ณ อัมสเตอร์ดัม
ห้องพักหมายเลขยี่สิบเจ็ดในโรงแรมแห่งหนึ่งช่วงกลางดึก
เกิดเสียงน้ำไหล ซ่า ซ่าในห้องอาบน้ำ
เจียงตานจวี๋นอนอยู่บนเตียง เมื่อมองผ่านกระจกห้องอาบน้ำพลันเห็นเงาของผู้ชายร่างสูงโปร่ง หุ่นล่ำสันปรากฏอยู่ภายใต้แสงไฟสีโทนอุ่นและละอองน้ำที่ฟุ้งกระจายจนเกิดภาพเลือนราง
ก่อนหน้านี้ดื่มไวน์แดงอเล็กซานเดอร์หนึ่งแก้วตรงมุมบาร์เหล้าของโรงแรมชั้นล่าง ตอนนี้รู้สึกแอลกอฮอล์ค่อยๆออกฤทธิ์แล้ว ทำให้ทัศนวิสัยเริ่มพร่าเลือน
สักพัก ชายหนุ่มผู้หนึ่งเปลือยท่อนบน กล้ามหน้าอกอันกำยำสะท้อนแสงไฟแล้วก็ยิ่งขับเน้นรูปทรงให้ฉายชัดมากยิ่งขึ้น ส่วนช่วงล่างได้คลุมผ้าเช็ดตัวสีขาวนวลไว้ จากนั้นก็เดินออกมา
กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำและความชื้นกระโจนเข้าหาเธออย่างฉับพลัน
ไม่รอให้เจียงตานจวี๋ไหวตัวทัน ร่างกายของชายหนุ่มก็ทาบทับเธอเรียบร้อย
หลังจากนอนหนึ่งตื่น กลิ่นอายงดงามยังคงตราตรึง เสื้อผ้าระเกะระกะอยู่บนพื้น ส่วนผ้าปูที่นอนอันขาวสะอาดมีสีอื่นเปรอะเปื้อน
วันนี้เป็นวันหมั้นหมายของเธอกับกู้จ้งเซิน
กู้จ้งเซินตั้งใจจัดพิธีหมั้นที่ปราสาทโบราณของยุโรปโดยเฉพาะ
เจียงตานจวี๋เปิดมือถือดูเวลาก็เห็นว่าใกล้จะเก้าโมงแล้ว ซึ่งพิธีหมั้นจะเริ่มขึ้นในเวลาสิบนาฬิกา เธอรีบโทรหากู้จ้งเซินทันที ทว่ากลับไร้คนรับสาย
เธอหงุดหงิดที่เมื่อคืนไม่อาจควบคุมตัวเองได้
เจียงตานจวี๋รีบอาบน้ำ จากนั้นก็รีบต่อรถมุ่งไปยังปราสาทโบราณ ทว่ากลับถูกบอดี้การ์ดขัดขวางหน้างาน
ตอนใกล้จะถึงเวลาเริ่มพิธี เจียงตานจวี๋โทรหากู้จ้งเซินหลายต่อหลายครั้ง ทว่าก็ไม่มีคนรับสาย เธอจึงโทรหาเจียงผานผู้เป็นพ่อของตัวเองแทน
อีกฝ่ายรับสายในช่วงที่เจียงตานจวี๋คิดจะวางสายพอดี
"ตานจวี๋ แกอยู่ในโรงแรมก่อนเถอะ ใกล้จะถึงพิธีหมั้นของกู้จ้งเซินกับเถาหลี่แล้ว แกอย่ามาก่อความวุ่นวายเชียวนะ"
ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด.....
