Sign in Buddha’s palm 188 สั่นไหว
ณ เมืองฉางอัน
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินตะลึงงัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ท่ามกลางเมฆครึ้ม มีสายฟ้าสาดกระจายเปรี้ยงปร้างอยู่ทั่วทุกแห่งหน แม้จะเป็นตํานานยุทธ ถ้าเข้าไปอยู่ภายในนั้นก็ต้องรีบหลบหนี ไม่เช่นนั้น อาจไม่เหลือแม้แต่กระดูก และตัวชายในชุดคลุมสีน้ําเงินก็ไม่กล้าแม้แต่จะส่งจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าใกล้กลุ่มเมฆเหล่านั้น เพราะกลัวว่าจะถูกสายฟ้าพวกนั้นทําลายจิตวิญญาณเอาได้ แต่ขณะนี้เขากลับเห็นสิ่งที่ตนไม่คิดฝัน มีใครบางคนเข้าไปในกลุ่มเมฆมืดครึ้มนั้น เพิกเฉยต่อสายฟ้าฟาดและยังตั้งหน้าตั้งตาออกหมัดมวยอยู่แบบนั้น
หากข่าวนี้ไปถึงหูของเหล่าจอมยุทธในต่างดินแดน จะต้องทําให้เหล่าตํานานยุทธพวกนั้นตกตะลึงอย่างแน่นอน
“ตาฝาด?”
ชายชุดคลุมน้ําเงินมีความคิดผุดขึ้นมาในใจ แต่เขาก็ต้องปฏิเสธทิ้งไปในทันที
ถ้าเป็นคนธรรมดา อาจจะมีอาการเห็นภาพหลอนขึ้นมาได้บ้าง แต่เขาเป็นถึงตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่สาม มีทั้งพลังและจิตวิญญาณที่สมบูรณ์ เขาจะเห็นภาพหลอนได้เช่นไร?
“มีเทพเจ้าอยู่บนโลกนี้จริงๆ อย่างนั้นรึ?”
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินเปลี่ยนความคิดของตน แต่ความคิดมันนิ่งงันไปชั่วครู่ ในฐานะผู้ฝึกยุทธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขอบเขตตํานานยุทธ ย่อมต้องมีเจตจํานงแน่วแน่ และเชื่อมั่นในตนเองไม่ใช่สิ่งอื่นใดภายนอก แต่ฉากตรงหน้าทําให้เขาตื่นตกใจจริงๆ
“ไม่ถูกต้อง”
“ไม่ใช่เทพเจ้า!”
ในขณะนี้ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินดูเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง
เพราะเขาเห็นสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวหลั่งไหลเข้าไปในร่างเงาคลุมเครือนั้น
ร่างเงาคลุมเครือที่อยู่ในหมู่เมฆไร้ที่สิ้นสุดนั้นเปรียบเสมือนหลุมดําที่ดูดกลืนทุกสิ่ง ดูดซับสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่อยู่ตลอดเวลา
สายฟ้าซึ่งทําให้จอมยุทธในขอบเขตตํานานยุทธทั่วๆไปต่างหวาดกลัวและถอยหนี กลับประพฤติตัวอย่างดีต่อหน้าร่างเงานั้น ไม่มีความสับสนวุ่นวายใดๆเกิดขึ้น
“การขัดเกลาร่างกายด้วยสายฟ้า นี่คือการขัดเกลาร่างกายด้วยสายฟ้า…”
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินกลืนน้ําลาย หัวใจสั่นสะท้าน
“เป็นไปได้ไหมว่าท่านผู้นี้เป็นบรรพบุรุษสักคนหนึ่งของกายเทพเจ้าสายฟ้า?” ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินอดที่จะคิดไปทางนี้ไม่ได้
นิกายเทพเจ้าสายฟ้าเป็นหนึ่งในสํานักระดับสูงที่ต่างแดน ควบคุมทรัพยากรในการฝึกฝนบ่มเพาะจํานวนนับไม่ถ้วนในต่างดินแดนเอาไว้ ว่ากันว่าวิชาหลักของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าคือทูตอัสนีบาต เป็นการลงทัณฑ์จากฟากฟ้า น่าหวาดกลัวยิ่ง
