Sign in Buddha’s palm 187 ตะลึงงัน
ตึงตึงตึง
ซูฉินปล่อยหมัดสายฟ้าเทพเจ้าอย่างต่อเนื่องเมื่อออกหมัดจนถึงระดับนภาของห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าพลังแห่งสายฟ้าก็ถูกชักนําออกมาทันที
“หม?”
ใบหน้าของซูฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาสัมผัสได้ถึงสายฟ้าที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั่วทั้งร่างรู้สึกชาวาบราวกับมีมดหลายร้อยล้านตัวกําลังรุมแทะร่างของเขาอยู่ตลอดเวลา
“ร่างกาย กําลังแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง”
ขณะที่จิตใจของซูฉินอยู่ในห้วงของความตกใจ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข
เขารู้สึกว่าร่างกายของตนเองที่หยุดพัฒนาไปแล้วค่อยๆ กลับมามีพัฒนาการอีกครั้ง ถึงแม้อาจจะช้าไปบ้างแต่ก็เป็นการพัฒนาที่มั่นคงอย่างหาที่เปรียบมิได้
หลังจากนั้นไม่นาน
–
ซูฉินก็ปรับตัวเข้ากับสายฟ้าที่อยู่ในร่างได้อย่างสมบูรณ์
“ช้า นี่มันช้าเกินไปแล้ว”
ซูฉินส่ายหัว ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หากร่างกายค่อยๆ พัฒนาเพิ่มขึ้นไปด้วยความเร็วระดับนี้ มันคงจะบรรลุถึงการแปรสภาพร่างกายครั้งที่ห้าได้แต่อย่าง น้อยก็เป็นเวลาสิบปีหลังจากนี้
สุดท้ายก็คือการขัดเกลาร่างกายด้วยวิธีนี้ จะกระทําได้ก็ต่อเมื่อสภาพอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนเฉกเช่นวันนี้
และสภาพอากาศเช่นนี้ ก็ใช่ว่าจะพบเจอได้สักหนึ่งครั้งในทุกๆสิบวันแบบนี้เสมอไปเสียเมื่อไหร่
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูฉินก็เงยหน้าขึ้นมองหมู่เมฆที่ปกคลุม ท้องฟ้า
“ด้วยร่างกายของข้า แม้ว่าจะไม่ได้ใช้วิธีการลดความรุน แรงของสายฟ้าจากห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าก็คงจะไม่มีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการที่ข้ามีทิพยอํานาจกายเนื้อกําเนิดใหม่ ก็ไม่จําเป็นต้องระวังสิ่งใดเลย”
ความคิดของซูฉินผันผวน
ที่แรกเขากะว่าจะปรับตัวสักสองสามชั่วโมงก่อน จากนั้นจึงค่อยคิดที่จะชักนําสายฟ้าเพิ่มเติม
แต่เมื่อได้ลอง ซูฉินก็รู้แล้วว่าขีดจํากัดของการชักนําสายฟ้ามาขัดเกลาร่างกายอยู่ตรงไหน
“สําหรับข้า การขัดเกลาร่างกายด้วยสายฟ้านั้นไม่มีปัญหาและไม่จําเป็นต้องปรับตัวเลย”
ซูฉินหยุดอยู่แค่นั้น หยุดวิชาห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าและมองขึ้นไปที่มวลหมู่เมฆที่ดูไร้ที่สิ้นสุด
“มุ่งตรงไปสู่หมู่เมฆแล้วทําตามขั้นตอนสุดท้ายของวิชารับสายฟ้ามาให้หมดเลย”
ฟม!
ร่างของซูฉินกลายเป็นประกายสายฟ้า พุ่งเข้าไปในหมู่มวลเมฆ
ครื้นนน!
ฟ้าร้องระเบิดก้อง สายฟ้าพุ่งเข้ามาราวกับมังกร ราวกับยักษ์วิ่งลดคดเคี้ยวอย่างบ้าคลั่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“นี่แหละของจริง”
ดวงตาของซูฉินผ่าวร้อน รู้สึกได้ถึงร่างกายที่พัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจึงชกหมัดสายฟ้าเทพเจ้าอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน
เมื่อซูฉินเข้าไปในหมู่เมฆ และหลอมร่างของตนด้วยสายฟ้า
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินเดินเข้าไปในเมืองฉางอันอย่างช้าๆ
“นี่คือเมืองหลวงของอาณาจักรถังอย่างนั้นสินะ?”
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินผู้นี้คือตํานานยุทธที่มาจากต่างดินแดน
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินเดินทางไปทั่วทวีปในช่วงที่ผ่านมาและได้รู้ว่าอาณาจักรถังคืออาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปนี้
ดังนั้นถ้าชายชุดคลุมน้ําเงินต้องการควบคุมทวีปไว้ใต้ฝ่าเท้าของเขา วิธีที่ง่ายที่สุดคือเข้าควบคุมอาณาจักรถัง
แม้ว่าเขาจะเป็นตํานานยุทธ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างกองกําลังที่สามารถกวาดล้างดินแดนใหญ่ๆ ได้ในเว ลาอันสั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ทําไมเขาไม่เข้ายึดอาณาจักรถัง โดยตรงไปเลยเล่า ทั้งง่ายและสะดวกกว่า
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินจึงมาที่เมืองฉางอันด้วยจุดประสงค์ดังที่กล่าวมา
ส่วนอาณาจักรถังจะยินยอมหรือไม่
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินไม่ได้เก็บมาใส่ใจแม้แต่น้อย
ในความเห็นของเขา ในฐานะที่เป็นตํานานยุทธจากต่างดินแดนที่อยู่ในจุดรุ่งโรจน์ของการฝึกยุทธ หากเขาต้องการ จะเข้าสู่อาณาจักรถังอีกฝ่ายจะมีความสามารถใดมาปฏิเสธ
“ว่ากันว่าอาณาจักรถังนั้นให้กําเนิดจอมยุทธขอบเขตตํานานยุทธ?”
ชายในชุดคลุมสีน้ําเงินครุ่นคิดอย่างไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก
ในช่วงเวลาที่เขาเดินทางไปทั่วแผ่นดินใหญ่ ถึงแม้เขาจะ ไม่ได้ทําอะไรเลย แต่ก็ต้องได้ยินข้อมูลบางอย่าง โดยเฉพาะ เรื่องของตํานานยุทธภายในเมืองฉางอัน
ท่ามกลางข่าวลือที่ได้ยินมา ตํานานยุทธแห่งเมืองฉาง อันนั้นสามารถพังทลายแผ่นดินได้เพียงโบกมือสะบัดเท้า และทรงพลังราวกับเทพเซียน
“พวกคนโง่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]