"คุณทำแบบนี้ทำไม? ทำไม?!" ไป๋มู่ชิงร้องไห้ไปด้วยพร้อมกำมือทุบอกเขาไปด้วย ร้องไห้จนหมดแรง "ทำไมคุณถึงเลือดเย็นขนาดนี้? ทำไม? พูดสิทำไม!"
"ผมไม่ได้ตั้งใจ" หนานกงเฉินคว้ามือเธอไว้พร้อมพูดด้วยอารมณ์ร้อน "ผมไม่ได้ตั้งใจบีบจนคุณหญิงจูตาย ผมก็ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงพวกนั้นตายด้วย ผม……"
"ตายก็ตาย! ไม่เกี่ยวกับความตั้งหรือไม่ตั้งใจ? มันสามารถลดโทษของคุณได้เหรอ?"
"ทำไมไม่ได้ล่ะ? ทางกฎหมายยังแบ่งเลยระหว่างจงใจฆ่าหรือประมาทไป!"
"คุณ……!" ไป๋มู่ชิงโกรธกับคำพูดที่ดูเหมือนมีเหตุผลของเขาจนควบคุมตัวเองไม่ได้จนกรีดร้องออกมาอีกครั้ง "หนานกงเฉินนายพูดออกมาได้ยังไง นายมันไม่ใช่คนแล้ว! ฉันจะหย่ากับนาย!"
เธอหยุดร้องแล้วแต่ยังไม่หยุดที่จะทุบตีเขา
"หย่างั้นเหรอ? ถอดแหวนมาก่อนสิ!" หนานกงเฉินจับมือข้างขวาเธอขึ้น ยกนิ้วที่มีแหวนเพชรไปตรงหน้าเธอ
ไป๋มุ่ชิงอารมณ์กำลังร้อนเธอเลยดึงมือตัวเองกลับมาแล้วดึงแหวนบนนิ้วนางเธอออกอย่างรุนแรง ทั้งๆที่วันปกติใช้สบู่ช่วยยังดึงไม่ออก ตอนนี้ด้วยอารมณ์แบบนี้จะดึงออกได้ยังไง?
เธอโกรธมากจนเสียสติไป รู้ว่าเป็นไปไม่ได้แต่ก็ยังไม่ยอมยั้งมือจนนิ้วถลอกเลือดไหลเต็มมือ
เมื่อหนานกงเฉินเห็นว่ามีเลือดเขาเลยกระชากข้อมือเธอไว้ "พอแล้ว! ถ้ายังดึงอีกนิ้วเธอขาดแน่!"
"ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ" ไป๋มู่ชิงจ้องเขาด้วยตาที่ล้นไปด้วยน้ำตา "เอามือคุณออกไป"
"เธอจะงี่เง่าอยู่ตรงนี้อีกใช่ไหม?" หนานกงเฉินกวาดสายตาไปยังผู้คนที่มามุงดู
ตอนนี้ไป๋มู่ชิงไม่สนหรอกว่าจะขายหน้าแค่ไหนพร้อมใช้แรงดึงมากกว่าเดิม เธอขยับถอยหลังไปทีละนิดจนไปใกล้กับแม่น้ำ เธอเพิ่งหลุดจากมือของหนานกงเฉินมาได้แต่ก็สดุดอะไรสักอย่างจนตัวเธอเซจะล้มลงไป
"อ๊าย......!" เธอร้องขึ้นพร้อมกับล้มลงไปในแม่น้ำที่เย็นจนเสียวสันหลัง
หนานกงเฉินก็อึ้งไปแต่ก็รีบถอดเสื้อคลุมออกแล้วกระโดดลงไป
น้ำที่เยือกเย็นจนทำให้ทั้งสองปวดสันหลัง คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างไป๋มู่ชิงก็ได้แต่พยุงตัวเองไว้พร้อมร้องขอความช่วยเหลือ "ช่วยด้วย......ช่วยด้วย......!"
