เดชราชาพิโรธ นิยาย บท 49

ในเวลานี้ หมอที่ใส่แว่นตาพูดด้วยเสียงที่เย้ยหยัน

“คุณผู้หญิง ผมต้องบอกคุณให้เข้าใจชัดเจน ถ้าเขาทำให้เสียเวลาในการรักษาคนไข้ หากเกิดอะไรขึ้น โรงพยาบาลของเราจะไม่รับผิดชอบ”

เขาเป็นหมอมาหลายปีแล้ว ยังมีโรคร้ายแรงอะไรที่เขาไม่เคยเห็น

มงดูแล้วเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไม่เข้าใจทักษะทางการแพทย์ การจับชีพจรเป็นวิธีปฏิบัติของแพทย์แผนจีน และการแพทย์แผนจีนจะรักษาโรคเรื้อรัง

อย่างไรก็ตาม จู่ๆเด็กผู้หญิงก็เป็นลมหมดสติ ใบหน้าซีดเซียว เม้มริมฝีปากไว้แน่น สัญญาณทั้งหมดบ่งบอกว่าไม่ได้เป็นโรคเรื้อรังแต่อย่างใด

เขาวิเคราะห์ว่า เด็กคนนี้น่าจะมีโรคประจำตัวบางอย่างที่เป็นมาแต่กำเนิด ดังนั้น ชายหนุ่มตรงหน้าเขา ถ้าพูดให้มันเบาคือเสียเวลาในการรักษาอาการเจ็บป่วย ถ้าพูดให้มันหนักคือเหมือนกำลังฆ่าคน!

เซียวหยางไม่สนใจคำพูดของแพทย์เลย ยิ่งไม่แคร์กับคำพูดที่ประชดและสายตาที่เยาะเย้ยเหล่านั้น

ก่อนหน้านี้ที่อยู่บนรถ เซียวหยางได้ยินเสิ่นอ้าวจวินพูดว่า พ่อของเด็กเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ในเวลานั้นเซียวหยางได้คาดเดาไว้แล้วว่า หลี่เมิ่งนีอาจถูกถ่ายทอดโรคนี้จากพันธุกรรมด้วย

หลังจากตรวจชีพจรอีกครั้ง ในขณะนี้เซียวหยางได้ยืนยันแล้ว โรคที่หลี่เมิ่งนีเผชิญคือโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด!

โรคนี้ แม้ในวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน เป็นเรื่องยากมากและความเป็นไปได้ในการรักษาก็แทบจะเป็นศูนย์

อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของเทพมังกรที่มีต่ออวัยวะภายในร่างกายมนุษย์และเส้นลมปราณ มีคำแนะนำโดยละเอียด

โรคชนิดนี้ เซียวหยางสามารถรักษาได้อย่างแน่นอน

หลังจากยืนยันการป่วยแล้ว เซียวหยางก็ถูมือสองสามครั้ง และหลังจากถูให้ร้อนแล้วก็วางมือบนหน้าอกซ้ายของหลี่เมิ่งนี และมืออีกข้างหนึ่งก็ไม่ได้อยู่ว่าง แตะที่ชีพจรฝังเข็มสี่จุดบนร่างกายเธอ

จุดเทียนเหมิน จุดหย่งเฉียน จุดเหรินจง จุดยิ่นถาง!

แล้วกดมือที่อยู่บริเวณหน้าอกอย่างแรง!

ไอ ไอ!

หลี่เมิ่งนีราวกับว่าคนจมน้ำและได้จับฟางเส้นสุดท้าย และไออย่างแรงสองครั้ง และจับแขนของเซียวหยางด้วยมือทั้งสองข้างโดยไม่รู้ตัว

“โอ้พระเจ้า มีปฏิกิริยาแล้ว!”

“รีบดูสิ เด็กลืมตาแล้ว นี่มัน! เป็นไปได้ยังไงกัน?”

ผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้นำโรงเรียน หรือแพทย์ฉุกเฉิน ต่างก็เบิกตากว้างมองดูฉากนี้ด้วยความเหลือเชื่อ

เมื่อกี้ตอนที่เด็กอยู่ในอาการโคม่า พวกเขาเรียกยังไงก็ไม่ฟื้น และพวกเขาบีบจุดชีพจรใต้จมูกแต่ก็ไม่ได้ผลอะไรเลย

เจ้าหมอนี่ทำได้อย่างไร เพียงกดบนร่างกายของหลี่เมิ่งนีสองครั้ง แล้วตบที่หน้าอกเบาๆ คนก็ฟื้นขึ้น?

หมอที่เย้ยหยันเซียวหยางเมื่อกี้ ในตอนนี้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที และแอบพูดในใจ ผู้ชายคนนี้แกล้งโง่เพื่อให้ผู้คนติดกับดัก แต่จริงๆแล้วเป็นแพทย์แผนจีนที่มีประสบการณ์?

ทุกคนคาดเดาอยู่พักหนึ่ง และทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อเซียวหยางก็เปลี่ยนไป ท้ายที่สุดทุกคนหวังว่าเด็กจะไม่มีปัญหาอะไร

ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ขอเพียงเด็กฟื้นขึ้นมาทุกอย่างก็ราบรื่นสมบูรณ์แบบ

หลี่เมิ่งนีลืมตาช้าๆ เจ้าตัวเล็กขนตายาวมาก กะพริบตาแวววับ รูม่านตาสีดำบริสุทธิ์ ที่อยู่ใต้ขนตายิ่งเปล่งประกายสดใส