เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 252

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล [Sign in Buddha’s palm]

Sign in Buddha’s palm 252 ปิดด่านฝึกตน! นภาชั้นที่เก้า!

บรรพบุรุษชีหยวน!

นี่คือตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวติดหนึ่งในห้าอันดับแรกอย่างแน่นอนในแง่ของความแข็งแกร่ง ในนิกายเฮยหยวนตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมาเกรงว่าจะมีอีกเพียงสองสามคนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะบรรพบุรุษหยวนได้

แต่มหาอํานาจน่าสะพรึงกลัวชื่อก้องยุทธภพในต่างแดนกลับสิ้นใจลง

หากบอกว่าชายผมหงอกและตํานานยุทธคนอื่นๆ ที่ซุ่มอยู่รอบเมืองฉางอันนั้นตกใจมากแล้ว บรรพบุรุษเฉวซินและบรรพชนพรรคหมื่นดาบเรียกได้ว่าตื่นตระหนกกันโดยสมบูรณ์

“เป็นไปไม่ได้!”

“บรรพบุรุษชีหยวนตายได้อย่างไร เขาตายได้อย่างไร?”

บรรพชนพรรคหมื่นดาบดูหมดสิ้นความหวัง เสียงของเขาสั่นเทา

ความคิดหนึ่งเดียวในหัวของบรรพชนพรรคหมื่นดาบมีเพียงบรรพบุรุษชีหยวนตายไปแล้วเช่นนี้ พวกเขาควรจะทําเช่นไรดี?

แม้แต่บรรพบุรุษชีหยวนก็ไม่สามารถหยุดยั้งซูฉินได้ ดังนั้นพวกเขาทั้งคู่จะเอาอะไรไปเผชิญหน้ากับซูฉิน?

ไม่ว่าจะเป็นบรรพชนพรรคหมื่นดาบหรือบรรพบุรุษเฉวซินต่างก็ไม่มีความคิดว่าซูฉินจะปล่อยพวกเขาไปแม้แต่แวบเดียว

“ชีหยวน..”

ใบหน้าของบรรพบุรุษเฉวซินกลายเป็นซีดเทาราวกับศพ

ซูฉันมองไปยังจุดที่บรรพบุรุษชีหยวนเคยอยู่ก่อนโดนเผาจนสิ้นใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง

บรรพบุรุษชีหยวนแข็งแกร่งมากจริงๆ

แต่เขานั้นตัดสินใจได้โง่เขลาอย่างยิ่ง ด้วยการใช้ศาสตร์แห่งความตายอันชั่วร้ายและพลังธาตุหยินมาจัดการกับซูฉิน

เมฆมรณะสีดําที่บรรพบุรุษชีหยวนเรียกมานั้นแปลกประหลาดมากพอที่จะจัดการตํานานยุทธธรรมดาได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในสายตาของซูฉินมันไม่นับเป็นสิ่งใดเลย

ซูฉินลงชื่อเข้าใช้มานานหลายสิบปี มีเคล็ดวิชามากกว่าพันชนิดจะไม่มีวิธีกําจัดพลังเหล่านี้เลยหรือ? หลายวิชาที่มีฤทธิ์ยับยั้งความชั่วร้ายและทักษะแปลกๆ

โดยเฉพาะหลังจากซูฉันเริ่มต้นฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมาที่มีกลิ่นอายของอีกาทองคําสามขา สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีธาตุไฟ แข็งแกร่งที่สุดซึ่งทําให้พลังของเก้าสุริยันแข็งแกร่งขึ้นไปอีกหลายระดับ

เพลิงศักดิ์สิทธิ์ของดวงไฟทั้งเก้าที่ก่อกําเนิดมาจากเคล็ดเก้าสุริยันเป็นดวงไฟที่รุนแรงมากแล้ว ควบคู่ไปกับกลิ่นอายของอีกาทองคําสามขาแม้ว่าจะด้อยกว่าดวงตะวันที่ร่ําลือกันอยู่มาก แต่การเผาพลังแห่งความตายเผาพลังธาตุหยินนั้นง่ายพอๆ กับการกินดื่ม

หากบรรพบุรุษชีหยวนไม่ได้ใช้พลังแห่งความตายมาจัดการซูฉินตัวมันก็คงไม่ตายอย่างน่าอนาถในเวลาอันสั้นเช่นนี้คงจะสามารถประมือกันได้สองสามกระบวนท่า แต่เมื่อมันริเริ่มจะโอบล้อมซูฉินด้วยพลังแห่งความตาย เมื่อนั้นพลังแห่งความตายที่คุมขังซูฉินไว้ก็ถูกเพลิงเก้าสุริยันที่แฝงกลิ่นอายอีกาทองคําสามขาเผาจนกลายเป็นความว่างเปล่า

แน่นอนว่าเพลิงเก้าสุริยันนั้นทรงพลัง แต่นั่นก็เป็นในกรณีที่สามารถแตะต้องร่างของคู่ต่อสู้ได้เท่านั้น แต่พฤติกรรมของบรรพบุรุงชีหยวนที่อ้าแขนรับเพลิงจากเคล็ดเก้าสุริยันเช่นนี้ก็สมควรแล้วที่จะต้องตายไปด้วยสภาพเช่นนั้น

“หนี!”

