บทที่ 165 เหลนของปรมาจารย์ฮั่ว
แปดโมงเช้า
ซูเย่ก็มาถึงจุดหมายปลายทาง
สิ่งแรกที่สะดุดตาเขาคือประตูหน้าที่กว้างใหญ่มากพอให้รถบรรทุกสามารถแล่นผ่านเข้าไปได้อย่างสบาย ๆ
“สวัสดีครับ ผมมาที่นี่ตามคำแนะนำของอาจารย์หลี่”
ซูเย่แนะนำตัวเองด้วยการเดินไปเคาะกระจกหน้าต่างป้อมยามซึ่งตั้งอยู่ข้างประตูทางเข้า
“เดินเข้าไปแล้วเลี้ยวขวา”
ดูเหมือนเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัย หรือ รปภ.ผู้นี้จะได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว เขาเดินออกมาจากด้านในป้อม รีบยกรั้วกั้นขึ้นด้วยความเร็วไวและชี้มือไปยังเรือนกระจกที่อยู่ด้านใน “เดินตรงไปที่นั่นแหละ”
“ขอบคุณมากครับ”
ซูเย่พยักหน้าขอบคุณ ก่อนก้าวเท้าไปตามทิศทางที่รปภ.บอก
เมื่อเดินไปถึงประตูเรือนกระจก ชายหนุ่มถึงได้รู้ว่าเรือนกระจกแห่งนี้มีความใหญ่โตขนาดไหน ถึงยังมองไม่เห็นพื้นที่ด้านใน แต่จากความสูงของหลังคาก็ไม่ต่ำกว่า 10 เมตรเข้าไปแล้ว และกระจกที่นำมาทำเป็นผนังก็ไม่ใช่กระจกทั่วไป แต่เป็นกระจกนิรภัยชั้นดีราคาแพงระยับ
“ฟึบ”
จังหวะที่ซูเย่กำลังจะผลักประตูเข้าไป บานประตูของเรือนกระจกก็เปิดออกโดยอัตโนมัติ
ปรากฏหญิงสาวอายุ 30 ปีใบหน้าสวยงามผู้หนึ่ง ยืนรอต้อนรับเขาอยู่ที่หลังประตู
หญิงสาวคนนี้แต่งหน้าทาปาก สวมใส่ชุดกระโปรงอย่างเป็นทางการ
เธอไม่ได้มองหน้าซูเย่ แต่กลับมองความว่างเปล่าสองฝั่งของเขาแทน
“วันนี้อาจารย์หลี่ไม่ได้มาด้วยเหรอ?”
“อาจารย์ติดงานครับ มาไม่ได้”
ซูเย่ตอบกลับไปอย่างสุภาพ
“หึ!”
หญิงสาวพ่นลมทางจมูกอย่างเย็นชา ก่อนพูดว่า “เข้ามาสิ”
ชายหนุ่มเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปด้านในเรือนกระจก และเขาก็พบว่าอุณหภูมิด้านในไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด มิหนำซ้ำ ที่นี่กลับให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจแก่ผู้คนอีกต่างหาก…
“สรุปว่านายคือเด็กที่คุณปู่ฉันเกือบจะรับเป็นลูกศิษย์แล้วใช่ไหม?” หลังจากที่ชายหนุ่มเดินผ่านประตูเข้ามาแล้ว หญิงสาวก็ใช้สายตาสำรวจมองซูเย่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
ซูเย่ชะงักไปเล็กน้อย ถามด้วยความสงสัยว่า “คุณคงเป็นหลานสาวของอาจารย์ฮั่วสินะครับ?”
“ฉันชื่อฮั่วซือฉิง และฉันเกือบจะต้องเรียกนายว่าอาจารย์อาแล้วนะเนี่ย”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ผมซูเย่ครับ”
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายแนะนำตัวเองบ้าง
“ก็ดี”
ดูเหมือนว่าการที่หลี่เคอหมิงไม่ได้มาด้วยในวันนี้จะทำให้ฮั่วซือฉิงอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อย เธอเพียงพยักหน้ารับทราบและพูดกับซูเย่ต่อว่า “อยากศึกษาอะไรก็ตามสบายนะ สมุนไพรทุกชนิดมีป้ายชื่อแปะไว้แล้ว”
“ขอบคุณมากครับ” ซูเย่ผงกศีรษะ
แต่ต้องรอให้ฮั่วซือฉิงผละจากไปนั่นแหละ เขาถึงได้มีเวลาสำรวจเรือนกระจกแห่งนี้อย่างจริงจัง
ซูเย่พบว่ามันมีขนาดกว้างใหญ่ ไม่ต่ำกว่าสนามฟุตบอลสองสนามรวมกัน
และเรือนกระจกแห่งนี้ก็มีก้อนหินดินทรายทุกชนิด สำหรับเพาะปลูกพืชพันธุ์สมุนไพรตามคุณลักษณะเฉพาะตัวของพวกมัน
“ที่นี่เลียนแบบสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติได้ดีจริง ๆ นอกจากจะจำลองพื้นดินของภูเขาและลำธารแล้ว ยังมีการจำลองหน้าผากับภูเขาหิมะอีกด้วย หมายความว่าที่นี่คงปลูกสมุนไพรได้จากทั้งประเทศเลยสินะ”
เขาพูดด้วยความชื่นชม
ช่างใหญ่โตมโหฬารเหลือเกิน!
ไม่แปลกใจอีกแล้วว่าทำไมหลี่เคอหมิงถึงเรียกให้เขามาที่นี่
ซูเย่ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาเริ่มต้นสำรวจดูสมุนไพรตัวแรกด้วยความตื่นเต้น
แต่ไม่นานหลังจากนั้น ชายหนุ่มก็พบสิ่งผิดปกติ
เพราะต้นไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในเรือนกระจก มีลักษณะเหมือนขาดสารอาหารอย่างรุนแรง
น่าสงสัยแฮะ
ซูเย่กราดตามองรอบบริเวณอย่างเร็วไว เพียงไม่กี่นาที เขาก็จดจำชื่อสมุนไพรแต่ละชนิด รวมไปถึงสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพวกมันได้ขึ้นใจ
หลังจากเดินสำรวจอยู่พักใหญ่ ทันใดนั้น สายตาของเขาก็สะดุดเข้ากับพุ่มหญ้าฝรั่น*เล็ก ๆ พุ่มหนึ่ง แล้วดวงตาของซูเย่ก็เป็นประกายแวววาวขึ้นมาทันที
“เปิดผนึกดวงตาที่สาม!”
ซูเย่รีบเปิดดวงตาสวรรค์ของตนเองด้วยความตื่นเต้น
แล้วมันก็เป็นอย่างที่เขาคิด
เมื่อมองด้วยดวงตาที่สาม ทุกอย่างจึงชัดเจน
หญ้าฝรั่นพุ่มนี้จัดเป็นสมุนไพรวิเศษ
มันมีพลังปราณธรรมชาติสะสมอยู่มากกว่าผลวอลนัทวิเศษในป่าเสียอีก
ซูเย่ปิดดวงตาที่สามลงและเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยทันที
“ไม่ต้องแปลกใจอีกแล้วว่าทำไมสมุนไพรต้นอื่น ๆ ถึงดูขาดสารอาหารเหลือเกิน นั่นเป็นเพราะว่าหญ้าฝรั่นพวกนี้ดูดซับพลัง และแร่ธาตุอาหารมาทั้งหมดไงล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]