เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 286

Sign in Buddha’s palm 286 จุดเปลี่ยนผ่าน ของกระแสปราณฉี

ด้านในช่องว่างระหว่างคิ้ว

แก่นของจิตวิญญาณแรกกําเนิด ที่แทบไม่ต่างไปจากซูฉินจริงๆนั่งอยู่ภายใน พลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดค่อยๆเพิ่มขึ้นราวกับมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่

“เป็นความรู้สึกที่แปลกทีเดียว”

จิตใจของซูฉินผสานเข้ากับจิตวิญญาณแรกกําเนิด เข้าควบคุมร่างวิญญาณ ความรู้ความเข้าใจทั้งหลายหลั่งไหลเข้ามาภายในจิตใจของเขา

สําหรับซูฉิน ร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดนี้ เหมือนกับเป็นร่างกายที่สอง สามารถดํารงอยู่บนโลกได้อย่างอิสระ แต่แน่นอนว่าหากปราศจากร่างกายที่แท้จริง พลังในการต่อสู้ของร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดจะลดลงไปมากอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

“ในเวลานี้ หากข้าเผชิญหน้ากับบรรพชนดาบอีกครั้ง ข้าไม่จําเป็นต้องใช้พลังงานปราณเลือดมากมายนักก็คงบดขยี้จิตวิญญาณแรกกําเนิดของมันได้ภายในสิบกระบวนท่า ซูฉินค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองไปยังว่างองค์ยูไลทองคําที่มือหนึ่งชี้ขึ้นฟ้า อีกมือแตะพื้นพสุธา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเขา

แม้ว่าซูฉินจะเป็นร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิด แต่ต่อหน้าองค์ยูไลทองคําขนาดใหญ่ ตัวเขากลับดูเล็กลงไปทันตา

หากองค์ยูไลทองคําเปรียบประดุจดวงอาทิตย์ดวงโตเปล่งประกายแผดเผา ร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดนี้คงเปรียบได้กับดวงดาวที่หมุนอยู่รอบดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ ความแตกต่างระหว่างทั้งคู่ห่างกันนับหมื่นเท่า

“ลองออกไปดูภายนอกดีกว่า”

เพียงแค่คิด ร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็พุ่งตัวแยกออกจากกึ่งกลางระหว่างคิ้ว ออกมาสู่โลกภายในนอกในชั่วพริบตา

ซูม!!!

ทันทีที่ร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้ออกจากร่าง ซูฉินก็รู้สึกถึงพลังแห่งฟ้าดินและจิตใจแห่งฟ้าดินทุกประเภทอย่างชัดเจน เพียงแต่พลังฟ้าดินและจิตใจแห่งฟ้าดินเหล่านั้นไม่สามารถทําอะไรร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดอันยิ่งใหญ่นี้ได้เลย

“ทุกอย่างแตกต่างออกไปจริงๆ”

ซูฉินค่อยๆ รับรู้ทุกสิ่งผ่านมุมมองของจิตวิญญาณแรกกําเนิด

จิตวิญญาณแรกกําเนิดนั้นแตกต่างจากจิต สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องการสถานที่ในการพักพิง และไม่สามารถดํารงอยู่เป็นเอกเทศได้ ตัวอย่างเช่น ดาบไม้ที่ซูฉินมอบให้ “เฉียนขู่ ก็เป็นการฝังจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่วัตถุ

หากไม่มีสถานที่ที่ใช้พักพิง แม้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จะมีพลังอํานาจสูงสุด แต่สุดท้ายมันก็สลาย ไปในที่สุด

ทว่าจิตวิญญาณแรกกําเนิดนั้นแตกต่างออกไป อย่างเช่น ซูฉินสามารถอยู่บนเกาะหมื่นดาบแห่งนี้ และใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดเดินทางหลายหมื่นลี้กลับไปยังเมืองฉางอัน

ซึ่งแน่นอนว่าซูฉินจะไม่ทําเช่นนั้น

หากปราศจากจิตวิญญาณแรกกําเนิด ร่างกายก็เป็นเสมือนเปลือกนอกที่ถูกทิ้งเอาไว้ จะกลายเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร่างกายของซูฉินได้มาถึง ครึ่งก้าวเข้าสู่กายแห่งธรรมชาติแล้ว พลังงานชีวิตและเลือดเนื้อนั้นมีมากมายมหาศาล ร่างกายเช่นนี้ สําหรับบรรพชนดาบที่สูญเสียร่างกายแต่จิตวิญญาณแรกกําเนิดยังคงอยู่ มันย่อมเป็นสมบัติหายากในรอบพันปี ควรค่าแก่การยึดครอง

จากนั้น จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินก็เดินทางไปรอบๆเกาะหมื่นดาบอยู่สองสามรอบ หลังจากปรับตัวได้เต็มที่แล้วจึงกลับเข้ามาในร่างของตนเอง

“การแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดเป็นไปโดยราบรื่นอย่างยิ่ง

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน การแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดไม่ใช่ความก้าวหน้าครั้งใหญ่อะไร มันไม่ได้มีความเสี่ยงมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่มันจะสําเร็จ

ซูฉินได้สั่งสมความแข็งแกร่งมามากพอสมควรแล้ว จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเหนือกว่าตํานานยุทธขั้นสูงสุดปกติไปมากนัก ทั้งยังมีโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดมากกว่าห้าสิบเม็ดให้ได้ใช้ หากการแปลงจิตวิญญาณครั้งนี้ยังล้มเหลว เกรงว่าคงไม่มีจอมยุทธคนใดบนโลกนี้ที่แปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้สําเร็จ

