Sign in Buddha’s palm 250 อุบัติการณ์
ภายในเมืองฉางอัน
บนถนนทางเดิน
ผู้คนสัญจรไปมามากมาย ท้องถนนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
แต่ทั้งบรรพบุรุษเฉวซินและบรรพชนพรรคหมื่นดาบกลับมีคลื่นลูกใหญ่ซัดโถมเข้าเต็มหัวใจทั้งหมดมองไปที่ซูฉินด้วย ความตกใจ
อย่างน้อยๆ พวกเขาก็เป็นถึงตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดโดยเฉพาะบรรพบุรุษเฉวซินที่เป็นถึงตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่ แปดขั้นสูงสุดสามารถใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ครอบคลุมรัศมีหลาย สิบลี้ได้อย่างง่ายดายแต่ไม่ว่าจะเป็นบรรพชนพรรคหมื่นดาบหรือบรรพบุรุษเฉวซินก่อนที่ซูฉินจะกล่าวคําออกมา เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีซูฉินอยู่ใกล้ๆ
ซูฉินโผล่ขึ้นมาจากอากาศราวกับภูตผี
สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร?
หมายความว่าหากซุฉินตั้งใจ เขาสามารถกลายเป็นมือลอบสังหารที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลกอย่างแน่นอน ก่อนที่เขาจะลงมือแม้แต่ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่แปดอย่างบรรพบุรุษเฉวซินยังไม่อาจรับรู้
“พวกเจ้าคือบรรพชนผู้หลับใหลในต่างแดนใช่หรือไม่?”
ซูฉินมองดูกลุ่มของบรรพบุรุษเฉวซินทั้งสามคนอย่างสนอกสนใจดวงตาแห่งสัจจะช่วยให้เขาเข้าใจกลไกของพลังฉีทั้งหมด และแม้แต่แก่นแท้แห่งพลังที่โคจรอยู่ภายในร่างของบรรพชนทั้งสามก็เห็นได้ชัดเจน
ในสายตาของซูฉินไม่ว่าจะเป็นบรรพบุรุษเฉวซิน ชีหยวนจากนิกายเฮยหยวน หรือบรรพชนพรรคหมื่นดาบความแข็งแกร่งของพวกเขาล้วนเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุด แต่เลือดเนื้อของทั้ง สามนั้นเสื่อมถอยลงไปแล้วไม่ใช่จุดรุ่งเรืองที่สุดของพวกเขา
แทบจะเหมือนที่นักพรตเฒ่าแห่งสํานักเอกะวิถีบอกว่าบรรพชนที่หลับใหลด้วยวิธีการลับนั้นจะทําให้เลือดเนื้อเสื่อมถอยลง
“เจ้าคือตํานานยุทธเมืองฉางอันอย่างนั้นหรือ?”
บรรพบุรุษเฉวซินแห่งตําหนักเทพเจ้าหิมะมองไปที่ซูฉินอย่างจริงจังกล่าวคําทั้งหมดออกมา
ในตอนนี้ ทําไมพวกเขาจะยังเดาไม่ออกว่าตํานานยุทธที่พวกเขากําลังตามหานั้นอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว?
เพียงแต่บรรพบุรุษเฉวซินนั้นคิดว่าซูฉินเป็นเพียงตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ด แต่ตอนนี้ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะเหนือกว่าระดับนภาชั้นที่เจ็ดเสียแล้ว
ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดจะซ่อนตัวจากการรับรู้ของบรรพบุรุษเฉวซินและเข้ามาใกล้ๆ อย่างเงียบงันเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?