เมื่อถูกตัดสายทิ้ง หัวใจเจียงตานจวี๋ราวกับตกลงไปในหุบเหวลึก แววตาวาดหวังรอคอยไร้แสงสว่างโชติช่วงในบัดดล เธอฟังผิดหรือเปล่า ทำไมคู่หมั้นของเธอจะหมั้นหมายกับน้องสาวเธอ เมื่อคืนเขายังคลอเคลียกับเธอทั้งคืนแท้ๆ
มันเป็นไปไม่ได้
ภายในปราสาทโบราณมีเสียงครึกครื้นรื่นเริงแว่วออกมา คล้ายกับบอกเธอว่านี่เป็นเรื่องจริง
เจียงตานจวี๋ทรุดตัวนั่งอยู่ที่บันไดหน้าประตูปราสาทโบราณ ไม่รู้ว่าด้านนอกมีฝนตกหนักกะทันหันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำให้แยกแยะสิ่งที่อยู่บนใบหน้าไม่ออกว่าเป็นหยดน้ำตาหรือเป็นเม็ดฝนกันแน่
เธอมองประตูปราสาทอย่างเลื่อนลอย ทันใดนั้นพบว่าบอดี้การ์ดไม่อยู่แล้ว
เจียงตานจวี๋รีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะยกมือปาดหยดน้ำบนดวงตาทิ้ง แล้วรีบเดินเข้าไปด้านในปราสาทโบราณ
กู้จ้งเซินกำลังกล่าวความในใจอยู่บนเวที เขาเล่าช่วงเวลาพลอดรักของเขากับเจียงเถาหลี่ ชั่วขณะนี้บรรยากาศเปี่ยมล้มไปด้วยความซาบซึ้งกินใจ
เจียงตานจวี๋เข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทุกถ้อยคำของเขาล้วนเป็นดั่งคมกริชที่บาดลึกเข้ากลางอกของเจียงตานจวี๋อย่างไม่หยุดยั้ง
หางตาเจียงเถาหลี่เหลือบเห็นร่างเงาที่กำลังเคลื่อนไหว ใบหน้าเริ่มตึงเครียด นัยน์ตาเผยความกระวนกระวายใจ
"เถาหลี่ ใช้ชีวิตคู่กับคุณคือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดของผมครับ" กู้จ้งเซินเอียงหน้ามองเจียงเถาหลี่ด้วยแววตารักอันลึกซึ้ง
แขกเหรื่อด้านล่างเวทีรอฟังคำมั่นสัญญาของทั้งคู่ว่าจะรักกันชั่วฟ้าดินสลายอยู่ ส่วนเจียงเถาหลี่ไม่รู้ตัวว่ากู้จ้งเซินกำลังรอการตอบสนองจากเธออยู่อย่างสิ้นเชิง
ระหว่างที่กู้จ้งเซินจ้องมองเจียงเถาหลี่ด้วยแววตาอันอบอุ่นพลันเห็นเจียงตานจวี๋ที่อยู่ด้านหลังพอดิบพอดี
แววตาอันอบอุ่นค่อยๆเจือจาง ก่อเกิดเป็นสายตาดุดันเตือนเจียงตานจวี๋ว่าอย่าเข้ามาใกล้
บนเวที นอกจากมีหนุ่มสาวเจ้าของงานที่สวมเสื้อผ้าอลังการเลิศหรูแล้ว เจียงตานจวี๋ที่เหมือนลูกหมาตกน้ำก็กำลังเดินขึ้นมายังเวที ด้านล่างเริ่มเกิดเสียงซุบซิบเซ็งแซ่
"คนนี้เป็นใคร มาก่อกวนที่งานหมั้นหรือเปล่า?"
"บุกเข้ามาทำลายงาน ไร้การศึกษาสิ้นดี"
แววตาอันเย็นเยียบของเจียงตานจวี๋สยบสองคนที่วิจารณ์อยู่ด้านล่างเวที เธอจงใจยกระดับเสียงให้สูงขึ้น "กู้จ้งเซิน คุณเป็นแฟนของฉันเสมอมา ไปเพาะรักกับน้องสาวฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวของนายน้อยลี่