เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 235

Sign in Buddha’s palm 235 ท่านปรมาจารย์ได้โปรดลงมือ!

“เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?!”

จักรพรรดิมารร้ายพบว่าตนเองคุกเข่าอยู่กับพื้น เขาต้องการจะลุกขึ้นยืน แต่รู้สึกเหมือนไหล่ของเขาแบกภูเขาขนาดใหญ่หลายพันจ้างไว้บนบ่า ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

“นี่นี่นี่?”

จักรพรรดิมารร้ายตัวสั่นไปทั่วทั้งตัว สีหน้าของเขาดูหวาดกลัว

เขานั้นจําได้อย่างชัดเจนว่าเขาอยู่นอกโรงเตี้ยมและกําลังจะลงมnอสังหารเฉียนขู่ แต่ในชั่วพริบตา สภาพแวดล้อมรอบด้านก็เปลี่ยนไป และตัวเขาก็มาปรากฏตัวอยู่ด้านในโรงเตี้ยมในท่าคุกเข่า ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อเกินไป

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าจักรพรรดิมารร้ายรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา เกรงว่าเขาคงจะคิดว่าตนเองกําลังฝันไป

และในตอนนี้ เสียงแจ่มชัดเจือไปด้วยความงุนงงดังเข้ามาที่ข้างหูของจักรพรรดิมารร้าย “ลุงสาม ทําไมจู่ๆคนผู้นี้ถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่ แล้วทําไมเขาถึงนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น…”

หลีหว่านมองไปที่จักรพรรดิมารร้ายด้วยความสงสัย ใบหน้าเล็กๆของนางเต็มไปด้วยความงุนงง

“เขา….”

ซูฉินไม่ได้สนใจแม้แต่จะมองดูจักรพรรดิมารร้าย และกล่าวออกอย่างสบายๆ “มันก็เพียงมดตัวหนึ่ง ไม่ต้องเป็นกังวลไป”

แน่นอนว่าซูฉินค้นพบจักรพรรดิมารร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ

เหตุผลที่ซูฉินยอมให้เฉียนขู่สู้กับจอมยุทธฝ่ายอธรรมทั้งสี่ ก็เพราะต้องการจะเห็นความสามารถในการต่อสู้ของเฉียนขู่

ถ้าจักรพรรดิมารร้ายทําตัวสงบเสงี่ยม ซูฉินจะไม่สนใจมันเลย

แต่ถ้าจักรพรรดิมารร้ายมีแผนจะเคลื่อนไหว

จักรพรรดิมารร้ายเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์ และเฉียนขู่เป็นเพียงยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งผู้เก่งกาจ ไม่ใช่แม้แต่ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุด พวกเขามีช่องว่างห่างกันหลายระดับ

หากจักรพรรดิมารร้ายได้รับอนุญาตให้ลงมือ ไม่ว่าความสามารถของเฉียนขู่จะแข็งแกร่งเพียงใด เกรงว่าคงทําได้เพียงถูกจักรพรรดิมารร้ายบดขยี้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่ซูฉินอยากจะเห็น

“โอ้

หลีหว่านพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ไม่สนใจจักรพรรดิมารร้ายที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม บทสนทนาระหว่างซูฉินและหลีหว่านถูกส่งผ่านไปยังหูของจักรพรรดิมารร้ายทั้งหมดอย่างชัดเจน

“จบแล้ว”

ในเวลานี้ จักรพรรดิมารร้ายไม่รู้ด้วยซ้ําว่าตนมาอยู่ที่ไหน แต่เหตุผลที่มาอยู่ที่นี่ ทั้งหมดน่าจะเป็นเพราะชายที่ดูสงบนิ่งตรงหน้า

“ความแข็งแกร่งของคนผู้นี้”

มือเท้าของจักรพรรดิมารร้ายเย็นเยียบ ใบหน้าของเขาสิ้นหวัง สามารถเพิกเฉยต่อการต่อต้านของเขา ย้ายเขาเข้ามาภายในที่แห่งนี้ได้เพียงพริบตา การเคลื่อนไหวทั้งหมดถูกระงับไว้ได้ด้วยความคิดเดียว มันเป็นความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าเขามาก

“ตํานานยุทธ”

“อย่างน้อยก็ต้องเป็นตํานานยุทธ!”

มีเพียงความคิดนี้ความคิดเดียวในจิตใจของจักรพรรดิมารร้าย

เหตุผลที่เติมคําว่า “อย่างน้อย” ก็เพราะจักรพรรดิมารร้ายเองก็ไม่คิดว่าตํานานยุทธธรรมดาๆจะสามารถล้อเล่นกับเขาได้โดยง่าย

ในสายตาของจักรพรรดิมารร้าย แน่นอนว่าการดํารงอยู่ของตํานานยุทธนั้นสามารถสังหารเขาได้อย่างง่ายดาย

เพียงแต่การสังหารและล้อเล่นเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสมบูรณ์

จักรพรรดิมารร้ายเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสมบูรณ์ ห่างจากตํานานยุทธเพียงก้าวเดียว แม้ว่าเขาจะเจอเข้ากับจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของตํานานยุทธ แต่ก็แน่ใจว่าสามารถรอดชีวิตไปได้ แม้ว่าจะพ่ายแพ้ต่อตํานานยุทธ อย่างน้อยก็รู้ว่าพ่ายแพ้ได้อย่าง

แต่ตอนนี้จักรพรรดิมารร้ายไม่รู้สึกตัวเลยเมื่อถูกย้ายเข้ามาอยู่ภายในโรงเตี้ยม

“การเคลื่อนย้ายผ่านความว่างเปล่า ตํานานยุทธธรรมดาทําไม่ได้แน่ เกรงว่าคงมีแต่ผู้แข็งแกร่งในขอบเขตตํานานยุทธเท่านั้นที่จะทําได้.”

จักรพรรดิมารร้ายคุกเข่าอยู่กับพื้นตัวสั่นงันงก ความคิดมากมายไหลผ่านจิตใจ ในที่สุดทุกสิ่งก็ตกลงสู่ความสิ้นหวัง

ขนาดตํานานยุทธธรรมดาๆ ก็สามารถสังหารเขาได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพูดถึงตํานานยุทธผู้ทรงพลังเลย

และในขณะนี้

สถานการณ์ด้านนอกโรงเตี้ยมก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น

ในตอนแรกเริ่ม จอมยุทธฝ่ายอธรรมทั้งสี่ได้เปรียบเฉียนขู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาค่อยๆเปลี่ยนจากได้เปรียบเป็นเสมอกัน และในที่สุดเฉียนขู่ก็กลายมาเป็นฝั่งได้เปรียบ

“วิชาสายพุทธของสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์เฉียนขู่ทําให้โลกตกตะลึง สามารถได้เปรียบแม้เป็นการสู้สองต่อหนึ่ง…” จอมยุทธหลายคนมองดูการต่อสู้อย่างตื่นเต้น

ในตอนแรกหลายคนยังสงสัยอยู่เมื่อได้ยินว่าเฉียนขู่สังหารยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งฝ่ายอธรรมไปเกือบสิบคน ท้ายที่สุดจอมยุทธฝ่ายอธรรมเหล่านั้นต่างก็ยอดปรมาจารย์ ถ้าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะเฉียนขู่ได้ เขาย่อมต้องหนีไปอย่างแน่นอน

หากยอดปรมาจารย์ฝ่ายอธรรมหนีเอาชีวิตรอดอย่างสุดความสามารถ มันก็เป็นไปได้ยากที่ผู้แข็งแกร่งในระดับเดียวกันจะไล่ล่าจนสังหารได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]