บนท้องถนนในหัวช่วงหัวค่ำรถลาค่อนข้างแออัด แม้จะเป็นจังหวัดที่ไม่ใช่เมืองหลวงแต่ก็เป็นสถานที่สนใจของเหล่านักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ อีก 10 ถึงเวลาการนัดหมายกับญาติฝั่งกานต์กนก รถยนต์คันหรูไม่สามารถขยับไปไหนได้ในเวลาเช่นนี้
ครืด
"อะไรอีก"
"พ่อเลี้ยงอยู่ไหนแล้ว" ปลายสายคือกานต์กนก
"อยู่บนรถ" คำตอบของปรเมศฟังดูเหมือนการกวนประสาทแต่ทว่าชายหนุ่มก็พูดความจริง
"กานต์หมายถึง พ่อเลี้ยงขับรถมาถึงไหน ทำไมยังไม่ถึงสักที" เธอตะเบงเสียงดังขึ้นกว่าเริ่มด้วยความโมโหที่ถูกพ่อเลี้ยงตอบมาแบบนั้น ในตอนนี้ญาติผู้หญิงแม้กระทั่งแขกคนสำคัญของพ่อกับแม่ก็มาถึงและนั่งรอในร้าน แต่สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายกลับยังไม่โผล่หัวมา
"อีก 20 นาทีคงถึง" ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมองและคาดคะเนว่าคงใช้เวลาราวๆนี้
"20 นาที!! พ่อเลี้ยงจะบ้าเหรอ ปล่อยให้คุณพ่อคุณแม่รอได้ยังไง" ไม่โอเคเมื่อเป็นฝ่ายต้องรอ ใช่ว่ามันจะเป็นครั้งแรกแต่มันเป็นแบบนี้หลายครั้งมาก เมื่อปรเมศมาช้ากว่าเวลาที่นัดไว้ พอบ่อยเข้าก็ถูกตำหนิจากคนเป็นพ่อบ่อยครั้งและแก้ตัวแทนปรเมศจนไม่รู้จะใช้เหตุผลมาแก้ตัวแทนในครั้งต่อๆไป
"ฉันไปช้าแค่ 10 นาที ไม่ใช่เป็นชั่วโมง จะกินข้าวก็กินกันไปก่อนได้เลย" น้ำเสียงไม่แสแยและไม่ได้อยากมาเลยสักนิด แต่ทว่าอีกคนมัดมือชกและอยากมาดูนักธุรกิจคนสำคัญของพ่อตาแม่ยายในนามก็เท่านั้น
"บ่อยมากไปแล้วนะพ่อเลี้ยง"
"ถ้าไม่สบายใจ ฉันเลี้ยวกลับไร่ตอนนี้ยังทัน"
"พะพ่อเลี้ยงอย่าเพิ่ง"
"อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่" จากที่เป็นฝ่ายใจร้อนก็ต้องประโคมอารมณ์ตัวเองให้เย็นลงเพราะต่อให้โวยวายพ่อเลี้ยงก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด
"กานต์จะบอกคุณพ่อมาพ่อเลี้ยงเพิ่งคุยกับลูกค้าเสร็จแล้วกัน" เธอบอกแบบนั้นและให้ปรเมศรับทราบก่อนจะถูกตัดสายทั้งที่ยังพูดไม่จบ
ด้านกานต์กนกก็ถอนหายใจเข้าออกถี่ขึ้น แต่ถือว่ามีความอดทนกับพ่อเลี้ยงค่อนข้างสูงด้วยเหตุผลรักเพียงฝ่ายเดียวและยังหวังว่าความดีที่เคยทำและพยายามทำมาตลอดจะช่วยให้พ่อเลี้ยงเห็นใจและมีใจตอบกลับมาบ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กในปกครองพ่อเลี้ยงปรเมศ