ไม่นานแอเรียนก็ตระหนักได้ว่า “ช่างมันเถอะ พอแล้ว เราจะเรียกช่างซ่อมประตูมาเปลี่ยนประตู”
ทิฟฟานี่ปวดใจ “ประตูนี้แพงนะ ฉันจะไปจับไอ้บ้านั่นและสั่งสอนพวกมัน!”
ตอนนั้นยังเช้าอยู่ จึงไม่สามารถเปลี่ยนประตูได้ในทันที ธุรกิจจำนวนมากยังไม่เปิด ดังนั้นแอเรียนและทิฟฟานี่จึงหาเครื่องมือบางอย่างและพังประตูลง แต่พวกเขาต้องเก็บมันไว้ เพราะมันจะเป็นหลักฐานในรายงานของตำรวจ นี่จะถือเป็นความเสียหายต่อทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย มูลค่าประตูก็เพียงพอที่จะฟ้องคดีได้
ตำรวจและช่างซ่อมประตูมาถึงพร้อมกัน เมื่อตำรวจเห็นสภาพของประตูกระจกซึ่งถูกรื้อทิ้งแล้ว จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงออกไปตรวจดูกล้องวงจรปิด บริเวณโดยรอบอยู่ภายใต้การเฝ้าระวัง ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะดึงภาพออกมา
เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนในร้านมาถึงที่ทำงาน ช่างซ่อมประตูก็ยังยุ่งอยู่ พวกเขาอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเราถึงเปลี่ยนประตูของเรา?”
ทิฟฟานี่ยังคงโกรธเคือง “พวกคนเถื่อนบางคนวาดภาพคำที่ไม่เหมาะสมไปทั่วประตูของเรา แค่สาปแช่งพวกเราก็แย่แล้ว แต่เรายังต้องเปลี่ยนประตูด้วยเหตุนี้อีก ฉันได้แจ้งความกับตำรวจแล้ว เมื่อพวกเขาพบผู้กระทำผิด ฉันอยากจะไปดูว่ามันเป็นใคร!”
ธัญญ่ารู้สึกเสียใจกับประตูบานเก่า “มันจะยังใช้ได้ถ้าเราขูดสีออกใช่ไหม?”
แอเรียนส่ายหัว “ลืมมันไปเถอะ มันเสียแล้ว มันจะเหนื่อยเกินไปถ้าจะทำความสะอาดมันและมันจะทิ้งร่องรอยไว้ด้วย มันจะดูไม่ดีเลย เว้นแต่เราจะจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด แต่มันจะดึงดูดความสนใจและส่งผลต่อธุรกิจมากเกินไป เรารอให้ตำรวจหาตัวผู้กระทำผิดและให้เขาชดใช้แทนเรา แบบนั้นเราก็ไม่ขาดทุนแล้ว”
พวกเขาได้รับโทรศัพท์จากสถานีตำรวจในตอนบ่ายว่าพบผู้กระทำความผิดด้วยสีสเปรย์แล้ว พวกเขาขอให้แอเรียนไปที่สถานีตำรวจ
แน่นอนว่าทิฟฟานี่ก็ต้องไปด้วย ความโกรธของเธอปฏิเสธที่จะบรรเทาลง เธออยากเห็นคนชั่วคนนั้นด้วยตาของเธอเอง! พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปิดร้านชั่วคราวในตอนบ่ายเพื่อจัดการเรื่องนี้ เพราะสุดท้าย ทั้งเชฟทำขนมและบาริสต้าก็ไม่อยู่ พวกเขาไม่สามารถรับคำสั่งได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์
มีนิยายหลายเรื่องที่หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวเลยค่ะและมีแต่เรื่องเดิมฯไม่มีเรื่องใหม่ฯให้อ่านบ้างเลย...