เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 195

Sign in Buddha’s palm 195 ควบแน่นอาณาเขตสําเร็จ

ยามที่ซูฉินลงมือที่เมืองเมฆาปีศาจนั้น เขาไม่ได้ปิดบังแม้แต่น้อย ใช้ฝ่ามือเดียวกดดันเมืองเมฆาปีศาจ จากนั้นจึงบังคับให้เจ้าเมืองเมฆาปีศาจต้องหนีตายเยี่ยงสุนัขด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

ฉากนี้ถูกพบเห็นโดยปีศาจมากมายนับไม่ถ้วนภายในเมืองเมฆาปีศาจ ดังนั้นความจริงเรื่องที่เมืองเมฆาปีศาจถูกเปลี่ยนมือก็ไม่ได้ถูกปิดบัง และข่าวยังแพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว

เมืองอินจี๋

ภายในห้องโถงใหญ่

มีร่างมากกว่าสิบร่างกําลังนั่งรายล้อมกันอยู่

“ราชาปีศาจที่ลงมือภายในเมืองเมฆาปีศาจคือผู้ใด เหตุใดข้าจึงมิเคยได้ยินว่ามีชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน?”

ปีศาจหน้าตาเย็นชาที่นั่งอยู่ด้านขวาเปิดปากพูดออกมา

ไอพลังของเขาลึกซึ้ง มืดมน และเป็นราชาปีศาจที่ทรงพลัง ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจ้าเมืองเมฆาปีศาจเลย

“ไม่แน่ใจ

“อย่างไรก็ตาม มีค่ายกลตั้งอยู่รอบเมืองเมฆาปีศาจซึ่งมีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับราชาปีศาจระดับสูง หากฝ่ายตรงข้ามสามารถกวาดทําลายเกราะคุ้มกันเมืองเมฆาปีศาจทั้งหมดได้ ข้าเกรงว่ามันคงจะเป็นราชาปีศาจระดับสูงจริงๆ”

ปีศาจอีกตนกล่าวคําเบาๆ

“ราชาปีศาจระดับสูงงั้นหรือ?”

“ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยแฮะ?”

“มิผิด ข้ารู้จักราชาปีศาจระดับสูงภายในรัศมีล้านลี้ทั้งหมด ทําไมจู่ๆ ถึงมีชายผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นมาได้?”

ปีศาจที่เหลือต่างมองหน้ากันอย่างงงงวย

รู้หรือไม่ แม้แต่ในโลกถ้ำปิศาจ ราชาปีศาจระดับสูงนั้นก็หาได้ยากมาก และเป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏตัวขึ้นมาเฉยๆ เช่นนี้

ราชาปีศาจระดับสูงทุกตนต่างมีร่องรอยให้สืบสาว ล้วนมีประวัติความเป็นมาคร่าวๆ อยู่

“เป็นไปไม่ได้”

“ หรือว่ามาจากเขตแดนอื่นหรือไม่?”

ปีศาจบางตนกระซิบกระซาบ

“เขตแดนอื่น?”

ใบหน้าของปิศาจตนอื่นๆ ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

จริงดังว่า

มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นถึงพอจะอธิบายได้ว่าทําไมราชาปีศาจระดับสูงจึงปรากฏตัวขึ้น

“ท่านเจ้าเมือง ตอนนี้พวกเราควรทําเช่นไรดี?”

ในเวลานั้น ปีศาจหน้าตาเย็นชาที่เป็นคนเปิดปากพูดตนแรกก็มองไปที่เจ้าเมืองอินจี๋ที่นั่งอยู่บนแท่นสูง

คําที่กล่าวออกมา

ปีศาจทั้งหลายที่พูดคุยกันอยู่ก็เงียบเสียงและมองไปที่เจ้าเมืองอินจี๋ที่ละตนสองตน

เจ้าเมืองอินจี๋สวมชุดคลุมยาว ปราณสงบนิ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะบังเอิญมีประกายสีดํากะพริบอยู่ภายในดวงตา เกรงว่าคงจะไม่มีใครมองออกว่าเขาคือเจ้าเมืองอินจี๋ที่ควบคุมอํานาจในบริเวณล้านนี้

