บัวชมพูข้ามภพมาหาฝูซิ่นเล่อและกลับไปยังบ้านของตนได้โดยใช้สระบัวที่บ้านของเธอและฝูซิ่นเล่อเป็นสื่อ
ครั้งแรกที่บัวชมพูมาที่จวนสกุลฝู เป็นวันที่เธอกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานตามประเพณีของจีนโบราณในฐานะที่เป็นลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีน ทว่ากลับมีผู้หญิงท้องโตสามคนมาปรากฏตัวกลางงานแต่งของเธอ พร้อมป่าวประกาศว่าเจ้าบ่าวที่กำลังจะเข้าพิธีกับเธอนั้นคือพ่อของลูกในท้อง ทั้งยังมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอความสัมพันธ์ร้อนแรงอย่างชัดเจน แล้วใครจะไปทนอยู่ได้ บัวชมพูจึงไล่ฟาดเจ้าบ่าวเฮงซวยของเธอมาจนถึงสระบัวหน้าบ้าน จากนั้นจึงกระโดดถีบขาคู่ใส่เจ้าบ่าวสารเลวจนตกลงไปในสระบัวที่เต็มไปด้วยปลาแรด
แต่มันก็ยังไม่สาแก่ใจ!
บัวชมพูในชุดเจ้าสาวสีแดงเลือดนกกระโจนตามลงไปในสระบัว หวังกดหัวเจ้าบ่าวสารเลวให้สำลักน้ำไปซะ แต่เธอกลับหาผู้ชายคนนั้นไม่พบ และเมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำก็พบเข้ากับฝูซิ่นเล่อ
นั่นคือการเดินทางข้ามมิติครั้งแรกของบัวชมพู
หลังจากนั้นหญิงสาวก็วิ่งขึ้นวิ่งลงสระบัวหน้าบ้าน เพื่อไปกลับระหว่างบ้านของตนกับจวนสกุลฝู เธอเรียกมันว่าการ ‘วาร์ปไปวาร์ปกลับ’ ฝูซิ่นเล่อแทบไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด บัวชมพูเองก็งง ๆ กับคำพูดคำจาด้วยภาษาจีนยุคโบราณของชายหนุ่ม กว่าจะสื่อสารกันได้ก็แทบจะตีกันตายอยู่หลายรอบ
ทุกครั้งที่บัวชมพูวิ่งขึ้นวิ่งลงสระบัวเพื่อมาหาฝูซิ่นเล่อ หญิงสาวอดน้อยใจไม่ได้ว่าขนาดนางเอกทวิภพยังวิ่งเข้าวิ่งออกกระจกแบบสวย ๆ แต่ทำไมเธอจึงต้องขึ้นลงสระบัวให้ตัวเปียกแถมเลอะโคลนเหม็นหึ่งไปเสียทุกครั้ง
ทว่าการได้ตามกวนประสาทแม่ทัพหน้าดุผู้นั้น ก็นับว่าคุ้มค่าสำหรับวิ่งลุยโคลนละนะ
“ไม่ใส่ได้ไหมอะ หนักหัวจะแย่” บัวชมพูบ่นเมื่อสาวใช้ช่วยกันเกล้าผมพร้อมทั้งปักปิ่นและเครื่องประดับศีรษะไม่รู้กี่ชิ้นลงบนหัวของเธอ
“ใส่เถอะเจ้าค่ะ ท่านโหวไปเลือกซื้อมาให้แม่นางด้วยตัวเองเลยนะเจ้าคะ” สาวใช้ว่า
“อีตาแม่ทัพนั่นไปซื้อเองเลยเหรอ” บัวชมพูถลึงตามองเครื่องประดับบนหัวตัวเองในกระจกทองเหลือง
นึกภาพตามแล้วก็ขำผู้ชายตัวโต ๆ หน้าดุ ๆ อย่างฝูซิ่นเล่อไปเดินร้านขายเครื่องประดับสตรีแล้วเลือกซื้อของพวกนี้มาให้เธอ คนจะมองกันขนาดไหนนะ
จะว่าไปผู้ชายคนนี้ก็มีมุมน่ารักเหมือนกันแฮะ
“ใส่ก็ใส่” บัวชมพูอมยิ้มพลางนึกไปถึงใบหน้าของฝูซิ่นเล่อ
เขาอุตส่าห์ไปหาซื้อมาให้เธอด้วยตัวเอง แล้วจะไม่ใส่ได้อย่างไร
บรรดาสาวใช้ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่บัวชมพูยอมสวมเครื่องประดับที่ฝูซิ่นเล่อซื้อให้ เพราะพวกนางนึกภาพไม่ออกเลยว่า ท่านโหวที่ไม่เคยเอาอกเอาใจผู้ใดจะมีสภาพเช่นไร หากบัวชมพูปฏิเสธข้าวของที่ท่านโหวมอบให้
“หนักหัวเหมือนกันนะเนี่ย” บัวชมพูเอามือแตะ ๆ ปิ่นหยกด้ามหนึ่งเบา ๆ
“ระวังเจ้าค่ะ ปิ่นนั่นเป็นของหวังฮูหยิน มารดาของท่านโหวเชียวนะเจ้าคะ”
“หา!” บัวชมพูร้องอย่างตกใจ ที่ฝูซิ่นเล่อนำปิ่นปักผมของมารดามาให้เธอ
หากไม่ใช่เพราะอีตาแม่ทัพขี้เก๊กคอยว่าเธอว่าอัปลักษณ์อยู่ทุกวันละก็ เธอคงคิดว่าเขามีใจให้เธอเป็นแน่
หรือว่าเขาจะเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจกันนะ
ระหว่างที่บัวชมพูกำลังทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่นั้น สาวใช้คนหนึ่งก็เอ่ยเรียกเธอ ด้วยกลัวว่าฝูซิ่นเล่อที่กำลังรอจะพาบัวชมพูออกไปเที่ยวข้างนอกต้องรอนาน
บัวชมพูเดินออกมาพบฝูซิ่นเล่อในชุดผ้าแพรเนื้อดีสีชมพูกลีบบัว หญิงสาวส่งยิ้มกว้างให้แม่ทัพที่ยืนหน้าดุอยู่ที่หน้าจวน ดูท่าว่าคงจะเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว เพราะต้องรอเธอแต่งตัวนาน
“ขอบคุณสำหรับของบนหัวพวกนี้” บัวชมพูชี้ไปที่หัวของตัวเองก่อนประสานมือให้เขา “ขอบคุณเจ้าค่ะ”
“อืม”
“ข้าใส่แล้วสวยไหม”
“ก็ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง”
บัวชมพูกลอกตาไปมา คนเขาอุตส่าห์ใส่มาเอาใจทั้งที่หนักหัวจะแย่ จะเอ่ยปากชมสักนิดก็ไม่ได้
“ขึ้นไป” ฝูซิ่นเล่อสั่งเสียงเรียบ แทบไม่มองหน้าบัวชมพูด้วยซ้ำ
หญิงสาวย่นจมูก ทำปากขมุบขมิบด่าฝูซิ่นเล่อเป็นภาษาไทย ชายหนุ่มช่วยประคองหญิงสาวขึ้นรถม้า ก่อนตามขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยทำ จนบรรดาบ่าวไพร่ในจวนต่างมองหน้ากันอย่างงุนงง แต่ไหนแต่ไรมา ท่านโหวแทบไม่เคยเข้าไปนั่งในรถม้า ยิ่งเป็นรถม้าที่มีสตรีนั่งอยู่ด้วยยิ่งแล้วใหญ่ แต่ครั้งนี้กลับขึ้นรถม้าไปกับบัวชมพูโดยแทบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
ดูท่าว่าจวนสกุลฝูจะมีนายหญิงก็คราวนี้กระมัง
“อ้าว วันนี้ไม่ออกไปขี่ม้าโชว์สาวข้างนอกเหรอ” บัวชมพูถามอยากแปลกใจ
ก็ปกติทุกทีเขาต้องขี่ม้านี่นา
“โชว์สาว?” ฝูซิ่นเล่อทวนคำอย่างสงสัย
“ปกติท่านไม่เคยขึ้นมานั่งบนรถม้ากับข้า”
“ก็เคยเสียสิ”
“เอาก็เอา!” บัวชมพูรับคำ
“เอาอะไร” ฝูซิ่นเล่อถามอย่างไม่เข้าใจ
บัวชมพูถอนหายใจพร้อมกับตบหน้าผากตัวเอง ภาษาพูดของเธอ ฝูซิ่นเล่อไม่ค่อยเข้าใจ ในขณะที่ภาษาพูดของฝูซิ่นเล่อหลายคำก็ทำให้เธองุนงง ทุกวันนี้คุยกันรู้เรื่องได้อย่างไร เธอก็ยังไม่รู้เลย
“ว่าแต่ท่านโหวท่านแม่ทัพ”
“จะเรียกอะไรก็เรียกสักอย่าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