Sign in Buddha’s palm 225 (I) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง
“พวกเจ้าเข้ามาเถอะ”
“เจ้าค่ะ” ชิงชิวเฉียนเฉียนและนักพรตเฒ่าเหลือบมองซี่งกันและกัน จากนั้นจึงเดินอย่างสํารวมเข้าไปภายในถ้ํา
ในเวลานี้ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นภายในถ้ํา ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ หลุมลึกที่เป็นที่ตั้งของตาน้ําพุจิตวิญญาณได้หายไป
“นายท่าน ตาน้ําพุจิตวิญญาณไปอยู่ที่ใดแล้ว?”
ชิงชิวเฉียนเฉียนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ที่แรกที่เข้ามา และถามออกอย่างระมัดระวัง
“ใส่เข้าไปแล้ว” ซูฉินเหลือบตามองไปที่กล่องหยกข้างๆ แล้วกล่าวตอบออกมาเบาๆ
หากไม่ใช่เพราะซูฉินได้ก้าวเข้าสู่นภาชั้นที่แปดเรียบร้อยแล้ว เกรงว่าการพยายามย้ายน้ําพุจิตวิญญาณในครั้งนี้จะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
จ้าวทะเลบูรพาที่ฝั่งตาน้ําพุจิตวิญญาณไว้บนเกาะหยิงโจวเมื่อหมื่นปีก่อน ได้รวมตาน้ําพุจิตวิญญาณเข้ากับเกาะหยิงโจวทั้งเกาะ
ซูฉินต้องการโอนย้ายตาน้ําพุจิตวิญญาณก็เท่ากับเป็นการเขย่าทั่วทั้งเกาะหยิงโจว
แม้ว่าเกาะหยิงโจวจะมีขนาดใหญ่ไม่เท่ากับแผ่นดินใหญ่ แต่ก็มีขนาดหลายร้อยลี้ ด้วยเกาะขนาดเท่านี้ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดหรือชั้นที่แปดทั่วๆไปไม่สามารถกระทําการเช่นนี้ได้
“ใส่เข้าไปแล้ว?” ชิงชิวเฉียนเฉียนมองไปที่กล่องหยก
“หยิบกล่องหยกขึ้นมา”
ซูฉินมองไปที่กล่องหยกแล้วออกคําสั่ง
แม้ว่าคลังของระบบจะสามารถเก็บของได้ทุกอย่าง แต่มันก็มีประโยชน์เฉพาะสมบัติที่ได้รับมาจากการลงชื่อเข้าใช้เท่านั้น ส่วนอย่างอื่นไม่สามารถใส่เข้าไปได้
“เจ้าค่ะ”
ชิงชิวเฉียนเฉียนก้าวเท้าไปข้างหน้าในทันที และมองไปที่กล่องหยกด้วยความสงสัย จากนั้นจึงก้มลงไปจะยกกล่องหยกขึ้นมาถือเอาไว้
“โอ้โห”
“นายท่าน ทําไมกล่องหยกถึงหนักเยี่ยงนี้?”
ใบหน้าของชิงชิวเฉียนเฉียนแดงก่ําเล็กน้อย หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง นางก็ขยับกล่องหยกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าจะยกขึ้นมาได้อย่างไรเลย
“แม้ว่าน้ําพุจิตวิญญาณจะเป็นการรวมตัวกันของจิตใจแห่งฟ้าดินอันมากมายไร้ที่สิ้นสุด แต่มันก็เกี่ยวข้องกับชีพจรธรณีด้วย ถึงแม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวส่วนเล็กๆ มันก็หนักนับพันชั่งแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้มันมากกว่าแค่เศษเสี้ยวแน่นอน”
นักพรตเฒ่าอธิบาย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ลอง ถามซูฉินดูว่า “ผู้อาวุโส ท่านอยากให้ข้าลองดูหรือไม่?”
แม้ว่าชิงชิวเฉียนเฉียนจะเป็นภูตอสูร แต่ฐานการบ่มเพาะก็เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธเท่านั้น อย่างไรเสียนักพรตเฒ่าก็เป็นถึงตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่สี่ขั้นสูงสุด แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้แข็งแกร่งเป็นพิเศษ แต่ความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้ถูกกําหนดด้วยร่างกายเพียงอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่
“ลองดู”
ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย
เมื่อได้ยินคําอนุมัติ นักพรตเฒ่าก็ก้าวเท้าไปด้านหน้าในทันที แก่นแท้แห่งพลังโคจรไปถึงมือ คว้าหมับเข้าที่ด้านข้างของกล่องหยก
“ขึ้นมา!”
นักพรตเฒ่าตะโกนเสียงดัง ค่อยๆยกกล่องหยกขึ้นมา แล้วถือมันเอาไว้ในมือ
“ผู้อาวุโส”
“แบบนี้ได้หรือไม่?”
นักพรตเฒ่าถอนหายใจอย่างโล่งอก กล่าวต่อซูฉินด้วยความเคารพ
“ไม่เลว” ซูฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า แล้วจึงปรบมือให้ “ข้าจะมอบหน้าที่นี้ให้เจ้าในการเดินทางครั้งนี้”
“นี่ย่อมเป็นสิ่งที่ผู้น้อยพึงกระทํา”
นักพรตเฒ่าดีใจ รีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือการที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือซูฉินได้เลย ด้วยวิธีนี้ เขาจะไปที่ไหนทําอะไรก็ได้ เพียงแต่อยู่ภายใต้อํานาจคนไม่กี่คนเท่านั้น
“ตลอดทางไหวนะ?”
นักพรตเฒ่าชะงักไปชั่วครู่ แล้วถามออกมาโดยไม่รู้ตัว “ผู้อาวุโส เราจะไปที่ไหนกัน?”
“กลับฉางอัน”
ซูฉินเงยหน้ามองไปยังทิศทางเมืองฉางอัน แล้วกล่าวตอบเบาๆ
ต่างดินแดน
นิกายเฮยหยวน
ผู้นํานิกายเฮยหยวนนั่งอยู่บนแท่นบัลลังก์หลัก ดวงตาของเขาดูลึกล้ํา ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่
ในเวลานี้ ชายคนหนึ่งลงไปนั่งคํานับแล้วกล่าวว่า “ท่านผู้นํา ศิษย์พี่หมิงโยวสําเร็จวิชาร่างปีศาจจนถึงระดับลึกซึ้งแล้ว การให้เขาไปยังพื้นที่จุดตัดจะต้องสามารถค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน”
“แน่นอนว่าข้าไม่ได้กังวลเรื่องของพื้นที่จุดตัด” ผู้นํานิกายเฮยหยวนส่ายหัวพร้อมกับกระซิบคําออกมา
สําหรับผู้นํานิกายเฮยหยวน แม้ว่าพื้นที่จุดตัดจะสําคัญ แต่ก็ไม่ได้มีความสําคัญสูงสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]