เพียงแต่สิ่งที่ทําให้ชายชุดคลุมน้ําเงินงงงวยก็คือนิกายเทพเจ้าสายฟ้าสั่งสอนลูกศิษย์มาตลอดว่าต่อให้เป็นยอดฝีมือที่สามารถบังคับสายฟ้าได้ แต่ก็เป็นเพียงนายแห่งสายฟ้า ไม่ใช่การกลืนกินสายฟ้าเข้าไป
แต่อย่างไรก็ตาม ร่างเงาที่ยืนอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆที่ไม่มีที่ สิ้นสุดนี้ คล้ายคลึงกับนิกายเทพเจ้าสายฟ้าในต่างดินแดน มากที่สุด ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินทําได้เพียงเชื่อมโยงฝ่ายตรงข้ามเข้ากับคนที่ถูกส่งมาโดยนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเท่านั้น
“บ้าเอ้ย”
“พวกคนของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า ไม่ใช่ว่ามักจะดูถูกสํานักชะตาฟ้าอยู่เสมอไม่ใช่หรือ? ทําไมคราวนี้จึงตอบสนองกันฉับไวถึงเพียงนี้?”
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินรู้สึกเพียงแต่ความขมขื่นวนเวียนอยู่ในใจ
เดิมที่เขาคิดว่าตนเป็นคนแรกที่มาถึงทวีปนี้ เขาจะได้เตรียมการล่วงหน้าได้ หลังจากกระแสปราณฉีฟื้นคืน พื้นที่จุดตัดจะผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เป็นธรรมดาที่เขาจะได้รับประโยชน์ที่เพียงพอสําหรับตนเอง
ในเวลานั้น แม้ว่าพวกจอมยุทธเฒ่าจากสุดยอดพรรคในต่างดินแดนจะเริ่มเคลื่อนไหว ตัวเขาก็ยังถอนตัวออกไปได้ทัน
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า
ปฏิกิริยาของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะเร็วกว่าเขามาก ก่อนที่เขาจะก้าวเข้าสู่ทวีปนี้ อีกฝ่ายก็มีอาณาจักรถังอยู่ในกํามือแล้ว
“ตอนนี้ข้าควรจะทําเช่นไรดี?”
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินคิดไปมาภายในหัว
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสํานักยักษ์ใหญ่อย่างนิกายเทพเจ้าสายฟ้า แม้ว่าชายในชุดคลุมสีน้ําเงินจะไม่เต็มใจมากเท่าไหร่ เขาก็ทําได้แค่ต้องยอมแพ้
“รอผู้อาวุโสลงมาก่อน ข้าคงต้องใช้ไม้อ่อน อย่างไรก็เป็นตํานานยุทธจากต่างแดนเหมือนกัน แม้จะเป็นนิกายเทพเจ้าสายฟ้า ก็คงจะไว้หน้ากันบ้าง”
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินตัดสินใจ พร้อมกับรอคอยอย่างอดทนอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อทักทายกับผู้อาวุโสนิกายเทพเจ้าสายฟ้าในหมู่มวลเมฆหมอกไร้ที่สิ้นสุด
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินอยากจะหันหลังกลับออกไปเสียจริงๆ แต่ในยามนี้เขาบุกเข้ามาในเขตของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเสียแล้ว ถ้าหนีไปตรงๆ ย่อมเป็นการยั่วยุนิกายเทพเจ้าสายฟ้าอย่างโจ่งแจ้ง ถ้าเป็นเช่นนั้นคงจะดีกว่าถ้าอยู่อย่างเปิดเผยตรงนี้
นอกจากนี้ ชายในชุดคลุมยังสังเกตเห็นได้จางๆว่าตนถูกห้อมล้อมไปด้วยไอพลังที่แสนน่ากลัว แม้ต้องการจะจากไป แต่เขาก็ไม่สามารถจากไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]