บทที่ 40 ขอยืมหมวก VR หน่อยนะ (ตอนปลาย)
ในตอนนี้จอมยุทธ์หนุ่มไม่ได้สนใจนายตำรวจอีกต่อไป
แต่สิ่งที่เขาสนใจก็คือ…
มีคนอื่นอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ? เพราะการโจมตีเมื่อสักครู่ไม่มีทางที่จะเป็นฝีมือนายตำรวจคนนี้แน่ ๆ
“แกเป็นใคร?”
จอมยุทธ์หนุ่มกวาดตามองรอบกายและคำรามเสียงดังด้วยความเกรี้ยวกราด พรางคิดในใจ ‘มีตัวแส่เข้ามาเพิ่มอีกจนได้’
อาการบาดเจ็บที่ขาขวาของเขากลับมาเล่นงานอีกครั้งอย่างเจ็บปวดทรมาน
ใจหนึ่งชายหนุ่มก็อยากจะหลบหนี แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่กล้าขยับเขยื้อน
นายตำรวจหนุ่มในเสื้อแจ็คเก็ตหนังหันหน้ามองไปยังทิศทางที่ใบไม้ถูกยิงออกมา
ต้องมีจอมยุทธ์สักคนหนึ่งแฝงตัวอยู่บนต้นไม้แน่นอน!
โชคดีที่จอมยุทธ์คนนั้นเป็นคนดี
“ไม่ทราบว่าผู้มากฝีมือเป็นใคร ได้โปรดออกมาแสดงตัวด้วย”
จอมยุทธ์หนุ่มผู้บาดเจ็บประสานมือคำนับในความมืด
แต่ภายใต้ท้องฟ้าที่สุกสกาวด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วน นอกจากเสียงแมลงกลางคืนและสายลมที่พัดผ่านแล้ว ก็ไม่มีเสียงใดตอบรับกลับมาอีกเลย
“เป็นถึงผู้มากฝีมือ ทำไมต้องซ่อนตัวทำร้ายผู้คนจากในเงามืด?”
จอมยุทธ์หนุ่มพูดอีกครั้งด้วยสีหน้าที่ดุดันมากขึ้น เขาต้องการที่จะรู้ ‘ตัวตนของมันผู้นั้น’
ยังคงมีแต่ความเงียบ
ความเงียบคือคําตอบ
เมื่อไม่ได้คำตอบดังที่ตนเองหวังจอมยุทธ์หนุ่มรู้ตัวดีกว่าควรรีบไปจากที่นี่ นายตำรวจส่งสัญญาณเรียกกำลังเสริมมาแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจะมัวเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกไม่ได้
“ในเมื่อคุณไม่อยากปรากฏตัว ผมคงต้องขอตัวก่อน”
หลังจากกวาดตาสำรวจมองรอบตัวอีกหนึ่งรอบ
ยืนยันจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีการเคลื่อนไหวจากรอบบริเวณ จอมยุทธ์หนุ่มกล้ามระเบิดก็เดินลากขามุ่งตรงไปยังทิศทางฝั่งหนึ่ง หมายมั่นว่าจะหลบหนีให้สำเร็จให้ได้
เมื่อเห็นดังนั้น นายตำรวจในเสื้อแจ็คเก็ตที่ซ่อนตัวอยู่ในดงหญ้า ก็จำเป็นต้องรีบสะกดกลั้นความเจ็บปวด และวิ่งตามจอมยุทธ์หนุ่มไปอย่างไม่มีทางเลือก
“บ้าเอ๊ย!” นายตำรวจพยายามวิ่งสุดชีวิต แต่เพราะร่างกายที่บาดเจ็บทำให้ตามอีกฝ่ายไม่ทันอยู่ดี
พลัน ซูเย่กระโดดลงมาจากยอดไม้และทอดสายตามองไปยังทิศทางที่นายตำรวจกับหัวขโมยวิ่งหายไป เพียงเขาขยับปลายเท้าเล็กน้อย ตัวคนก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าและหายวับไปในความมืดมิดยามราตรีด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง
สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถตามจับตัวคนร้ายมาได้ นายตำรวจหนุ่มทำได้เพียงส่งตำแหน่งของตนเองให้ทีมส่งกำลังเสริมติดตามมา
เมื่อนายตำรวจวิ่งหายไปในความมืดได้ประมาณห้านาที ตรงจุดที่นายตำรวจยืนอยู่เมื่อสักครู่นี้
จอมยุทธ์หนุ่มกล้ามระเบิดก็มุดขึ้นมาจากหลุมดินใต้ต้นไม้ข้างทาง
เขาลุกขึ้นยืน ปัดเศษดินออกจากร่างกาย แค่นหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ กำลังจะเดินหลบหนีไปอีกทาง แต่แล้วก็เหมือนเขาจะสังเกตพบอะไรบางอย่าง จึงรีบหันกลับมาตั้งท่าพร้อมที่จะสู้
“ผลั่ก!”
แต่ก่อนที่จอมยุทธ์หนุ่มจะทันได้เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ท้ายทอยของเขาก็ถูกฝ่ามือปริศนากระแทกเข้าอย่างแรง ส่งผลให้จอมยุทธ์หนุ่มหมดสติล้มลงกับพื้นทันที
“น่าเสียดายจริง แต้มศีลธรรมของฉันต้องหลุดลอยไปเพราะแกคนเดียว”
“ถ้ารู้ว่าแกเป็นคนเลวนะ ฉันคงไม่ช่วยต่อกระดูกให้แกตั้งแต่แรกหรอก แถมจะจับตัวส่งตำรวจด้วยซ้ำ”
ซูเย่อดบ่นออกมาไม่ได้เมื่อจ้องมองร่างที่หมดสติของชายหนุ่มผู้บาดเจ็บ
ต่อจากนั้น เขาก็ค้นดูสิ่งของที่อยู่ในเป้ของฝ่ายตรงข้าม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]