“ห๊ะ?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ หนิงชิงเสวี่ยและพานอวิ๋นก็ตะลึงงันไปพักใหญ่ จากนั้นก็โพล่งเสียงหัวเราะขึ้นพร้อมกัน
“นี่นายฉู่ ฉันได้ยินไม่ผิดแน่นะ? นายบอกว่านายอยู่ที่นี่จริง ๆ งั้นเหรอ ? “
พานอวิ๋นหัวเราะอย่างเกินจริงและพูดขึ้นว่า “นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์ที่นี่ราคาเท่าไร ? อาจมีราคาสูง 30 ถึง 40 ล้านเลยนะ คนบ้านนอกอย่างนายต่อให้ดิ้นรนนานกว่าสิบชั่วอายุคนก็ไม่มีปัญญาซื้อได้แม้กระทั่งห้องน้ำด้วยซ้ำ”
“โธ่ ๆ ไม่ไหวเลยจริงๆ นายทำให้ฉันหัวเราะจะตายอยู่แล้วนะ”
เธอพูดพร้อมกับกุมท้องและหัวเราะอย่างหนัก
และหนิงชิงเสวี่ยก็โกรธจัดจนหัวเราะออกมา “ถ้าอย่างนั้นนายช่วยบอกฉันหน่อยสิว่า บ้านของนายอยู่ที่ไหน?”
“บนยอดเขาไง เหมือนจะเรียกว่าคฤหาสน์อวี้หลงวานหมายเลข 1อะไรสักอย่างนี่แหละ” ฉู่เฉินกล่าวอย่างสบาย ๆ
และคราวนี้หนิงชิงเสวี่ยก็หัวเราะเยาะจนท้องคัดท้องแข็ง
ถ้านายบอกว่า นายก็แค่พูดชื่อคฤหาสน์มาสักหลัง บางทีฉันอาจจะเชื่อก็ได้นะ
แต่คฤหาสน์อวี้หลงวานหมายเลข 1 เป็นที่อยู่ของหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมิน แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับคนบ้านนอกอย่างนาย?
เธอมองไปที่ฉู่เฉินด้วยความเห็นอกเห็นใจ “ฉู่เฉิน นายรู้ไหมว่าตอนนี้นายดูเหมือนตัวตลกที่ทำให้ฉันรู้สึกรังเกียจอยู่ ?”
“ก็แล้วแต่จะคิดเลย” ฉู่เฉินยักไหล่แล้วหันหลังกลับ ขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงกับทั้งสองคน
“นายควรรีบออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะมาเห็นนายเข้า ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาอาจจะร้ายแรงก็ได้นะ”
หนิงชิงเสวี่ยพูดทิ้งท้ายก่อนจะให้พานอวิ๋นสตาร์ทรถและเร่งมุ่งหน้าขึ้นไปบนยอดเขา
ทั้งสองมาถึงที่หน้าประตูคฤหาสน์ หนิงชิงเสวี่ยกดกริ่งประตูเบา ๆ “หมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินที่เคารพ ฉันคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลหนิงที่หนานเจียงค่ะ ฉันมาที่นี่ก็เพื่อขอให้คุณช่วยรักษาคุณปู่ของฉัน …”
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเธอจะพูดอะไร แต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับจากภายในคฤหาสน์หลังนี้เลยแม้แต่น้อย
“ท่านประธานคะ ดูเหมือนว่าหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินจะออกไปข้างนอกนะคะ หรือว่าพวกเรามาใหม่วันหลังดีไหมคะ “พานอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
ในวอร์ด มีชายชราคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างไร้ลมหายใจ
ที่หน้าเตียงมีชายและหญิงในชุดที่ไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไปล้อมรอบตัวเขา พวกเขาทั้งหมดมองดูชายชราด้วยสีหน้าที่โศกเศร้า
“หมอศักดิ์สิทธิ์ซุนคะ ปู่ของฉันไม่ไหวแล้วจริง ๆ เหรอคะ?”
หญิงสาวในวัยยี่สิบพูดด้วยนัยน์ตาสีแดงก่ำ “คุณหมอช่วยยื้อชีวิตให้เขาอีกสามชั่วโมงก็ยังดีนะคะ”
ชายชราคือเข็มวิเศษของตระกูลฉิน เมื่อเขาล้มป่วยลง ทำให้เกิดความตื่นตระหนกกันไปทั่ว โดยที่จะส่งผลกระทบต่อตระกูลฉินทั้งหมด หากชายชราคนนั้นสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสามชั่วโมง ชายชราคนนั้นก็จะมีเวลาจัดการกับเรื่องราวต่าง ๆได้นั่นเอง
ชายชราในชุดถังที่ชื่อหมอศักดิ์สิทธิ์ซุนถอนหายใจเบา ๆ “โชคชะตาถูกกำหนดไว้แล้วและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยพลังของมนุษย์นะครับ”
“ท่านฉินต่อสู้เพื่อประเทศในช่วงเริ่มต้น และทิ้งบาดแผลที่ซ่อนอยู่ในการสู้รบอันนองเลือดมากมาย ตอนนี้โรคเก่ากำเริบขึ้น ทำให้อวัยวะของเขาล้มเหลว และบั้นปลายชีวิตของเขาก็มาถึงแล้ว แม้หมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินก็ต้องไร้ซึ่งหนทาง ยิ่งตัวผมก็ไม่ต้องพูดถึง”
เมื่อทุกคนได้ยินก็ต่างโศกเศร้าน้ำตาไหล
ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราเยาะดังมาจากประตู “คุณทำไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นทำไม่ได้สักหน่อย คุณมีสิทธิ์อะไรมาตั้งคำถามถึงความสามารถของหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมิน ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต