Sign in Buddha’s palm 1 มิว่าสวรรค์หรือพิภพ ตัวตถาคตเหนือสรรพสิ่ง!
“ไม่คาดคิดเลยแฮะว่าเราจะกลายมาเป็นเณรกวาดลานที่วัดเส้าหลินแบบนี้”
ซูฉินลืมตาตื่น ยันกายลุกขึ้นอย่างว่องไว เดินผ่านประตูออกไปด้วยความรวดเร็ว
ซูฉินหาใช่คนที่นี่ไม่ เขามาจากโลก ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
ตามจริงแล้วซูฉินก็ไม่ใช่ลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินเสียด้วยซ้ำ ตอนที่เขาข้ามโลกมาแต่แรกนั้น เขากลายมาเป็นคุณชายสามแห่งตระกูลซู
ตระกูลซูถือเป็นตระกูลมั่งคั่งประจำถิ่น มีผู้เชี่ยวชาญอยู่มากมาย หัวหน้าตระกูลถึงกับมีพลังอยู่ที่ชั้น 6 นับเป็นผู้แข็งแกร่งในพื้นที่ร้อยลี้นี้
โชคไม่ดีเมื่อซูฉินอายุได้เพียงสิบขวบ ซึ่งก็คือไม่กี่วันก่อนหน้า ศัตรูตัวฉกาจของตระกูลซูเข้ามาทำร้ายหัวหน้าตระกูลด้วยน้ำมือของมัน
เพื่อรักษาตระกูลเอาไว้ ตระกูลซูจำต้องปลดศิษย์ทั้งหลายเป็นทางออกสุดท้าย และซูฉินก็โดนส่งตัวไปวัดเส้าหลินอย่างเงียบๆ
เพื่อป้องกันการปฏิเสธของทางวัด ตระกูลซูจึงไม่เปิดเผยสถานะของซูฉินแต่ส่งเขาไปในนามของเด็กกำพร้าแทน
วัดเส้าหลินเป็นสถานที่ที่มีเบื้องหลังยากจะหยั่ง แม้จะอยู่ในช่วงตกต่ำในเวลาหลายปีที่ผ่านมา แต่ศัตรูของตระกูลซูก็ไม่นับว่าเป็นตัวอะไรในสายตาเส้าหลิน
ตราบที่ซูฉินยังอยู่ในวัด เท่ากับว่าประกันความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน
ความจริงซูฉินเข้าสักการะวัดเส้าหลินเป็นที่เรียบร้อย เพียงแต่ไม่มีพรสวรรค์ในเต๋าวิชายุทธ์จึงได้เพียงแต่รับหน้าที่เป็นเณรกวาดลานสังกัดตำหนักลานจิปาถะ
ซูฉินเดินมาที่ประตู
ขณะนั้นมีสามเณรห่มชุดคลุมสีเทาหลายสิบคนยืนออกันอยู่ที่ด้านนอก ซูฉินเดินไปหาพื้นที่แถวๆ ด้านหลังสำหรับตัวเอง
“เอาล่ะ”
“ตั้งแต่ที่พวกเจ้าเข้าร่วมกับทางวัดเส้าหลิน จงอย่าได้สนใจอดีตที่ผ่านมา”
เป็นพระใบหน้ากว้าง หูใหญ่ พูดออกมา
“ถึงแม้ว่า ลานจิปาถะ จะไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนกับ ลานธรรม และตำหนักยุทธ์สงฆ์ แต่มันก็ยังดีกว่าอยู่แบบเงียบเหงา เพียงทำตามหน้าที่ในทุกวันให้ดี ก็จะไม่มีใครมาวุ่นวายกับพวกเจ้า”
พระหน้ากว้างหูใหญ่หยุดพูดไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อยพูดต่ออีกครั้ง “เอ้า แยกย้ายแล้วไปทำหน้าที่ของตัวเองซะ”
กลุ่มเณรต่างกระจายตัวกันออกไปทีละคนๆ
ซูฉินถือไม้กวาดไปทางโถงศาลาการประชุมใหญ่
เขาเป็นเณรกวาดลาน แต่ที่วัดไม่ได้มีแค่ซูฉินเพียงคนเดียวเสียเมื่อไหร่
