บทที่ 59 แค่ขอยืม กรุณาอย่ารบกวน
ณ จัตุรัสกลางมหาวิทยาลัย
ซูเย่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิดนอกผืนป่า เฝ้ามองกลุ่มบุคคลปริศนา
“ห้าคน?”
ซูเย่เม้มริมฝีปากด้วยความสงสัย
แม้ว่าอีกฝ่ายจะซ่อนตัวเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ชายหนุ่มก็สามารถมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามได้
ในตอนนี้เขาสามารถตรวจจับพลังลมปราณของหนึ่งในนั้นได้อย่างชัดเจน เป็นพลังที่เขาคุ้นเคย
เจ้าหน้าที่สืบสวนหมายเลข 197 นั่นเอง
ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนเดินเข้าไปในป่า ทุกย่างก้าวของเขาเงียบงันราวกับเป็นเพียงดวงวิญญาณดวงหนึ่ง
“ผู้กองครับ อย่าหาว่างั้นงี้เลยนะครับ แต่ทำไมผู้กองถึงแน่ใจว่าคนที่ขโมยหมวก VR ไป จะต้องออกมาเพราะหยกชิ้นนี้ล่ะครับ?”
ในผืนป่า เจ้าหน้าที่ทีมสืบสวนทั้งห้าคนแยกย้ายกันซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ห้าต้นที่อยู่กระจายกันไปห้าทิศทาง
พวกเขาติดต่อสื่อสารกันด้วยนาฬิกาข้อมือ
“ไม่มีวิธีไหนที่จะล่อผู้ฝึกยุทธ์ออกมาได้ดีมากไปกว่านี้อีกแล้ว ในตอนนี้ฉันได้ขยายขอบเขตพลังของปราณธรรมชาติออกไป ถ้าในมหาลัยแห่งนี้มีผู้ฝึกยุทธ์อยู่จริง ๆ เขาก็ต้องปรากฏตัวออกมาเพราะทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้แน่!”
“ผู้กองฉลาดที่สุดเลยครับ หวังว่าพวกเราคงไม่คว้าน้ำเหลวกันอีกนะครับ”
หวังเหาพลันออกคำสั่งด้วยเสียงกระซิบว่า “พวกเราเลิกคุยกันได้แล้ว!”
หลังจากนั้นบรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบ…
หยกปราณบริสุทธิ์ถูกวางทิ้งไว้ในพื้นที่โล่งกลางป่า โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งห้านายคอยสังเกตการณ์จากรอบทิศทาง
ซูเย่นั่งยอง ๆ อยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกมาไม่ไกล และกำลังส่งยิ้มให้กลุ่มเจ้าหน้าที่สืบสวนโดยไม่มีใครเห็น
“ที่แท้นี่ก็เป็นแผนล่อให้เราปรากฏตัวออกมาสินะ” ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ชิ้นหยกบนพื้นดิน
“เป็นหยกที่หายากของจริงเลยนะเนี่ย”
“ของดีแบบนี้ ขอยืมมาใช้งานหน่อยจะดีไหมนะ?” ซูเย่พึมพำกับตัวเอง เขาเผยยิ้มร้ายก่อนจะเด็ดใบไม้ข้างตัวมากำหนึ่ง
แล้วมือขวาของเขาก็เกิดแสงเป็นประกายวูบหนึ่ง
จากนั้นในพริบตาใบไม้ในมือชายหนุ่มกลายสภาพเป็นกระสุน มันพุ่งเข้าใส่ต้นไม้ทั้งห้าต้นที่กลุ่มเจ้าหน้าที่ใช้กำบังกาย
“เปรี๊ยะ!”
เสียงกิ่งไม้หัก ต้นไม้สั่นไหว
“มาแล้ว!”
“มาแล้วรึ”
เจ้าหน้าที่ทั้งห้าคนเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน
ในเวลาเดียวกันนั้น
“วูบ…”
ก็มีสายลมเย็นยะเยือก ๆ โชยมาปะทะผิวกาย ในตอนนี้แหล่งกำเนิดแสงสว่างเดียวภายในป่าขณะนี้มาจากชิ้นหยกปราณบริสุทธิ์บนพื้นดิน
แต่ในวินาทีต่อมา
แสงสว่างจากชิ้นหยกก็ดับวูบไป กลุ่มเจ้าหน้าที่สืบสวนจึงตกอยู่ในความมืด
“แย่แล้ว!”
หวังเหาผู้เป็นหัวหน้าทีมอุทานออกมาด้วยความตกใจ รีบวิ่งออกไปยังตำแหน่งที่วางชิ้นหยกพร้อมกับลูกน้องทุกคน
ว่างเปล่า!
ชิ้นหยกหายไปแล้ว!
