชิงก็ไปที่บ้านเฉียวเฟิง ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเสี่ยวหว่านชิงลอยออกมาจากบ้าน เธอรีบเร่งฝีก้าวแล้วไปถึงหน้าประตูบ้าน

ก็เห็นว่าเฉียวเฟิงกับหว่านชิงกำลังเป่าฟองสบู่ ทั้งสองคนกับหมาตัวเล็กกำลังเล่นอยู่ในสวนอย่างมีความสุข แม้แต่มีคนเดินเข้ามาก็ไม่รู้สึกเลย

เมื่อเห็นทั้งสองพ่อลูกมีความสุขแบบนี้ ไป๋มู่ชิงก็หยุดฝีเท้าไม่อยากไปรบกวน

เธอยืนอยู่หน้าประตูได้ประมาณห้านาที เสี่ยวหว่านชิงที่อยู่ในบ้านค่อยเห็นตัวเธอ

"คุณแม่กลับมาแล้ว!" หว่านชิงวิ่งมาทางเธอแล้วก็มีน้องหมาวิ่งตามเธอมาด้วย

ไป๋มู่ชิงก้มตัวลงไปรับร่างกายตัวเล็กของเธอจากนั้นก็อุ้มเธอขึ้น "วันนี้เป็นเด็กดีหรือเปล่าคะ?"

"เป็นเด็กดีค่ะ หนูอ่านหนังสือด้วยแล้วยังวาดรูปด้วย ถ้าไม่เชื่อคุณแม่ถามคุณพ่อได้เลยค่ะ"

"อื้อ คุณแม่เชื่อหนู" ไป๋มู่ชิงยิ้ม "หว่านชิงเก่งที่สุด"

"ขอบคุณค่ะคุณแม่" พูดจบสีหน้าหว่านชิงก็หม่นหมองลงแล้วจ้องไปที่เธอ "คุณแม่ คุณพ่อยังไม่ฟื้นมาหรอคะ?"

"ยังค่ะ"

"ทำไมนานขนาดนี้คะ? คุณพ่อจะฟื้นเมื่อไหร่คะ?"

"อือ……คุณลุงบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน คงไม่เร็วขนาดนั้น"

"อื้อ" หว่านชิงพยักหน้าแล้วลงมาจากตัวเธอ "หว่านชิงไม่ให้อุ้ม คุณแม่คงเหนื่อยน่าดู"

"หว่านชิงดีที่สุด" ไป๋มู่ชิงพูดชม จากนั้นก็จูงมือเธอไปข้างกายเฉียวเฟิง

เฉียวเฟิงมองดูเธอนั่งลงบนเก้าอี้แล้วมองสำรวจสีหน้าของเธอแล้วยิ้มอ่อน "เป็นอะไร? ท่าทางเหมือนไม่มีความสุขเลย หนานกงเฉินไม่ดีขึ้นหรอ?"

"เปล่า" ไป๋มู่ชิงจับหน้าตัวเองแล้วพยายามฝืนยิ้ม "ฉันดูไม่มีความสุขหรอ?"

"ชัดเจนขนาดนี้ยังบอกว่าเปล่าอีก" เฉียวเฟิงเทชาให้เธอแล้วยื่นไปต่อหน้า "อาการของหนานกงเฉินเปลี่ยนไปหรือเปล่า?"

"ไม่ใช่" ไป๋มู่ชิงส่ายหัว เธอทอดมองไปที่ชาในแก้ว ผ่านไปสักพักค่อยเงยหน้าพูดกับเขา "อาเฟิง ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ"

"เรื่องอะไร?"

"เราไปอังกฤษด้วยกัน แล้วให้หว่านชิงอยู่ที่นี่ได้ไหม?"

"หมายความว่ายังไง?" เฉียวเฟิงไม่เข้าใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด