บริษัทลี่ซื่อ
หลินเซิ่งห่อเอกสารกองหนึ่งเข้ามาในห้องทำงานของท่านประธาน
"คุณชายลี่ครับ นายท่านยื่นคำขาดว่าภายในเดือนนี้ต้องแต่งงานกับคุณหนูรองแห่งตระกูลเจียง เจียงเถาหลี่ครับ"
หลินเซิ่งเอารูปถ่ายหนึ่งใบวางบนโต๊ะทำงาน ลี่ซุ่ยหานไม่แม้แต่จะมองแค่ปราดเดียวก็โยนทิ้งที่ถังขยะทันควัน
ถึงแม้ตระกูลลี่จะเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองไป๋ เป็นผู้กุมสภาวะเศรษฐกิจของเมืองไป๋ ทว่าสังคมชั้นสูงต่างลือสนั่นว่า ลี่ซุ่ยหาน ประธานบริษัทลี่ซื่อนับจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วก็มีโรคที่ไม่อาจเปิดเผยได้ ซึ่งก็คือมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้
ข้างกายเขาไม่เคยมีหญิงสาวมาก่อน จึงยืนยันได้ว่าข่าวลือนี้เป็นความจริงอย่างประจวบเหมาะ มิฉะนั้นเขาผู้มั่นมีเงินทอง คงมีหญิงสาวเสนอตัวไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
บรรดาคุณหนูตระกูลสูงส่งในเมืองไป๋ ย่อมไม่ยินดีเป็นทองแผ่นเดียวกับเขา
แค่คิดก็รู้ว่าตระกูลลี่สรรหาผู้หญิงประเภทไหนมาแต่งงานกับเขา
"สืบเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้หรือยัง?" ลี่ซุ่ยหานกวาดสายตาอ่านประวัติส่วนตัวของเจียงเถาหลี่ พลางถามเนือยๆ
หลินเซิ่งพูดตะกุกตะกักว่า "คุณชายลี่ครับ คืนนั้นคุณโดนวางยาในไวน์ครับ และไปโรงพยาบาลไม่ได้ ดังนั้นจึง......"
ลี่ซุ่ยหานตัดบทพูดของเขา "สืบได้หรือยังว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?"
"กล้องวงจรปิดในคืนนั้นน่าจะมีคนจงใจทำให้เสียครับ ตอนนี้ยังซ่อมไม่เสร็จครับ ใช้ต่างหูดอกทิวลิปหนึ่งข้างตามหาคน มันยากมากครับ"
ลี่ซุ่ยหานเจอสิ่งนี้ในแขนเสื้อตัวเองตอนที่จะออกจากห้องนั้น ดังนั้นต่างหูดอกทิวลิปหนึ่งข้าง จึงเป็นเบาะแสเดียวที่เขามีอยู่
ประเทศเนเธอร์แลนด์มีต่างหูรูปดอกทิวลิปลักษณะนี้เต็มท้องตลาด การตามหาหญิงปริศนาจึงเป็นดั่งงมเข็มในมหาสมุทร
ตอนโดนวางยาตอนนั้น หลินเซิ่งหาผู้หญิงไร้มลทินให้เขาโดยผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งใช้เงินสดกว่าห้าแสนยูโรในการซื้อตัว เพราะเป็นการแลกเปลี่ยนที่มีเงื่อนไขว่าต้องเก็บทุกอย่างเป็นความลับสุดยอด ดังนั้นจึงไม่รู้ประวัติของอีกฝ่ายเลยสักนิด
อัมสเตอร์ดัมไม่ใช่เมืองไป๋ที่คิดจะสืบค้นเรื่องนี้อย่างละเอียดได้โดยง่าย ต้องยากเย็นนานัปการอยู่แล้ว และด้วยสาเหตุนี้จึงมีคนฉวยโอกาสลอบทำร้ายเขาได้
"สืบต่อไปจนกว่าจะเจอ" ลี่ซุ่ยหานรู้สึกหงุดหงิด พลางคลายเนคไทออกด้วยจิตใต้สำนึก
......
เจียงตานจวี๋ลงเครื่องก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินตรงไปยังโรงพยาบาล โดยคุณยายยังคงสลบไสลอยู่
เธอเดินเข้าห้องน้ำ มองตัวเองผ่านกระจกพลันเห็นใบหน้าที่ซีดขาว ดวงตาที่บวมระบมราวกับไข่ไก่ ผมเผ้ารุงรังเสมือนคนบ้า แอบให้กำลังใจตัวเองว่าต้องเข้มแข็งเข้าไว้ จะล้มตอนนี้ไม่ได้
เจียงตานจวี๋ไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เคาน์เตอร์ชั้นหนึ่ง เห็นเงินในบัญชีน้อยลงไปทุกทีแล้วก็เศร้า ไม่รู้จะประคับประคองได้สักกี่น้ำ
ช่วงนี้เจียงตานจวี๋เฝ้าไข้คุณยายอยู่แต่โรงพยาบาลทุกวี่ทุกวัน กระทั่งมีคนรับใช้โทรมาแจ้งว่า เจียงผานกับหลิวหมิ่นหลานกลับมาแล้ว เธอถึงจะกลับบ้านตระกูลเจียง
ยังไม่ทันเดินเข้าห้องรับแขกก็มีเสียงของหลิวหมิ่นหลานกับเจียงเถาหลี่ส่งออกมา
"คุณแม่ค่ะ ป่านนี้แล้วเจียงตานจวี๋ยังไม่กลับมาเลยค่ะ คิดสั้นฆ่าตัวตายที่ต่างแดนแล้วหรือเปล่าคะ?"
"นิสัยอย่างหล่อนคงไม่ตายง่ายๆหรอก ตายแล้วก็ต้องเอาศพกลับมา แผนการสับเปลี่ยนคนของพวกเรายังไม่บรรลุเป้าหมายเลย"
"คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วเหรอคะ" แม่บ้านจางยกรังนกสองแก้วเดินผ่านเธอพอดี
ภายในห้องรับแขกเงียบกริบทันที
เจียงตานจวี๋ชำเลืองมองเจียงเถาหลี่ปราดหนึ่ง ก่อนจะขึ้นไปยังห้องหนังสือชั้นบน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เคาะประตูเสร็จไม่รอให้ด้านในขานรับ เธอก็ตรงเข้าไปในห้องหนังสือทันควัน
"คุณพ่อรู้เรื่องเจียงเถาหลี่กับกู้จ้งเซินแต่แรกแล้วใช่ไหมคะ?" เจียงตานจวี๋ซักไซ้เจียงผานด้วยท่าทางดุร้าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวของนายน้อยลี่