“เจ้าเมืองเมฆาปีศาจสัญญาว่าจะส่งมอบร่างกายหยินบริสุทธิ์มาให้”

เสียงของเจ้าเมืองอินจี๋แหบแห้ง ราวกับเสียงเหล็กเสียดสีกัน “ข้ารอมายี่สิบปีแล้ว และแทบจะอดรนทนไม่ไหวที่กลืนกินปราณหยินอันบริสุทธิ์นั่น แต่เมืองเมฆาปีศาจกลับเปลี่ยนถ่ายมือไปเช่นนั้นหรือ?”

ความไม่พอใจเผยออกมาในคําพูดของเจ้าเมืองอินจี๋

วิชามารที่ตัวเขาฝึกนั้นรุนแรงจนเกินไป จึงต้องการปราณหยินบริสุทธิ์มาชดเชย

ตอนนี้ เจ้าเมืองอินจี๋ขาดร่างหยินบริสุทธิ์อีกเพียงร่างเดียวเท่านั้น เขาก็จะรวบรวมได้ครบเก้าสิบเก้าร่าง ควบแน่นเส้นสายทั้งเก้าสิบเก้าให้กลายเป็นปราณหยินบริสุทธิ์ เสริมพลังขึ้นไปในคราวเดียวเพื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตต่อไปอย่างสมบูรณ์

แต่สิ่งที่เจ้าเมืองอินจี๋คาดไม่ถึงคือจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับร่างหยินบริสุทธิ์

“ข้าไม่สนว่าใครจะเป็นเจ้าเมืองเมฆาปีศาจ”

เจ้าเมืองอินจี๋ค่อยๆ ยืนขึ้น เดินออกนอกห้องโถงใหญ่และมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีเทา “แต่ร่างหยินบริสุทธิ์จะต้องถูกส่งมอบออกมา”

เมื่อกล่าวคําเช่นนั้น เจ้าเมืองอินจี๋ก็หันกลับไปมองราชาปีศาจทั้งหลาย “พวกเจ้าต้องตามข้าไปยังเมืองเมฆาปีศาจ”

เจ้าเมืองอินจี๋เพิ่งจะกล่าวคําจบไป

ใบหน้าของราชาปีศาจทั้งหลายก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

แม้ว่าเจ้าเมืองอินจี๋จะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจนว่าต้องการจะไปทําอะไรในเมืองเมฆาปีศาจ แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าเขาต้องการจะบังคับเจ้าเมืองเมฆาปีศาจตนใหม่ให้ยอมจํานน มอบร่างหยินบริสุทธิ์คืนมา

“ท่านเจ้าเมือง อาจจะไม่เหมาะที่จะทําเช่นนั้นกระมัง…” ราชาปีศาจบางตนกัดฟันพูดขึ้นมา “สุดท้ายแล้ว เจ้าเมืองเมฆาปีศาจตนปัจจุบันก็น่าจะเป็นถึงราชาปีศาจระดับสูง…”

ถ้าเป็นอดีตเจ้าเมืองเมฆาปีศาจ หากอยากจะข่มเหงมันย่อมยอมให้ถูกข่มเหง แต่ยามนี้เจ้าเมืองเมฆาปีศาจตนปัจจุบันนั้นทรงพลังอํานาจ และหากข่มเหงบุคคลเช่นนี้ แน่นอนว่าเจ้าเมืองอินจี๋คงไม่หวาดกลัวสิ่งใด แต่พวกตนเล่าจะทําเช่นไรได้?

“สบายใจได้”

รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าของเจ้าเมืองอินจี๋ “วิชามารของข้าใกล้จะสมบูรณ์แล้ว แล้วก็ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยสังหารราชาปีศาจระดับสูงมาก่อนเสียเมื่อไหร่”

เมื่อราชาปีศาจตนอื่นๆ ได้ยินดังนั้น พวกเขาก็รู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาทันที รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วไปยืนอยู่ด้านหลัง เจ้าเมืองอินจี๋ด้วยตัวที่สั่นกลัว

ในเวลาเดียวกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]