ซูฉินแย้มยิ้มเล็กน้อย ไม่ตอบคําถามของบรรพบุรุษเฉวซินแต่มองทั้งสามด้วยอาการครุ่นคิด
ซูฉินเข้าสู่วิถีทางการฝึกยุทธมาหลายสิบปี และศัตรูที่พบมักจะอยู่ในระดับที่ต่ํากว่าเขามากพวกของบรรพบุรุษเฉวซินทั้งสามคนเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกันกับซูฉินซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบคนที่มีฐานบ่มเพาะใกล้เคียงกันเช่นนี้
แน่นอนว่าชิงชิวชิงหลิงบนเกาะหยิงโจวและมังกรปีศาจไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์จึงไม่ได้นับรวมเข้าไปด้วย
“เฮเฮ สหายช่างมีวิธีการที่ดี ” บรรพบุรุษชีหยวนที่อยู่ด้านข้างก็ส่งเสียงเยาะเย้ย“ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอื่นๆเพียงแค่ทักษะลับในการปกปิดกลิ่นอายก็เพียงพอที่จะทําให้อยู่ในระดับบนสุดของโลกนี้แล้ว…………..”
แสงแห่งปัญญาส่องประกายออกมาจากดวงตาของบรรพบุรุษชีหยวนในความเห็นของเขาการที่ซูฉินมาปรากฏตัวที่นี่อย่างเงียบๆ จะต้องซ่อนตัวอยู่ตั้งแต่แรกด้วยทักษะลับในการปกปิดกลิ่นอาย
เมื่อมองแวบแรกอาจจะดูน่าเหลือเชื่อ แต่จริงๆ แล้วมันไม่คุ้มค่าให้กล่าวถึง
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการใช้ทักษะปกปิดกลิ่นอายจําเป็นต้องควบคุมกลิ่นอายเอาไว้ ถ้าซูฉินนิ่งเงียบ จากนั้นจึงค่อยๆล่าถอยกลับไปอาจจะทําให้บรรพบุรุษชีหยวนอารมณ์เสียได้แต่ตอนนี้ซูฉินกลับคิดจะหยัดยืนขึ้นสู้ เท่ากับละทิ้งสิ่งที่ตนถนัดและมองหา
ความตาย
“ทักษะลับในการปกปิดกลิ่นอาย?”
บรรพชนพรรคหมื่นดาบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทักษะลับปกปิดกลิ่นอายนั้นสามารถซ่อนกลิ่นอายได้อย่างไม่น่าเชื่อแต่ไม่ว่ามันจะน่าเหลือเชื่อเพียงใดมันก็เป็นเพียงแค่ทักษะลับไม่มีอะไรมากไปกว่าการปกปิดกลิ่นอาย ไม่ได้ช่วยในเรื่องการต่อสู้เท่าไหร่นัก
ในเวลานี้ความคิดนับพันวาบผ่านเข้ามาในจิตใจของบรรพชนพรรคหมื่นดาบ และยิ่งแนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าการคาดเดาของบรรพบุรุษชีหยวนนั้นถูกต้อง
ถ้าซูฉินไม่ได้ใช้ทักษะลับปกปิดกลิ่นอาย ทําไมจู่ๆ พวกเขาจึงเพิ่งเริ่มรู้ตัวในตอนที่ซูฉินส่งเสียง?
บรรพชนพรรคหมื่นดาบยิ่งคิดก็ยิ่งเริ่มแน่ใจมากขึ้น ปรากฏเป็นร่องรอยของความอับอายขึ้นในดวงตายามเมื่อมองไปยังซูฉินบรรพชนนักดาบผู้ยิ่งใหญ่อยู่ในขอบเขตตํานานยุทธขั้นสูงสุดมาตั้งแต่พันปีก่อนกลับต้องมาหวาดกลัว คนรุ่นหลัง” อย่างซูฉิน หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปย่อมทําให้คนอื่นหัวเราะเยาะเป็นแน่
“ทักษะลับปกปิดกลิ่นอาย?”
มันทําให้ซูฉินหัวเราะแห้งๆ
ตอนนี้เขากําลังอยู่ในช่วงพัฒนาขั้น ไม่ว่าจะเป็นพลังชีวิตเลือดเนื้อหรือจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ล้วนซ่อนตัวลึกอยู่ภายในกายทําให้ดูไม่ต่างจากคนทั่วไปนักนั่นเป็นเหตุที่ทําให้บรรพบุรุษชีหยวนคิดว่าเขา ใช้ทักษะลับปกปิดกลิ่นอาย
อนึ่ง บรรพบุรุษซีหยวนก็ไม่ได้พูดอะไรผิด
“ไม่ว่าเจ้าจะมีทักษะลับอะไร แต่การมาสังหารผู้อาวุโสของข้าก็จะไม่ได้รับการให้อภัย จงยอมจํานนอย่างเชื่อฟังบางทีมันอาจจะทําให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
บรรพบุรุษเฉวซินก้าวเท้าไปข้างหน้าตะโกนออกมาอย่างรุนแรง
“ลงมือ!”
