เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 194

สรุปบท ตอนที่ 194 เจ้าเมืองอิน: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

ตอน ตอนที่ 194 เจ้าเมืองอิน จาก เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 194 เจ้าเมืองอิน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

Sign in Buddha’s palm 194 เจ้าเมืองอิน

แคว้ก

แสงสว่างเจิดจ้าส่องประกายออกมาจากใบมีดที่แสนจะมืดมิด

ซูฉินยกมือขึ้นขวางทางมีดสีดําสนิทเล่มนี้เอาไว้

ทันใดนั้นบาดแผลเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นบนผิวหนัง นอกจากนี้ไอพลังที่ดูราวกับจะมาจากขุมนรกยังแผ่ขยายออกมาจากบาดแผลพยายามจะแพร่ไปทั่วร่างกายของซูฉิน

“อาศัยแค่คมมีดเพียงอย่างเดียวก็ทรงพลังขนาดนี้แล้ว เชียวหรือ?” ความคิดของซูฉินกระตุกวูบเริ่มผันผวนอยู่ภายในใจ

เมื่อครู่ที่ซูฉินตวัดดาบออกไป เขาไม่ได้ใช้พลังอะไรเลย อาศัยเพียงแค่ความคมของใบมีดเทพเจ้าปีศาจเท่านั้น

แต่ผลที่ได้กลับทําให้ซูฉินต้องตกตะลึง

ควรรู้ว่าร่างกายของซูฉินในตอนนี้ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ เทียบเท่ากับอาวุธวิเศษ แต่ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันมาก กระนั้นก็ยังไม่สามารถป้องกันพลังจากมีดเทพเจ้าปีศาจได้ คงจะพอจินตนาการถึงพลังของมันได้ไม่ยาก

แม้ว่าบาดแผลนี้จะแทบไม่มีผลใดต่อซูฉินเลย แต่เมื่อครู่ก็ ยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของมีดเทพเจ้าปีศาจเช่นกัน

“นอกจากความคมแล้ว ส่วนที่น่ากลัวที่สุดของ มีดวิเศษเล่มนี้ก็คือไอพลังที่ราวกับขุมนรกแผ่ออกมาอยู่ตลอดเวลานี้แหละ”

ซูฉินรู้สึกได้ถึงไอพลังนั้นกระจายออกมาจากบาดแผลขอ งตนเอง

ไอพลังที่ราวกับขุมนรกนี้ แพร่กระจายไปทั่วราวกับหนอ นชอนไช หากร่างกายของซูฉินไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะระงับไอพลังนี้ได้ล่ะก็ ผลที่ตามมาคงเป็นหายนะ

หรือพูดง่ายๆ ถ้าเจ้าเมืองเมฆาปีศาจถูกมีดเทพเจ้าปีศาจนี้เฉือนเข้าให้ แม้ว่ามันจะเป็นบาดแผลที่เล็กจนแทบมองไม่เห็นแต่ไอพลังจากขุมนรกก็จะแพร่กระจายออกอย่างบ้าคลั่ง ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เจ้าเมืองเมฆาปีศาจจะต้องตกตายลงไปอย่างทนทุกข์แน่นอน

ไอพลังจากขุมนรกนั้นแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ เหมือนหนอนชอนไชฝังร่างแฝงศพ แม้จะไม่มีพิษร้ายแรงแต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าพิษหลายต่อหลายเท่า

“ไม่เลว”

หลังจากที่ซูฉินวัดพลังของคมมีดเทพเจ้าปีศาจ เขาก็ใช้ความคิดถึงทิพยอํานาจกายเนื้อกําเนิดใหม่ให้ทํางาน บาดแผลก็ค่อยๆหายไปด้วยความเร็วระดับที่มองเห็นได้ด้ว ยตาเปล่า

คมมีดเทพเจ้าปีศาจนั้นน่ากลัว แต่ซูฉินมีไฟลับในกํามีอตั้งกี่ใบ? อาวุธเพียงชิ้นเดียวไม่ถึงกับทําให้ซูฉินรับมือไม่ ถูกหรอก

“อย่างไรก็ตาม คมมีดเทพเจ้าปีศาจเล่มนี้ทําให้ข้ารู้สึกว่ามันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ตาเห็น มันควรจะมีความสา มารถอื่นอีกใช่ไหม?”

