Sign in Buddha’s palm 59 ลงชื่อมายี่สิบปี ผู้ไร้พ่ายบังเกิด!
วัดเส้าหลิน
หน้าโถงศาลาการประชุมใหญ่
ดวงตาของซูฉินหลุบลง ค่อยๆ เดินไปหาจอมมารชุดดำ
ทุกสายตาในโถงใหญ่จับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว
“ศิษย์น้องเจินกวน เจ้ากำลังทำอะไร?”
เจินชื่อ พระลาดตระเวน ที่อยู่แถวนั้นรีบเดินมาอยู่ด้านข้างแล้วจับแขนของซูฉินเอาไว้ และเขาก็กระซิบออกมา “นี่มันหน้าสิ่วหน้าขวาน เจ้าจะมาสร้างปัญหาอะไรยามนี้กัน”
ในขณะที่เจินชื่อกล่าวคำ เขานั้นพยายามที่จะดึงซูฉินให้กลับมา
จากมุมของเจินชื่อ แม้ว่าวัดเส้าหลินจะต้องต่อสู้กับพรรคมาร แต่ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเรื่องของศิษย์ตำหนักยุทธสงฆ์ ตำหนักอรหันต์ อะไรพวกนี้มากกว่า มันจะไปเกี่ยวอะไรกับพระกวาดลานจากลานจิปาถะเช่นซูฉิน?
ควรทราบว่าศิษย์ส่วนใหญ่ในลานจิปาถะไม่เก่งเรื่องวิชายุทธ หากออกไปไม่ใช่แค่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อาจจะเพิ่มปัญหาขึ้นมาเสียอีก
อย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าเจินชื่อจะพยายามหนักมากเพียงไร ซูฉินผู้‘มิรู้วิชายุทธ‘ ในตอนนี้ก็เหมือนภูเขาสูงกว่าหมื่นคืบ นิ่ง ไม่ไหวติง
“ในเมื่อเขามาหาข้าเพื่อแก้แค้น ข้าก็จะออกไป”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน เขาค่อยๆ ผลักเจินชื่อออกไปแล้วเดินต่อ
“อะไรกัน?”
จิตใจของเจินชื่อว่างเปล่า เขาอึ้งไปเป็นเวลานาน
ในขณะที่ซูฉินเดินออกไปตลอดทาง ศิษย์วัดเส้าหลินก็เริ่มจำเขาได้ทีละคนสองคน
“เจินกวน?”
“นั่นเขากำลังทำอะไรอยู่?”
“หรือเขาต้องการจะขัดขวางจอมมาร?”
เหล่าศิษย์วัดเส้าหลินงงงวยมากเสียจนลืมหยุดยั้งซูฉินไปชั่วขณะ
ถ้าเป็นศิษย์จากลานอรหันต์ ตำหนักยุทธสงฆ์ หรืออัจฉริยะจากลานธรรมที่วิ่งออกมาขอสู้เป็นตายกับเหล่ามารร้าย เรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจได้
แต่ซูฉิน…
เป็นเพียงพระกวาดลานสังกัดลานจิปาถะ จะไปคุกคามจอมมารได้เยี่ยงไร?
“เจินกวน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”
หัวหน้าลานจิปาถะคนใหม่ขมวดคิ้วเป็นปมแน่น
ในสายตาของเขา ซูฉินเป็นศิษย์ที่ไม่มีความสามารถทางวิชายุทธมาโดยตลอด และถึงขนาดสละโอกาสที่จะเข้าสู่ลานโพธิ์อีกด้วย
บุคคลเช่นนี้ควรจะมีเหตุผล และไม่เลือกทำอะไรโง่ๆ
แต่ตอนนี้…
เมื่อเห็นเจินกวนเดินดุ่มๆ ตรงไปที่จอมมารชุดคลุมดำ หัวหน้าคนใหม่ของลานจิปาถะก็ถึงกับงุนงง
ในที่สุดหัวหน้าลานจิปาถะคนใหม่ก็ถอนหายใจออกมา เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นซูฉินตกตายลงด้วยน้ำมือของจอมมารที่กำลังโกรธจัด เขาจึงเดินไปด้านข้างซูฉิน
“เจินกวน ที่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า ทำไมยังไม่รีบถอยกลับไปอีก?!”
หัวหน้าคนใหม่แห่งลานจิปาถะส่งเสียงครางต่ำพยายามเตือนซูฉิน
สำหรับหัวหน้าลานจิปาถะคนใหม่ เขาคิดว่าแม้วัดเส้าหลินจะถูกทำลายลงไปจริงๆ ศิษย์อย่างซูฉินก็น่าจะเป็นคนสุดท้ายที่จะต้องตาย
“หัวหน้าลาน”
“เขากำลังมองหาข้าอยู่”
ซูฉินส่งยิ้มให้กับหัวหน้าลานคนใหม่แล้วกล่าวคำออกมาเบาๆ
“พูดจาไร้สาระอะไรกัน?”
หัวคิ้วของหัวหน้าลานจิปาถะคนใหม่ขมวดแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ “จอมมารกำลังตามหาบรรพบุรุษสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ชัดๆ แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า?”
หัวหน้าคนใหม่ของลานจิปาถะทั้งโกรธทั้งขำ เขาไม่คาดคิดว่าซูฉินจะคิดว่าคนที่จอมมารตามหาจะเป็นตัวเขาเอง?
สงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามที่ช่วยวัดเส้าหลินจากเหตุวิกฤติไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง ความแข็งแกร่งของท่านน่ากลัวมาก และเป็นบรรพบุรุษที่มีชีวิตยาวนานมากว่าร้อยปี
แต่ซูฉินเล่า?
อยู่ในวัดมาแค่ยี่สิบปี จะไปเทียบกับบรรพบุรุษสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?
“เจินกวน”
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีเจตนาดี แต่ความเป็นอยู่ของวัดเส้าหลินไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าหรอกนะ”
หัวหน้าลานคนใหม่หายใจเข้าลึก แล้วหายใจออกเบาๆ
ขณะนั้น
สายตาของจอมมารชุดดำก็จ้องมองมาที่ซูฉินเช่นกัน
“หืม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]