บทที่ 10 หนทางการหาเงินอย่างแรก 50 ล้าน!
“แกว่าอะไรนะ?”
หวังเหวินสงสัยว่าเขาได้ยินผิดไป
“ผมถามว่าอยากเป็นตำรวจไหม?”
“อยากสิ!” หวังเหวินตอบรับทันที มันเป็นความฝันของเขามาเนิ่นนาน
“ไม่ได้เป็นตำแหน่งทั่วไปนะ แค่ตำรวจผู้ช่วย” ซูเย่กล่าว
“แค่ผู้ช่วยก็ได้!” หวังเหวินพยักหน้า แม้จะยังสับสนอยู่ว่าซูเย่หมายความว่าอย่างไร
“ได้” ซูเย่พยักหน้ากลับ “พรุ่งนี้ไปรายงานตัวที่สถานี”
“หืม?” หวังเหวินแปลกใจ
“หวังห่าวให้โอกาสคุณ เลิกโทษว่าเขาขโมยมันไป ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว ขึ้นอยู่กับตัวคุณและผลงานว่าจะเลื่อนตำแหน่งได้หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นเลิกเล่นพนันได้แล้ว ถ้าผมรู้ว่าคุณเล่นอีกผมจะกลับมาตบคุณ” ซูเย่กล่าวอย่างเย็นชา
“ที่พูดมานี่จริงเหรอ? ฉันจะได้เป็นตำรวจเหรอ?” หวังเหวินมองซูเย่อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินและถามกลับอย่างตื่นเต้น
เขาเคยไปเข้าคัดเลือกและสอบสัมภาษณ์นับครั้งไม่ถ้วน แต่เนื่องจากมีประวัติการพนัน จึงถูกคัดออกตลอด แล้วในครั้งนี้มันจะเป็นไปได้จริงเหรอ?
“จริง” ซูเย่ตอบ
ในช่วงเวลานั้นเอง เขาได้เห็นประกายแสงสว่างปรากฏขึ้นในดวงตาของหวังเหวิน
“ที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณ”
ซูเย่พูดจบก็ได้เดินผ่านหวังเหวินและออกห่างไป
“ขอบคุณ!”
ร่างของเขานิ่งไปครู่หนึ่ง จนกระทั่งซูเย่ลับสายตาไป ดวงตาของเขาที่เคยหม่นหมองกลับมาเป็นประกาย เขากล่าวขอบคุณซูเย่พร้อมทั้งน้ำตา
สิ้นสุดคำขอบคุณ น้ำตาของเขายังคงไหลไม่หยุด
และแล้วเขาก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
สิ่งที่เขารอคอยมาตลอด ในที่สุดโอกาสก็มาถึง ดังนั้นต้องคว้าเอาไว้ให้ได้!
เขาเช็ดน้ำตาแล้วรีบมุ่งหน้ากลับบ้าน
“พ่อ แม่” ทันทีที่เขาถึงบ้าน หวังเหวินตะโกนอย่างตื่นเต้นดีใจ
“เสี่ยวเหวิน วันนี้กลับไวจัง? ดูมีความสุขจังเลย เจออะไรดี ๆ มาเหรอ?”
แม่ของเขาเดินออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
“หายากนะนี่ที่เสี่ยวเหวินมีความสุขขนาดนี้”
พ่อของเขาเองก็เดินออกมาอย่างร่าเริง “ทีหลังก็อย่ามัวอยู่แต่บ้าน ออกไปเดินเล่นบ้าง ถ้าลูกมีความสุขพวกเราก็มีความสุข”
“พ่อ แม่ ผมจะได้เป็นตำรวจ!” หวังเหวินบอกพวกเขาอย่างตื่นเต้น
“อะไรนะ? พูดจริงเหรอ?” ทั้งคู่ตกใจอย่างมาก
“จริงครับ” หวังเหวินพยักหน้ายืนยันแล้วกล่าวต่อ “เพื่อนเสี่ยวห่าวบอกให้ผมไปรายงานตัวพรุ่งนี้ ชายหนุ่มที่มาบ้านเราครั้งก่อน จำได้ไหม?”
