Sign in Buddha’s palm 23 ซูฉินและมารร้าย
ที่ด้านนอกของหอคอยสะกดมาร
มีพระนับร้อยรูปคอยเดินตรวจตรา
ด้วยความที่เป็นเขตหวงห้ามของวัดเส้าหลิน หอคอยสะกดมารจำต้องมีภิกษุคอยเฝ้าระวังอย่างน้อยหนึ่งร้อยแปดรูปไม่ว่าจะกลางวันหรือยามค่ำคืน
พระทั้งหนึ่งร้อยแปดรูปนี้จะต้องมีความสามารถในการตั้งค่ายกลขนาดใหญ่ได้โดยทันที เพียงพอที่จะสกัดจับผู้เชี่ยวชาญในสามระดับบนทั่วๆ ไป ในเวลาอันสั้นได้
“ศิษย์พี่”
“ทำไมคืนนี้ข้ารู้สึกว่าหอคอยมีบางอย่างแปลกไป…”
พระหนุ่มมองผ่านความมืดมิดไปยังหอคอยสะกดมารที่น่าขนลุกยามนี้แล้วกระซิบแผ่วเบากับศิษย์อีกคน
“แปลกไป?”
“จะมีอะไรแปลกได้เล่า?”
ศิษย์ที่อาวุโสกว่าจ้องมองมาที่พระหนุ่มแล้วกล่าวตำหนิ “แค่ทำหน้าที่ของตนดีๆ อย่าได้มัวแต่หันมองนู่นนี่”
“ขอรับ”
พระหนุ่มหดหัวลง
ขณะนั้นเอง
ครืน!!!
พวกเขาก็เห็นว่าหอคอยสะกดมารสั่นไหว
สงฆ์ทั้งร้อยแปดรูปที่เฝ้าระวังอยู่ด้านนอกหอคอยสะกดมารต่างตกตะลึงแล้วพากันจ้องมองไปที่หอคอยสะกดมารโดยไม่รู้ตัว
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้ารู้สึกได้ว่าหอคอยสะกดมารเหมือนจะสั่นไหว ใช่หรือเปล่านะ?”
“ใช้ ข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกัน คิดว่าเป็นภาพลวงตาเสียอีก”
…
เหล่าสงฆ์ต่างแปลกใจ
อย่างไรก็ตาม ความแปลกใจถูกหยุดอยู่เพียงเท่านั้น
ในเวลาต่อมา
แกร๊ก
ช่องว่างด้านข้างประตูของหอคอยสะกดมารพลันแตกออก
เงาร่างสีดำของมารร้ายกระโดดออกมาจากช่องว่างนั้นและยืนจังก้าอยู่ด้านนอกหอคอยสะกดมารเป็นที่เรียบร้อย
“ออกมาแล้ว”
“ในที่สุดข้าก็ออกมาได้แล้ว!”
มารเฒ่ากลืนโลหิตดีใจอย่างเหลือล้น
ความจริงแล้วก่อนที่จะตัดสินใจเข้าไปในหอคอยสะกดมาร มารเฒ่ากลืนโลหิตก็มีความลังเลอยู่เล็กน้อยในเรื่องที่เสี่ยงเช่นนี้
นอกเหนือจากนั้น
ในหนังสือโบราณที่ได้รับมา ระบุไว้ว่ามีช่องโหว่มากมายในค่ายกลฟ้าดินภายในหอคอยสะกดมาร…
แต่ก่อนที่จะได้ลองด้วยตนเองจริงๆ ใครกันจะมั่นใจได้ว่าสิ่งที่หนังสือโบราณได้บอกไว้เป็นความจริงหรือไม่?
นี่คือหอคอยสะกดมารแห่งวัดเส้าหลินเชียวนะ
ไม่รู้ว่ามีตัวตนเก่งกาจราวกับสัตว์ประหลาดกี่ตนแล้วที่ถูกปราบปรามกักขังอยู่ภายใน?
พวกมารร้ายเหล่านี้ไม่เคยออกมาได้เลยตั้งแต่ที่ถูกขังไว้ด้านในหอคอย
พวกเขาไม่ได้อย่างออกมางั้นหรือ?
ย่อมมิใช่
เป็นเพราะพวกมันไม่สามารถหนีออกไปได้ต่างหาก
นั่นล่ะคือความน่าพรั่นพรึงของหอคอยสะกดมาร
แต่ตอนนี้
กลับมีหนังสือโบราณเล่มหนึ่งเขียนว่าหอคอยสะกดมารนี้มีช่องโหว่?
ถ้าใครสักคนมาบอกว่ามีช่องโหว่ มันก็แปลว่ามีช่องโหว่จริงๆ อย่างนั้นหรือ?
แล้วถ้าในกรณีที่หนังสือโบราณกล่าวไว้เป็นเท็จ…
ไม่ใช่ว่ามารเฒ่าโลหิตได้ขุดหลุมฝังตัวเองไปแล้วหรอกรึ?
แต่ทั้งหมดที่ว่ามาก็เท่านั้น
ในท้ายที่สุดมารเฒ่าก็ตัดสินใจกระทำลงไปแล้วอยู่ดี
นั่นเพราะยามเมื่อแผนประสบความสำเร็จ ด้วยมารร้ายจำนวนมหาศาลที่มารเฒ่าได้สูบกลืนพลังมา มารเฒ่ากลืนโลหิตย่อมพบโอกาสที่จะก้าวไปยืนบนจุดสูงสุดในใต้หล้า
กลิ่นหอมหวานของความสำเร็จน่าเย้ายวนถึงเพียงนี้ ไยมารเฒ่ากลืนโลหิตจะทนไหว
อนึ่ง
คำอธิบายเกี่ยวกับช่องโหว่ในหอคอยสะกดมารที่ระบุไว้ในหนังสือโบราณนั้นละเอียดมาก และไม่ได้เป็นเรื่องที่เสริมเติมแต่งแต่ประการใด มันจึงช่วยเสริมความมั่นใจให้มารเฒ่าได้อย่างดี
“ไม่ดีแล้ว”
“มีมารร้ายหลบหนีออกมา”
เมื่อเทียบกับความสุขสันต์ของมารเฒ่ากลืนโลหิต พระที่คุ้มกันหอคอยสะกดมารอยู่ต่างประหวั่นพรั่นพรึง
ในเวลาหลายสิบปีมานี้ไม่เคยมีประวัติการหลบหนีของมารร้ายจากหอคอยมาก่อน
“ตั้งขบวน จัดค่ายกล!!!”
หัวหน้าของกลุ่มสงฆ์ตะโกนด้วยน้ำเสียงรุนแรงเร่งเร้า
ทันใดนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]