หนานกงเฉินอดทนกลั้นความเจ็บปวดจากความเย็นนี่ไว้แล้วว่ายไปทางเธอ กอดเธอไว้จากข้างหลังแล้วว่ายพาเธอขึ้นไปบนบก
ไป๋มู่ชิงที่ยังตกใจไม่ได้สติก็เอาแต่ดิ้นจนหนานกงเฉินพาเธอขึ้นมาริมน้ำได้ยาก หนานกงเฉินเอ่ยเสียงเข้มออกไปว่า "หยุดดิ้นได้แล้ว ไม่งั้นจะจมลงไปอีก"
พอได้ยินเสียงเขาไป๋มู่ชิงก็ก็หยุดขยับตัวแล้วร้องไห้อย่างตกใจออกมา น้ำทั้งเย็นทั้งลึกขนาดนี้ เธอคิดว่าตัวเองคงไม่รอดแน่
เธอยังไม่ได้คลอดลูกในท้อง ยังช่วยแม่กับน้องชายเธอออกมาไม่ได้ เธอยังไม่อยากตาย ยังตายไม่ได้......"
หนานกงเฉินเห็นว่าเธอคงตกใจกลัวมากเลยกอดตัวเธอไว้แน่น พร้อมพูดเสียงเบาข้างหูเธอ "ไม่ต้องกลัวนะ มีผมอยู่ข้างๆ"
เสียงของเขาช่างอ่อนโยนเหลือเกินแต่ก็ยังมีความโน้มน้าวใจจนไป๋มู่ชิงสงบสติอารมณ์ลง เธออยากให้ความร่วมมือในการขึ้นไปบนบกแต่เพราะน้ำเย็นเกินไปแล้วเธอก็ตกใจมากด้วยจนทำให้เธอหมดแรงลงแล้วสติก็ค่อยๆหายไป
ด้วยความช่วยเหลือจากผู้คน ทั้งสองคนเลยขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย
รถฉุกเฉินใช้เวลาที่เร็วที่สุดในการมาถึงแล้วนำตัวทั้งสองไปถึงโรงพยาบาลหงเอิน
จนกระทั่งไป๋มู่ชิงเข้าไปในห้องฉุกเฉินหนานกงเฉินถึงได้โล่งอกไปหน่อย เขาถอยหลังแล้วล้มลงบนเก้าอี้ เขาทั้งหนาวทั้งเหนื่อยจนหมดเรี่ยวหมดแรง
เมื่อผู่เหลียนเหยาได้ข่าวจากเพื่อนร่วมงานว่าหนานกงเฉินถูกรถฉุกเฉินนำตัวมาส่งโรงพยาบาลเธอเลยรีบไปที่แผนกฉุกเฉิน เธอเห็นสภาพหนานกงเฉินเหมือนลูกหมาตกน้ำเลยเอาผ้าห่มจากห้องพักฟื้นมาคลุมตัวเขาไว้แล้วถามอย่างเป็นห่วง "พี่ชายไปทำอะไรมาคะ?ทำไมเนื้อตัวถึงเปียกขนาดนี้?"
"ตกแม่น้ำน่ะ" หนานกงเฉินตอบสั้นๆ
"ตกลงไปได้ยังไงกัน? เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?"
"แค่ไม่ระวัง"
ผู่เหลียนเหยาเห็นว่าเขาไม่อยากพูดอะไรมากแถมยังหนาวจนตัวสั่นขนาดนี้เธอเลยลุกจากเก้าอี้แล้วเอ่ย "เดี๋ยวหนูไปเอาเสื้อมาให้เปลี่ยน"
ผู่เหลียนเหยาโทรหาพี่เหอให้ส่งเสื้อผ้ามาให้ พี่เหอเอาแต่ถามเธอว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่แต่ผู่เหลียนเหยาก็ไม่รู้จะตอบยังไงเลยบอกให้พี่เหอถามเขาเอง
ผู้เหลียนเหยาเอาชุดคนไข้ให้หนานกงเฉิน "พี่ชาย ใส่นี่ก่อนเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย"
"ขอบใจ" หนานกงเฉินรับเสื้อไปแล้วเดินไปเปลี่ยนที่ห้องเปลี่ยนเสื้อ
ทันทีที่หนานกงเฉินเปลี่ยนชุดเสร็จ ป้ายไฟห้องฉุกเฉินก็ดับลงแล้ว ไป๋มู่ชิงก็ถูกเข็นออกมาด้วย
เขารีบเดินเข้าไปหาคุณหมอพร้อมจับแขนคุณหมอไว้ "เธอเป็นยังไงบ้างครับ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...