Sign in Buddha’s palm 211 (1) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์
ชิงชิวชิงหลิงนั้นแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่นางเปิดเผยร่างภูตอสูรจิ้งจอกที่แท้จริง ไอพลังของนางถึงกับสามารถต่อต้านอาณาเขตของซูฉินได้ ไม่เช่นนั้น ด้วยความสามารถในการควบคุมอาณาเขตขนาดเล็กของซูฉิน เขาย่อมสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้โดยแทบจะไม่ต้องทําสิ่งใด
นอกจากนี้ความว่องไวของชิงชิวชิงหลิงก็น่าพึ่งเช่นกัน สามารถหลบคมมีดเทพเจ้าปีศาจได้
น่าเสียดายที่นางได้มาพบกับซูฉินที่มีไพ่ลับมากมาย เช่น หมัดสายฟ้าเทพเจ้า และเทพวิชาหลอมจิตวิญญาณจันทรา รวมถึงการแปรสภาพร่างกายถึงห้าครั้ง ไม่ต้องพูดถึงด้านอื่นๆเลย เพียงแค่กายเนื้ออย่างเดียวซูฉินก็เทียบเคียงหรือ บางทีอาจจะเหนือกว่าภูตอสูรในระดับเดียวกันแล้ว
เดิมที่ชิงชิวชิงหลิงคิดว่าซูฉินโง่มากที่ไม่ใช้มีดเทพเจ้าปีศาจ แต่ที่จริงแล้วสําหรับซูฉิน การใช้เพียงมีดเทพเจ้าปีศาจเป็นการจํากัดความสามารถของตนเองไว้ถึงเก้าส่วน
“เป็นไปไม่ได้?!
ชิงชิวเฉียนเฉียนหน้าซีดเทา ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น
นางรู้ถึงความแข็งแกร่งของชิงชิวชิงหลิงดี เดิมที่กลุ่มภูตอสูรนั้นต่างก็เคารพผู้แข็งแกร่งอยู่แล้ว และชิงชิวชิงหลิงในฐานะที่เป็นหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิว จึงเป็นจิ้งจอกภูตที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามชิงชิวเฉียนเฉียนไม่ได้คาดหวังว่าชิงชิวชิงหลิงจะไม่สามารถรับหมัดของซูฉินได้ และถูกกําจัดสลายหายไปอย่างสมบูรณ์
ชิงชิวเฉียนเฉียนคิดถึงสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจะกลายมาเป็นแบบนี้
“มีวิธีการเช่นนี้ด้วย”
หลังจากซูฉินชกหมัดขวาออกไป ท้องฟ้าที่มืดครึ้มก็ค่อยๆหายไป ดวงอาทิตย์ค่อยๆสาดแสงลงมา สว่างจ้าราวกับฟ้าหลังฝน
“น่าเสียดายที่ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าเป็นการระดมพลังสายฟ้าทั้งหมดบดบังดวงอาทิตย์ วิธีการของภูตอสูรอย่างเจ้านั้นก็กลายเป็นไร้ความหมาย”
ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย พึมพํากับตนเอง
ในขณะที่เขากําลังจัดการชิงชิวชิงหลิงนั้น เขารู้สึกได้อยู่เล็กน้อยว่ามีคลื่นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กระเพื่อมอยู่ในร่างของคู่ต่อสู้ มันต้องการจะละทิ้งกายหยาบออกมาและหนีไปให้ไกล
แต่ก่อนที่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จะหนีออกจากร่าง พลังสายฟ้าก็ตามติดราวกับเงาตามตัวเข้าไปทําลายล้างจนสลายหายไป
เมื่อคิดเรื่องเมื่อครู่เสร็จสิ้น ซูฉินก็เบนสายตาเล็กน้อย มองไปที่ชิงชิวเฉียนเฉียนซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
เผ่าพันธุ์จิ้งจอกบนเกาะหยิงโจวได้ล่มสลายลงอย่างสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ที่ซูฉินผ่าทําลายค่ายกลสังหาร
และชิงชิวชิงหลิงที่เหลือรอดชีวิตมาได้ก็ถูกหมัดของซูฉินสังหารตามไปเช่นกัน
พูดง่ายๆ คือ ในบรรดาจิ้งจอกตระกูลชิงชิวนั้น ผู้ที่รอดชีวิตหนึ่งเดียวในวันนี้ก็คือ ชิงชิวเฉียนเฉียน
“มันจบแล้ว”
เมื่อชิงชิวเฉียนเฉียนเห็นซูฉินจ้องมองมา ใจนางก็ตกลงไปอยู่ตาตุ่ม
ขาทั้งสองข้างของชิงชิวเฉียนเฉียนอ่อนแรงแทบจะล้มคะมำลงด้วยความตกใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงสงบนิ่งลอยผ่านหูมา
“อยากจะตายหรือมีชีวิตอยู่?”
เสียงนั้นดังก้องอยู่ข้างหูของชิงชิวเฉียนเฉียน ทําให้นางตกใจขวัญกระเจิง ในตอนนั้นเองชิงชิวเฉียนเฉียนจะไม่รู้ ได้อย่างไรว่าโอกาสรอดชีวิตของนางกําลังจะมาถึงแล้ว จึงรีบแสดงอาการนอบน้อมในทันที
“นายท่าน ข้าอยากจะมีชีวิตอยู่”
ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวคําไม่มีลังเล
เผ่าจิ้งจอกชอบที่จะติดตามผู้แข็งแกร่ง ในช่วงรุ่งเรืองของกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด เผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิว สามารถครองใต้หล้าได้มาจนถึงปัจจุบันเพียงเพราะอาศัยร่มชายคาของผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตอนนี้ แม้ว่าซูฉินจะสังหารเผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิวจนหมดเกาะ แต่ชิงชิวเฉียนเฉียนก็ไม่กล้าคิดเคืองแค้นแต่อย่างใดในขณะนี้
สําหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์อาจมีมุมมองความคิดหวงแหนชาติพันธุ์ของตน แต่เผ่าพันธุ์จิ้งจอกนั้นเป็นสัตว์อสูร ตราบใดที่พวกมันสามารถรักษาชีวิตรอดได้ มันก็ยินดีที่จะทําทุกวิถีทาง
“ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่ก็จงติดตามข้ามา”
ซูฉินเหลือบมองชิงชิวเฉียนเฉียนชั่วครู่ จากนั้นจึงหันหลังกลับเข้าสู่เกาะหยิงโจว
ก่อนหน้านี้ที่เขาผ่าทําลายค่ายกลสังหารบนเกาะหยิงโจว เขาก็จงใจไม่ให้มันส่งผลกระทบต่อเกาะหยิงโจว
ดังนั้นแม้ว่าค่ายกลฟ้าดินภายนอกเกาะหยิงโจวจะพังทลายลง อันที่จริงตัวเกาะหยิงโจวเองก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่ประการใด
“เจ้าค่ะ”
ชิงชิวเฉียนเฉียนปฏิบัติตามคําสั่งของซูฉินด้วยความเคารพ
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ชิงชิวเฉียนเฉียนไม่เคยคิดที่จะวิ่งหนีไปไหน เพราะนางรู้ว่าต่อหน้าชายที่แข็งแกร่งถึงขนาดสังหารชิงชิวชิงหลิงได้ด้วยหมัดเดียว การวิ่งหนีนับว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
ไม่นาน
ทั้งคู่ก็เข้ามาที่เกาะหยิงโจว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]