เมื่อซูฉินกําลังคิดถึงเรื่องนี้

บรรพบุรุษเฉวซินและบรรพชนพรรคหมื่นดาบที่อยู่ตรงนั้นก็ล่าถอยออกไปเผาผลาญพลังชีวิตเลือดเนื้อและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์หนีไปด้วยความเร็วที่น่าหวาดกลัว

ตอนนี้บรรพบุรุษชีหยวนได้ตกตายไปแล้ว ไม่ว่าทั้งสองคนจะโง่เพียงไหนพวกเขาก็คงไม่คิดว่าตนจะต่อต้านซูฉินได้แน่ดังนั้นบรรพบุรุษเฉวซินและบรรพชนพรรคหมื่นดาบจึงหนีออกไปไกลกว่าร้อยลี้แทบจะภายในเวลาเดียวกัน

และเพื่อที่จะคว้าแสงแห่งความหวังเอาไว้ บรรพบุรุษเฉวซินและบรรพชนพรรคหมื่นดาบถึงกับหนี้ไปในทิศทางตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงเพียงแค่ต้องการให้ซูฉินเสียเวลามากขึ้นในการไล่ตามตน

ไม่ว่าจะเป็นบรรพบุรุษเฉวซินหรือบรรพชนพรรคหมื่นดาบพวกเขาค่อนข้างที่จะแน่ใจในความสามารถของซูฉินแล้วจากการสังหา รบรรพบุรุษชีหยวนเมื่อโดนตามล่าพวกเขาคงมิอาจเอาชีวิตรอด

แต่ถ้าทั้งสองกระจายตัวกันหนี แม้ว่าซูฉินจะไล่ล่าสังหารแต่เขาก็คงเลือกได้เพียงทิศทางเดียวเท่านั้น ซึ่งเท่ากับซื้อเวลาให้อีกคนหนึ่งได้มากโข

“พวกเจ้าหนีไม่พ้นหรอก”

ซูฉินขยับมือขวาอยู่กลางอากาศ ดึงคมมีดเทพเจ้าปีศาจออกมาอีกครั้งแล้วตวัดมีดสองครั้งไปยังทิศทางที่บรรพบุรุษเฉวซินและบรรพชนพรรคหมื่นดาบกําลังหนีไป

หวิ่ง!!

ประกายคมมีดอันน่าสยดสยองหายวับไปในทันทีราวกับมันทะลุผ่านช่องว่างมิติไป

ในขณะนั้น เมื่อความแข็งแกร่งของซูฉินปะทุออกมาพลังของคมมีดเทพเจ้าปีศาจก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี ทรงพลังยิ่งกว่าตอนที่ซูฉันเคยฟาดฟันคมมีดออกไปในโลกถ้ําปิศาจเสียอีก

“ไม่!!”

ไม่คาดคิด บรรพบุรุษเฉวซินอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองพลันได้เห็นประกายคมมีดตามติดตนเองมา

ในชั่วพริบตา

สติสตั้งของบรรพบุรุษเฉวซินพลันเตลิดไปหมด

นางจําได้ว่าตอนที่ซูฉินฟันเข้าใส่อาณาเขตของบรรพบุ รุษชีหยวนแม้แต่อาณาเขตก็ไม่สามารถหยุดยั้งประกายคมมีดเล่ม นี้ได้

“ถอนตัว!”

จิตใจของบรรพบุรุษเฉวซินผันผวน ในที่สุดจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เริ่มสั่นไหวละทิ้งกายเนื้อของตน และพุ่งหายไปด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงมากยิ่งขึ้นไปอีก

บรรพบุรุษเฉวซินได้สลายพลังชีวิต และเลือดเนื้อไปจนเกือบจะหมดและตอนนี้ที่นางละทิ้งร่างกาย แม้ว่าจะรอดชีวิตไปได้สุดท้ายนางก็คงอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือน แต่บรรพบุรุษเฉวซินก็ยังคงเลือกที่จะทําเช่นนั้น

เพราะนางต้องการนําข่าวเรื่องความแข็งแกร่งของซูฉินกลับไปบอกตําหนักเทพเจ้าหิมะ

น่าเสียดาย

แม้ว่าบรรพบุรุษเฉวซินจะละทิ้งร่างของนาง แต่ก็ยังมิอาจจะหลบหนีคมมีดเทพเจ้าปีศาจไปได้ บริเวณขอบชายฝั่งทะเลบูรพาจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษเฉวซินก็ได้ถูกทําลาย และผลกระทบจากประกายคมมีดที่ทะลุทะลวงออกไปก็ถึงกับทําให้เกิด คลื่นยักษ์ขนาดมหึมาขึ้นในทะเล

ส่วนบรรพชนพรรคหมื่นดาบเองก็เช่นเดียวกัน เขาถูกตัดออกเป็นสองส่วนโดยตรงด้วยคมมีดเทพเจ้าปีศาจ

บรรพบุรุษเฉวซินตกตาย

บรรพชนพรรคหมื่นดาบก็ไม่รอดเช่นกัน

เมื่อนับรวมบรรพบุรุษชีหยวนที่ตายไปก่อนหน้าบรรพชนทั้งสามคนที่เดินทางมายังแผ่นดินใหญ่ในครั้งนี้ ล้วนตกตายจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ

นอกเมืองฉางอัน

ชายผมสีดอกเลาตัวสั่นเทา แม้ว่าซูฉินจะไม่เคยเบนสายตามามองพวกเขาเลยตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้แต่ชายผมหงอกก็ยังรู้สึกเย็นวาบไปถึงกระดูก

“ตํานานยุทธทั้งสามตายกันจนหมด และนั่นยังรวมไปถึงตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่ควบแน่นอาณาเขตได้แล้วอย่างบรรพบุรุษชีหยวนด้วยนี่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว

ชายผมหงอกรู้สึกว่าฟันของเขาสั่นกระทบกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]