ในตอนเช้า พี่เหอได้นำเอกสารฉบับหนึ่งไปวางไว้ข้างหน้าของไป๋มู่ชิง พูดอย่างไร้อารมณ์ว่า“ลองดูเนื้อหาในเอกสารนี้ดู”
“นี่คืออะไรเหรอ?”ไป๋มู่ชิงหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ลองอ่านผ่านๆดูหนึ่งรอบ ในนั้นเขียนไว้ประมาณว่าถ้าเธออยู่ที่ตระกูลหนานกงห้ามเข้าใกล้ศาลบรรพบุรุษของตระกูลหนานกง และไม่สามารถเอาความลับของตระกูลหนานกงไปเปิดเผย ตอนกลางคืนที่อยู่กับหนานกงเฉินไม่อนุญาตให้เปิดไฟตามอำเภอใจ
อะไรก็ทำไม่ได้
ห้ามเปิดไฟ?นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?
มิน่าล่ะทั้งสองครั้งที่เจอหนานกงเฉินก็ไม่ได้เปิดไฟ ทำไมกันนะ?หรือเป็นเพราะว่าเขาหน้าตาไม่ดี?ไม่กล้าเจอผู้คน?หรือว่า......เขาป่วยจนไม่มีความเป็นมนุษย์แล้ว?
ข้างล่างยังเขียนไว้ว่าภายในสองเดือนต้องมีทายาทให้กับตระกูลหนานกง?
“คุณชายใหญ่เป็นคนที่ลึกลับซับซ้อนขนาดนี้แต่ฉันต้องตั้งท้องภายในสองเดือนเนี่ยนะ?”เธอคิดว่ายังไงก็ทำไม่สำเร็จ
คุณหญิงหนานกงยิ้มเยาะแล้วพูดว่า“คุณไป๋ ถึงแม้ว่าจะพิสูจน์ได้แล้วว่าคุณไม่ใช่เนื้อคู่ของคุณชายใหญ่ แต่แหวนดันถอดไม่ออก ตระกูลหนานกงเลยต้องให้คุณอยู่ต่อแต่เหตุผลเดียวที่ให้คุณอยู่ต่อคือต้องมีทายาทให้”
ในตอนแรก จริงๆแล้วคุณหญิงหนานกงอยากจะกำจัดเธอเหมือนกับผู้หญิงพวกนั้น แต่พอลองกลับมาคิดดูดีๆแล้วหนานก็เฉินอายุสามสิบแล้วแต่ว่ากลับไม่มีลูกเลยแม้แต่คนเดียว
ถ้าหากว่าถายในหนึ่งปียังหาไม่เจอเนื้อคู่คนนั้น แล้วถ้าเป็นเหมือนที่ท่านอาจารย์หวังได้พูดไว้งั้นตระกูลหนานกงคงจะไม่มีคนมาสืบทอดสกุลแล้ว แต่ถ้าหากว่าในหนึ่งปีนี้ไป๋มู่ชิงสามารถคลอดลูกชายหรือลูกสาวออกมาให้กับตระกูลหนานกง อย่างน้อยก็ถือว่ามาต่อชีวิตให้กับตระกูลหนานกง
“แต่ว่า......คุณชายใหญ่พูดว่าถ้าหากฉันถอดแหวนออกมาได้แล้วเขาก็จะปล่อยฉันไป”ไป๋มู่ชิงตอบไปแบบอ้ำๆอึ้งๆ
“งั้นเธอคลอดลูกชายสิฉันก็จะปล่อยเธอไปเหมือนกัน”
“ฉันไม่......”
“คุณไป๋ ตอนนี้ตระกูลหนานกงใจกว้างกับคุณมากเลยนะ ได้โปรดอย่าโลภเลย”คุณผู้หญิงเริ่มจะหมดความอดทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...