ในฐานะที่วัดเส้าหลินเป็นพรรคแข็งแกร่งระดับโลก มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ไพศาล หากให้ซูฉินทำความสะอาดคนเดียวก็คงทำไม่หมดแม้ใช้เวลาร่วมปี
สถานที่ที่ซูฉินรับหน้าที่ทำความสะอาดวันนี้อยู่ใกล้กับโถงใหญ่อันเป็นศาลาการประชุม
ในไม่ช้าเขาก็มาถึงห้องโถงใหญ่ และมองเข้าไปในโถงอันวิจิตร
โถงใหญ่ถือเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของวัดเส้าหลิน ทุกๆ มุมสร้างออกมาอย่างประณีตงดงาม
ซูฉินยืนอยู่หน้าห้องโถง มองเข้าไปด้านในก็จะเห็นพระพุทธรูปทองคำประดิษฐานอยู่ภายในแม้จะมองได้ไม่ค่อยชัดเจนนักก็ตาม
ทันใดนั้นก็มีเสียงราวกับเครื่องจักรดังก้องอยู่ในหูของซูฉิน
[ระบบกำลังเริ่มทำงาน…]
[เปิดใช้งานสำเร็จ วันนี้โฮสต์สามารถลงชื่อเข้าใช้ได้…]
….
“ระบบ?”
“ลงชื่อเข้าใช้งาน?”
ม่านตาของซูฉินหดตัวลง
ความคิดในหัวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวถามออกไปอย่างไม่แน่ใจว่า “ฉันต้องลงชื่อเข้าใช้ที่นี่หรอ”
[ได้ทุกที่บนโลก ตราบที่จุดนั้นมีเต๋าสะสมทิ้งเอาไว้ โฮสต์ก็สามารถลงชื่อเข้าใช้ได้]
[หมายเหตุ: คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้วันละครั้งเท่านั้น]
[ยิ่งความหนาแน่นสะสมมากเท่าไหร่ ของที่ได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้ก็ยิ่งมากเท่านั้น]
[บางสถานที่สามารถลงชื่อซ้ำได้หลายครั้ง]
เสียงเครื่องจักรกลไม่มีโทนสูงต่ำดังขึ้นช้าๆ ในหูของซูฉิน
“แหล่งสะสมเต๋า?”
ซูฉินพึมพำกับตนเอง
แน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมายที่ระบบกำลังบอก
ไม่ใช่ทุกที่ที่มีสิทธิ์ลงชื่อเข้าใช้
อย่างเช่นซูฉินที่อาศัยในตระกูลซูมานานถึงสิบปี แต่ก็ไม่พบแหล่งสะสมเต๋าตามที่ระบบได้กล่าวเอาไว้ แล้วระบบก็ไม่ได้ถูกกระตุ้นด้วยซ้ำ
แต่ที่โถงประชุมใหญ่นี้…
มันถึงระดับที่เป็นที่ประดิษฐานของพุทธรูปทองคำของวัดเส้าหลิน เป็นแหล่งสะสมของเต๋า ตรงตามเงื่อนไขของระบบ
ในหัวเขามีความคิดสับสนวุ่นวายเต็มไปหมด แต่สีหน้ายังแสดงออกด้วยความสุข
เดินทีซูฉินคิดว่าเขาคงตายไปอย่างเหงาหงอยในคราบของพระกวาดลาน
สุดท้ายแล้วเส้าหลินก็ไม่ใช่สถานที่ที่ใครอยากจะมาก็มา จะไปก็ไป
ซูฉินสักการะวัดเส้าหลินในฐานะที่เป็นเด็กกำพร้า หมายความว่าเป็นการถวายกายใจแด่วัด การจะกลับไปเป็นฆารวาสนั้น อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้รับความยินยอมจากหัวหน้าตำหนักสักแห่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]