สรุปเนื้อหา ตอนที่ 185 ทรงพลังเพียงใด? – เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] โดย Internet
บท ตอนที่ 185 ทรงพลังเพียงใด? ของ เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
Sign in Buddha’s palm 185 ทรงพลังเพียงใด?
พระราชวังถัง
ภายในโถงชีวิตนิรันดร์
จักรพรรดิถังฟังรายงานจากหลิวกงกง และหัวใจก็เต้นรัวอยู่ตลอดเวลา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่หลิวกงกงเล่าว่ายามที่จักรพรรดิหมิงกําลังจะลงมือ ร่างมายาของซูฉินก็เดินออกมาจากเหรียญตราในฉับพลัน มันน่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“พี่สาม พี่สามทรงพลังเพียงใดกัน…”
หลังจากนั้นไม่นาน จักรพรรดิถังก็ถอนหายใจเบาๆ พึมพําอยู่กับตนเอง
หากพูดถึงเรื่องที่ซูฉินสังหารราชครูอาณาจักรเหมิ่งหยวน และกวาดล้างกองทัพทั้งห้าล้านนายด้วยความคิดเดียวก็ยังพอเข้าใจได้
สุดท้ายแล้ว ตั้งแต่โบราณมามีบันทึกมากมายเกี่ยวกับตํานานยุทธที่หลงเหลือเอาไว้ว่าเป็นตัวตนที่มิเกรงกลัวกองทัพ ตราบใดที่มีตํานานยุทธอยู่ ไม่ว่ากองทัพจะมีมากเพียงใด ย่อมต้องถูกทําลายลงในท้ายที่สุด
แต่ตอนนี้ซูฉินพํานักอยู่ภายในวัง กลับสามารถใช้เพียงความคิดเดียวจัดการอาณาจักรทั้งหกที่อยู่ไกลกว่าหมื่นลี้ให้ยอมจํานน สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“พระมาตุลานั้น ท่าน… ”
หลิวกงกงกลืนน้ำลายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เกรงว่าในใต้หล้านี้ ท่านคงไร้เทียมทานแล้ว”
“ไร้เทียมทาน”
จักรพรรดิถังเงียบ
ไร้เทียมทานในใต้หล้า?
ตั้งแต่ยุคโบราณมาจนถึงปัจจุบัน ก็ไม่มีอรหันต์หรือตํานานยุทธใดที่เทียบได้กับซูฉิน
“ไม่เพียงเท่านั้น”
“พี่สามลงมือไปแล้ว ทั้งหกอาณาจักรก็ไม่กล้าเล่นตุกติกอีกต่อไป และเมื่อยอมจํานน อาณาจักรถังของเราก็จะครองใต้หล้า”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจักรพรรดิถัง แสดงถึงความตื่นเต้น
“ยินดีด้วยฝ่าบาท”
หลิวกงกงคุกเข่าลงกับพื้น ก้มคารวะในทันที
“ไม่ต้องแสดงความยินดีกับข้าหรอก”
“การรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งนั้น ข้าเข้าไปข้องเกี่ยวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าไม่มีพี่สาม ต่อให้อีกเป็นร้อยปีข้าก็คงทําไม่สําเร็จ”
จักรพรรดิถังส่ายศีรษะพร้อมทั้งกล่าวคํา
ถ้าไม่ใช่เพราะพลังอันแข็งแกร่งของซูฉิน นับประสาอะไรกับหกอาณาจักร แม้แต่อาณาจักรเล็กอาณาจักรน้อยก็คงไม่ยอมจํานน
ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่ง
เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกจากอาณาจักรถัง ทั่วทั้งทวีปก็สั่นสะเทือน
หลายร้อยปีมาแล้วที่อาณาจักรต่างๆ ต่างแบ่งแยกดินแดนกัน เผชิญหน้ากัน ไม่รู้ว่ามีประชาชนมากมายเท่าไหร่ที่ต้องทนทุกข์ เมื่อวันนี้มาถึง ก็นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี
อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดสงครามอีกครั้งเมื่อใด จะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารหรือไม่ ฯลฯ
เมื่อใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งเช่นนี้แล้ว จะไม่มีสิ่งกั้นขวางในแต่ละอาณาจักรอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยน เจรจาค้าขาย ทําให้เกิดผลกระทบครั้งใหญ่ต่อการพัฒนาทั่วทั้งทวีป
เมื่อเทียบกับเหล่าประชาชนที่ดีอกดีใจ ราชวงศ์ดั้งเดิมของทั้งหกอาณาจักรกลับไม่เหลือความรู้สึกอันแสนสุขอีกต่อไป
การยอมจํานนของอาณาจักรทั้งหกนั้นเทียบเท่ากับการละทิ้งสถานะราชวงศ์ นับแต่นี้ไปจะไม่มีราชวงศ์อื่นใดแล้วนอกเสียจากราชวงศ์หลี่แห่งต้าถัง
แม้ว่าจะมีทรัพย์สมบัติในอดีตของแต่ละราชวงศ์ที่ทําให้พวกเขาอยู่อย่างสุขสบาย แต่การสูญเสียสถานะราชวงศ์ไปนั้น สมาชิกราชวงศ์บางคนไม่อาจยอมรับได้
“ฝ่าบาทยอมจํานน? แถมยังเป็นการยอมจํานนทั่วทั้งอาณาจักร ด้วยความอัปยศอดสูนี้ จะไม่ดีกว่าหรือที่จะละทิ้งดินแดนแล้วออกไปจากถิ่นฐานเดิม”
“ใช่ ถ้าเราออกนอกดินแดนไป อย่างน้อยเราก็ยังสถาปนาอาณาจักรขึ้นมาใหม่และรักษาสถานะราชวงศ์เอาไว้ได้แต่การยอมจํานนทั้งอาณาจักรนั้น เทียบเท่าการมอบชีวิตความเป็นความตายของเราให้กับอาณาจักรถัง”
“ไม่ได้ ข้าจะต้องรวบรวมคน ขัดขืนราชโองการ ทูลขอให้นําหนังสือยอมจํานนกลับคืนมา”
องค์ชายมากมายหลายคนพูดคุยกันอย่างไม่พอใจกับการตัดสินใจยอมจํานนครั้งนี้
ในมุมมองของพวกเขา แม้ว่าพวกเขายอมจํานนจริงๆ แต่อาณาจักรถังก็ต้องให้เงื่อนไขที่สมน้ำสมเนื้อตอบแทนที่จะเป็นการยอมจํานนตรงๆ เช่นนี้
นี่มันคืออะไรกัน?