“ข้าน่าจะปิดด่านฝึกตนมานานกว่าสองเดือนแล้

ซูฉินดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ในทันที ความรู้สึกเล็กๆก่อตัวขึ้นในใจ

ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ซูฉินไม่ได้ทุ่มเท ความตั้งใจทั้งหมดไปกับการฝึกฝนเสียทีเดียว

นอกเหนือจากการบ่มเพาะแล้ว ซูฉินยังลงชื่อเข้าใช้บนเกาะหมื่นดาบอย่างตรงเวลาทุกวันเป็นเวลาสองเดือน เขาลงชื่อเข้าใช้ได้มากถึงหกสิบครั้ง ได้รับคัมภีร์เคล็ดวิชาดาบมาเป็นจํานวนมากได้รับโอสถศักดิ์สิทธิ์ และแม้กระทั่งอาวุธวิเศษก็ออกมาด้วย
การเก็บเกี่ยวครั้งนี้ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างสูง

“นิกายใหญ่ในต่างแดนสืบทอดมรดกมาเป็นเวลายาวนาน และมีเต่สะสมมากมาย เกือบทั้ง หมดที่ได้จากการลงชื่อเข้าใช้นั้นเป็นของล้ําค่า

ดวงตาของซูฉินเป็นประกาย

ขนาดนิกายใหญ่ที่สืบทอดมรดกมาเพียงสี่พันปี อย่างพรรคหมื่นดาบ ซูฉินยังได้รับสิ่งดีๆมามากมายและได้รับเคล็ดทางจิตวิญญาณที่หาได้ยากมาหนึ่งอย่าง ไม่รู้ว่าขุมกําลังที่สืบทอดมรดกมาตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดอย่าง สํานักผู้วิเศษจะมี’เต๋าสะสม’ อยู่มากเพียงไร…ร

“น่าเสียดาย หากข้าต้องการจะลงชื่อเข้าใช้ให้ ประสบความสําเร็จจะต้องไปอยู่ใกล้กับแกนกลางของเต๋สะสม” เช่นเดียวกับพรรคหมื่นดาบสมบัติที่แท้จริงสามารถได้รับจากยอดเขาดาบแห่งนี้เพียงเท่านั้น”

ซูฉินถอนหายใจเบาๆ คิดอยู่ภายในใจตนเงียบๆ

โดยปกติสถานที่หลักที่มี ‘เต๋าสะสม คือสถานที่สําคัญของนิกายใหญ่ ตัวอย่างเช่น ยอดเขาดาบ นี่เป็นสถานที่สําหรับเหล่าบรรพชนของพรรคหมื่นดาบ บุคคลภายนอกจะสามารถเข้าไปได้อย่างไร?

หรือให้พูดอีกที

แม้ซูฉินจะได้รับเชิญจากนิกายใหญ่ ซูฉินก็จะไม่เข้าไป

การเข้าสู่แกนกลางของนิกายใหญ่ เทียบเท่ากับตกอยู่ในแผนการของอีกฝ่าย อาจมีกลุ่มตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่แปลงจิตวิญญาณได้แล้ว หลบอยู่ภายในนิกายใหญ่ ควบคู่กับค่ายกลสังหารที่เตรียมพร้อมเอาไว้…..

เมื่อเป็นเช่นนั้น ฉันอาจต้องพบกับอันตรายจริงๆ

ดังนั้น หากซูฉินต้องการลงชื่อเข้าใช้จริงๆ มันก็ไม่ต้องทําอะไรมาก เพียงทําเหมือนกับที่ลงมือกับพรรคหมื่นดาบ ทําลายล้างนิกายใหญ่ให้ราบเรียบ ลงมือจนไม่สามารถต่อต้านได้….

แต่ถ้าซูฉินทําเช่นนั้นจริงๆ มันจะนําไปสู่การต่อต้านของนิกายใหญ่ทั้งหมดในต่างแดนโดยที่มิอาจเลี่ยง

การที่ซูฉินทําลายพรรคหมื่นดาบ ก็ทําให้ทุกคนรู้สึกตกอยู่ในอันตรายแล้ว ในระหว่างการปิดด่านฝึกตน ซูฉินสังเกตเห็นกลิ่นอายอันลึกล้ําโผล่มาที่เกาะหมื่นดาบมากกว่าหนึ่งครั้ง

ยอดฝีมือที่มีกลิ่นอายพลังอันล้ําลึกเหล่านี้ มีรัศมีที่ทรงพลังอย่างมากและจิตวิญญาณแรกกําเนิดแทรกซึมออกมาตลอด ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพวกเขาต่างก็เป็นตัวตนผู้ไร้เทียมทานซึ่งแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้แล้ว

แม้แต่ซูฉินยังรู้สึกได้จางๆ ว่าในบรรดาไอพลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดเหล่านั้น มีหลายคนที่มีกลิ่นอายที่สมบูรณ์อย่างยิ่ง ห่างชั้นจากจิตวิญญาณแรกกําเนิดที่โรยราของบรรพชนดาบ เห็นได้ชัดว่าเจ้าของรัศมีพลังเหล่านี้ไม่เพียงแต่แปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยพลังงานชีวิตและเลือดเนื้อ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ยุทธภพต่างแดนในยุคนี้ มีตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่สามารถแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้อยู่ด้วย

สิ่งนี้ทําให้ซูฉินแปลกใจเล็กน้อย แต่หลังจากขบคิดต่ออีกนิด ก็รู้สึกว่ามันปกติ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]