บทที่ 2 ฉันก็แค่อายุ 2,500 ปี (ตอนปลาย)
ซูเย่พูดชื่อหนังสือทั้งหมดภายในเฮือกเดียว
“‘บทสรุปของห้องโถงทองคำ’ ‘หนังสือฉบับสมบูรณ์ของฉางชุน’ ‘คัมภีร์ชีพจร’ ‘แหล่งที่มาของโรคทั้งหมด’ ‘จินเจียงแห่งอี้ซ่ง’ ‘ชีพจรห้าสี’ ‘ธรรมเนียมวิถีแห่งทิเบตตอนกลาง…”
ตอนนี้รายชื่อหนังสือที่หลุดออกมาจากปากของซูเย่นั้นมีมากกว่าหนึ่งโหลแล้ว
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ถึงกับไปไม่เป็นจนดูน่าขัน
นี่เคยอ่านมาจริง ๆ หรือแค่พูดมั่ว ๆ ออกมาเนี่ย?ทุกคนในห้องได้แต่คิดในใจ
“พอแล้ว!”
อาจารย์หลี่เคอหมิงรีบหยุดซูเย่ก่อนที่สถานการณ์จะดุเดือดไปกว่านี้ คิ้วของเขาขมวดเป็นปมจนแทบจะผูกเป็นโบว์
“เธอบอกว่า เธอเคยอ่านหนังสือทั้งหมดนี่มาแล้วงั้นเหรอ?”หลี่เคอหมิงเอ่ยถามเขาด้วยความสงสัย
“ใช่ครับ”
ซูเย่พยักหน้าอย่างสัตย์จริง
อาจารย์หลี่เคอหมิงเริ่มมองซูเย่ด้วยสายตาผิดหวัง ผู้คนที่ทำงานด้านการแพทย์ที่ดีไม่ควรพูดโกหก แต่เด็กหนุ่มคนนี้กลับโกหกคำโตออกมาเสียได้..และที่เขารู้ก็เพราะว่า
“หนังสือ ‘ชีพจรห้าสี’ นั้นมันหายไปกว่าสองพันปีแล้ว เพิ่งจะมีการขุดค้นทางโบราณคดีจนเจอเพิ่มไม่กี่คำเมื่อเดือนมีนาคมนี่เอง แล้วเธอจะเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ยังไง?”
ทั้งห้องตกอยู่ในภาวะเงียบสงบ
ก่อนเสียงหัวเราะจะดังขึ้นมากกว่ารอบที่แล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ที่มันพูดออกมาทั้งหมดนี้มันโม้นี่หว่า! โดนต้มซะเปื่อยเลย!
กล้าพูดถึงหนังสือที่หายไปตั้งนานแล้ว แถมยังพูดถึงเรื่องวินิจฉัยชีพจรต่อหน้าอาจารย์ที่เป็นมืออาชีพเสียอีก นี่มันวางยอดขนนกบนยอดเสาธง[1] ชัด ๆ ใจกล้ามาก!
ทุกคนมองซูเย่อย่างเยาะเย้ย คาดหวังที่จะได้เห็นความมั่นใจบนใบหน้าของเขาถูกทำลายอย่างย่อยยับ
แต่ผลลัพธ์ที่พวกเขาเห็นกลับเป็น.. สีหน้างุนงงของเด็กหนุ่ม
เอ้ะ? หายสาบสูญไปแล้วงั้นเหรอ?
ซูเย่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย
หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนโดยเปี่ยนเชวี่ย[2] เขาเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งหนึ่งและได้บรรจุมันไว้ในราชวังแห่งความทรงจำของตนเอง แต่กลายเป็นว่าหนังสือฉบับของจริงนั้นหายสาบสูญไปนานแล้วเสียอย่างนั้น
ซูเย่สัมผัสได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความงงงวยและสมน้ำหน้าของทุกคน มุมปากของเขาเผยเป็นรอยยิ้มน้อย ๆ
ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้แบบนี้ เสียน้อยก็ดีกว่าเสียมากแล้วกัน
เขาเริ่มหาเกี่ยวกับ “ชีพจรห้าสี” ในราชวังแห่งความทรงจำในห้วงความคิดและปลีกตัวเองออกมาจากโต๊ะ
“สีทั้งห้าล้วนมีพื้นฐานมาจากชีวิตและความตาย…”
“ลมปราณหัวใจคือสีแดง ลมปราณปอดคือสีขาว ลมปราณตับคือสีเขียว ลมปราณท้องคือสีเหลือง ลมปราณไตคือสีดำ ดั่งเช่นจิตวิญญาณทั้งห้า…”
หืม?
เสียงหัวเราะของนักศึกษาในห้องหยุดลงทันทีและมองไปที่ซูเย่อย่างสงสัย เขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่?
อาจารย์หลี่เคอหมิงที่ตอนแรกไม่คิดจะสนใจ แต่เมื่อเขาฟังไปเรื่อย ๆ ยิ่งรู้สึกถึงความผิดปกติ
เขามองซูเย่อย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะได้ยินสิ่งเหล่านี้จากเด็กหนุ่มตาใสตรงหน้า
ครึ่งหลังของสิ่งที่นักศึกษาหลังห้องคนนี้กล่าวออกมา ล้วนเหมือนกับเนื้อหาทางโบราณคดีที่เขารู้จักทุกประการ!
แถมยังมีความสมบูรณ์ครบถ้วนกว่าที่เขารู้ด้วยซ้ำ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]