ไอพลังอันน่าสะพรึงกลัวสามสายพุ่งเข้ามาหาซูฉินพร้อมกันดุจมังกรโอบกอดตวัดรัดรึง
ไม่ว่าจะเป็นบรรพชนพรรคหมื่นดาบ บรรพบุรุษเฉวซินหรือบรรพบุรุษชีหยวนล้วนแต่เป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุด แม้ว่าเลือดเนื้อและพลังชีวิตจะลดลงแต่ด้วยการลงมือร่วมกันแม้จะยังไม่ลงมือเต็มที่ก็เพียงพอแล้วที่จะปราบตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดและ นภาชั้นที่แปดธรรมดาๆ
หวิ่ง!!!
อากาศเริ่มบิดเบี้ยวเล็กน้อยราวกับว่าไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้แต่ไม่ว่าบรรพชนทั้งสามจะรวมพลังกันโจมตีอย่างไรในสายตาของชาวเมืองฉางอันที่เดินอยู่ใกล้ๆ ก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นี่คือการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง
สําหรับตํานานยุทธขั้นสูงสุดเช่นบรรพบุรุษชีหยวน เว้นแต่จะต้องพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่ เผชิญหน้ากับวิกฤตชีวิตทุกร่องรอยจะถูกปกปิดไว้เฉพาะเมื่อเกิดการปะทะของพลังเท่านั้นพลังจึงจะปะทุขึ้นมาแต่ก่อนหน้าการปะทะจะไม่เกิดผลกระทบใดๆ ออก มาให้รับรู้เลย
เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์นี้ ท่าทีของซูฉินยังคงสงบนิ่งไม่เคลี่อนไหว
ท่ามกลางสายตาจ้องมองของบรรพชนทั้งสามการโจมตีทั้งหมดของพวกเขาอยู่ห่างของร่างของซูฉินเพียงไม่ถึงสิบจ้างแต่การโจมตีทั้งหมดกลับสลายหายไปอย่างเงียบๆ ราวกับมันจมลงไปในก้น
ทะเล
“นี่คือ?”
บรรพบุรุษเฉวซินและบรรพชนพรรคหมื่นดาบไม่สามารถซ่อนอาการตกใจได้
ทั้งสามคนนั้นร่วมมือกัน แม้จะไม่ได้ใช้กําลังเต็มที่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ตํานานยุทธขั้นสูงสุดธรรมดาๆ จะสามารถทนการโจมที่นี้ได้ถ้าซูฉินใช้วิธีการมากมาย จ่ายราคาแสนแพงเพื่อปิดกั้นการโจมตีร่วมกันของพวกเขา บรรพบุรุษเฉวซินก็ยังพอทําความเข้าใจ ได้แต่ความจริงมันน่าเหลือเชื่อตรงที่ซูฉันยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ทํา อะไรเลย และทุกอย่างก็จบลงทันที
“อาณาเขต!”
“นี่เจ้าควบแน่นเรียบร้อยแล้ว?”
บรรพบุรุษซีหยวนที่อยู่ด้านข้างจ้องมองใบหน้าของซูฉินเขม็ง
“อาณาเขต?”
บรรพบุรุษเฉวซินและบรรพชนพรรคหมื่นดาบมองหน้ากันในความเป็นจริงแม้บรรพบุรุษชีหยวนจะไม่พูดแต่พวกเขาก็พอเดาได้การที่สามารถสลายการโจมตีของสามบรรพชนที่ลงมือพร้อมกันได้อย่างเงียบเชียบด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียว ยังจะมีสิ่งอื่นใดอีกหากมิใช่อาณาเขต?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]