“เขาเหรอ?” ทั้งคู่ต่างแปลกใจ
“เขาบอกว่าเสี่ยวห่าวเป็นคนช่วย” หวังเหวินเสริม
เมื่อได้ยินคำนั้น สีหน้าของพ่อและแม่ก็เปลี่ยนไป
ครอบครัวที่เคยตื่นเต้นดีใจ ทันใดนั้นเหลือเพียงความเงียบ
ทั้งบ้านมีแต่ความเงียบสงัด
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ใบหน้าของพวกเขาแสดงความรู้สึกผิดที่อธิบายออกมาไม่ได้
ไม่ใช่เพียงหวังเหวิน
ทั้งพ่อและแม่ต่างรู้ดีว่าพวกเขาเลี้ยงดูและปฏิบัติกับหวังห่าวมาไม่ดีตั้งแต่เล็ก ๆ
ที่จริงแล้วมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง
เนื่องจากตอนที่เขาเกิด ได้มีหมอดูเข้ามาทัก
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาจึงปล่อยปละละเลยหวังห่าวและปฏิบัติแย่ ๆ กับเขา ทุกครั้งที่พวกเขารู้สึกอยากเปลี่ยนไปทำดีกับหวังห่าว พวกเขาจะนึกถึงคำทำนายของหมอดู
การที่หวังห่าวแย่งโอกาสในการเป็นตำรวจของหวังเหวิน ยิ่งพิสูจน์ว่าคำทำนายของหมอดูเป็นเรื่องจริง
แต่ท้ายที่สุด หวังห่าวก็เป็นลูกแท้ ๆ ของพวกเขา
พอได้ลองไตร่ตรองแล้ว หวังห่าวตกเป็นเป้าของการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมมาตลอดหลายปี
ความรู้สึกผิดจึงก่อขึ้นในใจของพวกเขา
หลังจากที่ในบ้านเงียบเป็นเวลาอยู่ครู่ใหญ่
“ไว้เสี่ยวห่าวกลับบ้านมาเมื่อไร พวกเรามากินข้าวกันพร้อมหน้าสักครั้งนะ”
หวังผู้พ่อกล่าวพร้อมกับถอนใจเบา ๆ
……
ย้ายไปที่หอพักนักศึกษา
“หาเงิน 250 ล้านจากแหล่งเดียวไม่มีทางทันแน่ ต้องคิดหาวิธีเสริม” ซูเย่ครุ่นคิดกับตน
หนทางแรกคือการขยายแปลงปลูกกะหล่ำปลีพลังปราณ
มีเวลาเพียง 1 ปี ถ้าเปลี่ยนไปปลูกอย่างอื่นจะช้าเกิน
กุญแจสำคัญคือ
ถ้าคำนวณจากสถานการณ์ของภัตตาคารหมิงหูแล้ว จะสามารถทำเงินได้ 8.6 ล้านหยวนต่อปี หากขยายแปลงแล้วเพิ่มสาขา จะทำกำไรเพิ่มได้มากขึ้น
แต่จะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณการเพาะปลูกที่จะขยาย
แล้วยังขึ้นอยู่กับทางภัตตาคารอีกด้วยว่าจะเปิดสาขาใหม่ได้กี่แห่ง ถ้าอีกฝ่ายไม่มีทุนสำหรับเปิดสาขาก็ไม่มีประโยชน์
“ลองดูก่อนแล้วกันว่าจะปลูกกำหล่ำปลีพลังปราณได้เท่าไร!”
ทันทีที่เขาคิดได้ ซูเย่ก็รีบออกไปยังหมู่บ้านฉีเจี๋ยซุนทันที
เขาสำรวจไปรอบ ๆ หมู่บ้าน เมื่อพิจารณาจากพื้นที่เพาะปลูกของหมู่บ้านฉีเจี๋ยซุนและหมู่บ้านใกล้เคียงแล้ว สามารถขยายแปลงสิบเท่าได้โดยไร้ปัญหา
สิบเท่า เป็น 86 ล้าน!
เขาสามารถหาพื้นที่ปลูกเพิ่มได้อีก ทว่าพื้นที่แถบนี้เหมาะสมที่สุด ปรับปรุงเพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างแปลงขนาดใหญ่ได้
หากเป็นที่อื่น สภาพดินอาจจะไม่ดีเท่า และเขายังขาดกำลังคนอีกด้วย
ถ้าไม่ได้ใช้เวลาตลอดปี จะไม่สามารถทำเงิน 86 ล้านได้
สิบสาขา ไม่รวมค่าจ้างพนักงาน เริ่มจากครึ่งหลังของปีจนถึงช่วงนี้ของปีถัดไป สามารถทำเงินได้ 50 ล้าน!