ทั้งห้าคนพลันหยุดชะงักอยู่กลางที่โล่ง พวกเขางุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น?”
จูอวี่ถามออกมาด้วยความร้อนใจ
“เมื่อกี้เหมือนมีลมพัดมาใช่ไหม”
เสี่ยวจุนซึ่งเคยตามแกะรอยซูเย่ไปจนถึงร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด กวาดสายตามองรอบตัวด้วยความพิศวง
“แต่ทำไมเราถึงตรวจจับพลังลมปราณไม่เจอเลยล่ะ!”
หวังเหาใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียดน่ากลัว ดวงตาเบิกโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
ไม่ใช่เพียงเขาคนเดียวเท่านั้น จูอวี่ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วเช่นกัน
ในเขตมหาวิทยาลัยแห่งนี้ พวกเขามั่นใจว่าไม่มีใครรู้เห็นการแฝงตัวของตนเองอยู่แน่นอน แต่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
ชิ้นหยกถูกขโมยไปโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว!
อีกฝ่ายสามารถขโมยไปได้อย่างไร?
อีกฝ่ายลงมือตอนไหน?
พวกเขาไม่รู้เลย
“แข็งแกร่งมาก!”
หวังเหาสูดหายใจลึกและพูดว่า “เปลี่ยนไปใช้แผนสอง!”
ทันใดนั้น ทุกสายตาก็หันขวับไปมองจูอวี่เป็นเชิงให้สัญญาณเริ่มแผนสอง จูอวี่พยักหน้าก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นไปกดจุดลมปราณที่อยู่สองข้างจมูก จากนั้นเธอก็เริ่มสูดดมกลิ่นในอากาศอย่างรวดเร็ว
“เจอแล้ว!”
หญิงสาวทำจมูกสูดดมฟุดฟิด และวิ่งไล่ตามกลิ่นที่ลอยอยู่ในอากาศไปทันที
“อยู่ทางนี้!”
หวังเหาและลูกน้องคนอื่น ๆ รีบวิ่งตามไปโดยเร็ว
ในเวลาเดียวกันนั้น ทุกคนก็อดรู้สึกโล่งใจไม่ได้
โชคดีที่ก่อนหน้านี้หญิงสาวได้สูดดมกลิ่นของหยกปราณบริสุทธิ์เอาไว้ล่วงหน้า มิเช่นนั้นแล้วพวกเขาก็ไม่รู้เลยว่าจะสามารถตามหามันกลับคืนมาได้อย่างไร
ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิด
ร่างบางวิ่งตัดพื้นป่าตรงไปยังทิศทางหนึ่ง
ในไม่ช้าเธอก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำสาธารณะของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง
กลิ่นของชิ้นหยกลอยออกมาจากด้านในห้องน้ำแห่งนี้
“เป็นอะไรไป?”
หวังเหาผู้วิ่งตามมาด้านหลังหยุดชะงัก และถามออกมาทันที
“นี่มันใช่เวลาแวะมาเข้าห้องน้ำไหมเนี่ย”
เสี่ยวจุนบ่น
“หยกของพวกเราอยู่ในนั้น”
จูอวี่หันกลับมามองหน้าเสี่ยวจุนตาขวาง
เธอมองตรงไปยังส่วนที่เป็นห้องน้ำชายเป็นคำตอบ
“แน่ใจนะ?”
หวังเหาถามด้วยความหวาดระแวง
“แน่ใจค่ะ”
“งั้นพวกเราเข้าไป!”
หวังเหายกมือส่งสัญญาณบอกเสี่ยวจุน แล้วพวกเขาก็บุกเข้าไปในส่วนที่เป็นห้องน้ำชายอย่างไม่รอช้า
จูอวี่ และเจ้าหน้าที่อีกสองคนยืนรออยู่ด้านนอก หากได้รับสัญญาณเมื่อไหร่ ทุกคนก็พร้อมที่จะบุกเข้าไปเป็นกำลังเสริมให้หัวหน้าทีมได้ตลอดเวลา หรือถ้ามีผู้ร้ายหลบหนีออกมา พวกเขาก็พร้อมที่จะสกัดจับได้โดยทันที
แต่เมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำชายแห่งนั้น เจ้าหน้าที่สืบสวนทั้งสองนายกลับพบว่ามีกระดาษข้อความถูกแปะทิ้งเอาไว้บนกระจกเหนืออ่างล้างมือ
“หืม?”
หวังเหารีบเดินเข้าไปตรวจสอบ
“หมวกใบนั้นแค่ขอยืมชั่วคราว ไม่ได้มีเจตนาคิดร้ายต่อประเทศชาติ กรุณาอย่ามารบกวนกันอีก ขอบพระคุณ”
อย่ามารบกวนอะไรกันเล่า!
แกขโมยหยกของฉันไปนะเว้ย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]