ซูฉินแตะปลายคาง ใบหน้าครุ่นคิด

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูฉินก็โบกมีดเทพเจ้าปีศาจแล้วโยนมันกลับเข้าไปในพื้นที่ของระบบ

มีดเทพเจ้าปีศาจสามารถเสริมพลังในการต่อสู้ของซูฉินได้อย่างแน่นอน อย่างน้อยตอนที่ได้พบกับราชาปีศาจที่เหมือนกับเจ้าเมืองเมฆาปีศาจในอนาคตซูฉินก็แค่ตวัด มีดออกไปเท่านั้น แต่อย่างไรเสียไม่ว่าจะเป็นมีดเทพเจ้าปีศาจหรือคันธนูเก้าประกาย ของพวกนี้ล้วนเป็นของนอกกายทั้งนั้น

หากอยากจะแข็งแกร่งจริงๆ ก็มีแต่จะต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น

“ต่อไป ข้าจะมุ่งเน้นไปที่การเข้าสู่ระดับนภาชั้นที่แปด”

ซูฉินนั่งขัดสมาธิ พลังจากร่างสีทองของมารพุทธะค่อยๆโคจรอย่างช้าๆปราณปีศาจจํานวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

โดยไม่คํานึงถึงว่าเป็นร่างจริงหรือร่างจําแลง ทั้งคู่ต่างแบ่งบันระดับขั้นพลังกันถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทะลวงขั้นไปสู่ระดับนภาชั้นที่แปดได้อีกฝ่ายก็จะสามารถเข้าสู่ระดับนภาชั้นที่แปดไปได้ด้วยเป็นธรรมดา

ในขณะที่ซูฉันกําลังเริ่มฝึกฝนไปอย่างเชื่องช้า

โม่จีก็สาวเท้าเดินเข้ามาในโถงใหญ่ใจกลางเมืองอย่างรวด

“นายท่าน”

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในโถงใหญ่ประจําตัวเจ้าเมืองโม่จีก็กล่าวออกโดยไม่มีอาการตื่นตกใจใดแต่แสดงถึงความเคารพให้เห็นแทน

หลังจากนั้นไม่นาน

เสียงที่สงบนิ่งก็ดังขึ้นที่ข้างหูของโม่

“เข้ามาด้านใน

“เจ้าค่ะ” โม่จีได้ยินคํากล่าวนั้น ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยใดสาวเท้าเดินเข้าไปในส่วนลึกของโถงใหญ่ทันที

หลังจากนั้นไม่นาน

โม่จีก็เห็นซูฉินนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้โบราณ

เห็นซูฉินนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ แต่ต้นไม้โบราณต้นแกว่งไกวไปมาด้วยไอพลังของซูฉิน พลังปราณปีศาจพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าแม้แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจที่ไม่ใช่ ราชาปีศาจอย่างโม่จีก็ยังรับรู้ถึงความสยดสยองของไอพลังที่ซุฉินปลดปล่อยออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ มันสามารถปราบราชาปีศาจได้อย่างอยู่หมัด

“นายท่านน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ

โม่กล่าวด้วยเสียงหนักแน่น

“โอ้? เข้าใจแล้ว” ซูฉินพูดโดยที่ไม่ได้ลืมตามามอง

ราชาปีศาจระดับสูงนั้นเทียบเท่ากับตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่หกส่วนราชาปีศาจระดับสูงสุดนั่นคือตํานานยุทธในระดับนภาชั้นที่เจ็ด

ความแข็งแกร่งของเจ้าเมืองอินจีนั้นใกล้เคียงกับราชาปีศาจระดับสูงสุดและเหนือล้ํากว่าเจ้าเมืองเมฆาปีศาจ

แต่ต่อหน้าซูฉินมันก็เป็นได้เพียงตัวตลก

“นายท่าน”

โม่จียังคงกังวล

ในความคิดของนาง ซูฉินน่าจะมาจากเขตแดนอื่นๆและไม่รู้ถึงความน่ากลัวของเจ้าเมืองอินจี้ ถ้าเจ้าเมืองอินจี้ต้องการจะล่าสังหารจริงผู้ใดในเมืองเมฆาปีศาจจะกล้าหยุด เขา?

“นายท่าน”

“หรือเราควรออกจากเมืองเมฆาปีศาจกันดี”

โม่จีครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะกล่าวออกมา

แน่นอนว่าเจ้าเมืองอินจี่แข็งแกร่ง แต่ถ้าซูฉินและตัวนางออกจากเมืองเมฆาปีศาจไป เจ้าเมืองอินจี้ก็คงไร้หนทางจะติดตาม

จะเป็นไปได้หรือที่เจ้าเมืองอินจี้เต็มใจจะใช้เวลามากมายในการค้นหาซูฉิน?

“ออกไป?”

ซูฉินส่ายหัว

ในที่สุดเขาก็พบสถานที่สําหรับลงชื่อเข้าใช้ที่แสนจะยอดเยี่ยมจะให้เขาจากไปได้อย่างไร

“อย่าได้กังวล ถ้าเจ้าเมืองอินจี่กล้ามาจริงๆ ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ”

ซูฉินกล่าวอย่างสบายๆ ราวกับเจ้าเมืองอินจี้ที่แสนน่ากลัวในสายตาของโม่จีเป็นเพียงหมาแมวข้างถนนในสายตาเขาที่อยากจะจัดการเมื่อไรก็ทําได้ตามต้องการ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]