เหตุผลที่ซูฉินช่วยจักรพรรดิถังดําเนินการปราบอาณาจักรต่างๆ เป็นเพราะปราณฉีกําลังฟื้นคืน โลกจะเข้าสู่สิ่งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่อาณาจักรถังสามารถขจัดอุปสรรคและครองทวีปได้ สําหรับซูฉินเอง นั่นมันก็ช่วยแก้ไขปัญหาบางอย่างได้
ไม่เช่นนั้นหากรอจนปราณฉีฟื้นคืนเต็มที่ ตํานานยุทธผู้ทรงอํานาจก็จะกําเนิดขึ้นทีละคนสองคน สิ่งเหล่านั้นย่อมจะมอบความมั่นใจให้กับทั้งหกอาณาจักร ทําให้พวกเขาอาจจะคิดขึ้นมาว่าควรร่วมมือจัดการกับอาณาจักรถังอย่างไรดี
ถ้าอาณาจักรถังรับมือได้ ก็คงจะดี แต่ถ้ารับมือไม่ได้เล่า?
ซูฉินจะต้องลงมืออีกครั้งหรือไม่?
เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซูฉินจึงคิดมาแล้วว่าเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว จัดการอาณาจักรต่างๆ ให้หมด ดีกว่าต้องใช้ความพยายามมากมายหลายครั้งในอนาคต
“ พี่สาม ท่านทรงพลังเพียงใดกัน…” ซูเยว่หยุนซึ่งอยู่ด้านข้างซูฉินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
คําที่กล่าวออกมา
ทําให้ซูเฉิงฮ่าวและซูเฉิงยู่เงี่ยหูฟังอย่างระมัดระวัง
ที่จริงไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น ผู้คนทั่วโลกต่างอยากรู้ว่าซูฉินแข็งแกร่งแค่ไหน
ครั้งแรก ใช้นิ้วเดียวสังหารราชครูแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนซึ่งเป็นถึงตํานานยุทธ และเผาทําลายกองทัพกว่าห้าล้านนาย ครั้งล่าสุดก็ปราบหกอาณาจักรจากระยะทางกว่าหมื่นลี้ในคราวเดียว
ซูฉินทรงพลังเพียงใดกัน?
“ข้าเคยอ่านพบในหนังสือโบราณที่เก็บรวบรวมไว้ในอาณาจักรถัง ในนั้นมีบันทึกเกี่ยวกับตํานานยุทธด้วย”
ซูเยว่หยุนกระซิบคํา “ตํานานยุทธเป็นตัวตนที่ไม่กริ่งเกรงกองทัพ เพียงตัวคนเดียวก็สู้กับกองทัพนับล้านได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งวันในการสังหารกองทัพกว่าห้าล้านนายเหมือนพี่สาม”
“แต่พี่สามจัดการเพียงครู่เดียวเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างตํานานยุทธด้วย ไม่เหมือนกับขอบเขตวิทยายุทธทั้งเก้าระดับชั้นที่ชีวิตและความตายนั้นอาจถูกตัดสินได้ด้วยกลอุบายสักอย่างหนึ่งได้”
“ตํานานยุทธเข้าถึงพลังฟ้าดิน แม้ว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ การเอาชนะกันนั้นง่าย แต่การสังหารอีกฝ่ายกลับยากเย็นนัก”
“ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลามากโขอยู่ในการทําให้พลังฟ้าดินหมดลงไปอย่างช้าๆ ถึงจะเป็นไปได้…”
ยิ่งซูเยว่หยุนพูดออกมามากเท่าไหร่ นางยิ่งตกใจมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งรู้สึกว่าซูฉินนั้นยากจะหยั่งถึง
ซูฉินมองขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้าง และกล่าวคําเบาๆ “ข้าก็อยากจะรู้เช่นกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]