1 ใน 5 ของเป้าหมาย
เท่านั้นยังไม่พอ
“การขยายแปลงปลูกสิบเท่า ก็ต้องใช้หยกปราณมากขึ้น”
หลังจากตกลงกันเรื่องขยายสาขาเสร็จ ซูเย่จึงเริ่มคิดคำนวณต่อในขณะที่ออกจากภัตตาคารหมิงหู
ด้วยพื้นที่เพาะปลูกที่ใหญ่ขนาดนั้น พลังปราณจากโลกอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ
ถึงแม้จะเปลี่ยนสถานที่ ก็ยังมีขนาดใหญ่เกินไปที่จะตั้งค่ายกลรวบรวมปราณ
เนื่องจากกระแสปราณบนโลกนั้นเบาบางเป็นอย่างมาก ถึงรวบรวมมาก็ยังมีปริมาณไม่เพียงพอ ทว่าหากเป็นในดินแดนภูผามหานทีก็พอเป็นไปได้
“ถ้าใช้หยกปราณเพื่อการร่ายคาถารวบรวมปราณ…” ซูเย่คำนวณในใจ “ต้องใช้อย่างน้อย 1,000 ก้อน”
การรวบรวมปราณปริมาณมากพอที่จะครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ และคงอยู่ได้เป็นเวลานานต้องใช้หยกปราณอย่างน้อย 1,000 ก้อนเพื่อเสริมกำลัง”
“ดูเหมือนทางออกของปัญหาคือต้องไปดินแดนภูผามหานที” ซูเย่เอ่ยพร้อมถอนใจ
บนโลกนี้เป็นไปไม่ได้เลย การจะหาหยกปราณปริมาณมากต้องหาจากดินแดนภูผามหานทีเท่านั้น
สัญญาว่าไว้ว่าห้ามนำของจากดินแดนภูผามหานทีมาขาย แต่ไม่ได้ระบุว่าห้ามนำของจากที่นั่นมาใช้ ซูเย่ไม่ได้ละเมิดสัญญาใด ๆ
ทันใดนั้น ซูเย่ขมวดคิ้ว
“หยกปราณ 1,000 ก้อนเพียงพอสำหรับการรวบรวมปราณ แต่ยังไม่พอสำหรับการฝึกตน”
การฝึกตนของเขาหรือการเลื่อนขั้นก็ต้องใช้หยกปราณจำนวนมากเพื่อรวบรวมปราณ
และยังคงต้องการแต้มคุณธรรม 10,000 แต้มเพื่อพัฒนาพลังแห่งห่าวหราน ซึ่งแปลงออกมาเป็นเงินกว่า 500 ล้าน!
จบการคำนวณเพียงเท่านี้
“หนทางอีกยาวไกล”
ซูเย่กระซิบแผ่วเบา ขยับตัวยืดเส้นยืดสาย ความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยานปรากฏขึ้นในสายตา เช่นเดียวกับรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก
หลังจากผ่อนคลายมา 2,500 ปี ในที่สุดก็ได้เวลาขยันแล้ว!
หลังจากมีความรักครั้งแรกในรอบ 2,500 ปี เขาจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ เด็ดขาด!
และเขาควรทำงานหนักเพื่อพ่อและแม่ของเขาด้วย
“ปี๊บ”
เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นจากโทรศัพท์
ซูเย่หยิบโทรศัพท์ออกมาและเห็นข้อความที่ส่งมาจากเสี่ยวจุน
“มาที่ห้องฝึก 8 โมงเช้าวันพรุ่งนี้ เริ่มการสำรวจดินแดนภูผามหานที 3 วัน และเข้าเขตระดับสี่”
พอได้เห็นข้อความ ซูเย่ก็ยิ้มออกมา
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังกังวลเรื่องหยกปราณอยู่ โอกาสก็มาหาเขา
การไปดินแดนภูผามหานทีครั้งนี้ เขาต้องนำหยกปราณพันก้อนกลับมาให้ได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]