Sign in Buddha’s palm 80 ตราประทับครอบคลุมผืนฟ้า
“เป็นไปไม่ได้!”
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!”
เกิดคลื่นลมใหญ่โหมแรงอยู่ภายในจิตใจของร่างเงาเลือนราง
ระดับอรหันต์หายากเพียงไร? แม้จะมีพรสวรรค์แฝงเร้นสูงส่งเช่นตัวเขาก็ต้องใช้เวลาเป็นร้อยปีถึงจะก้าวเข้าสู่ระดับนี้ได้
และส่วนหนึ่งก็ยังเป็นเพราะอรหันต์ถัวทุ่มทรัพยากรจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือเขา แม้กระทั่งใช้แก่นแท้แห่งพลังเพื่อขัดเกลาร่างกายและเลือดเนื้อของเขาด้วยทุกสิ่งที่มี
ความสามารถและพรสวรรค์อันน่าหวาดหวั่นของเขาประกอบเข้ากับปัจจัยภายนอกที่ทำให้ร่างเงาเลือนรางเข้าสู่ระดับอรหันต์ได้ภายในหนึ่งร้อยปี
แต่ซูฉินเล่า?
ร่างเงาเลือนรางรู้ดีว่าในรุ่นนี้วัดเส้าหลินไม่มีอรหันต์อยู่ จริงๆ แล้วก็ไม่มีอรหันต์ปรากฏขึ้นอีกเลยในวัดเส้าหลินตั้งแต่เมื่อเก้าร้อยปีก่อนแล้ว
หรือจะกล่าวได้ว่าซูฉินต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้นถึงจะขึ้นมาถึงระดับอรหันต์ผู้ทรงสมณศักดิ์ฯ นี้ได้
เมื่อสิบปีก่อนตอนที่ซูฉินเสริมกำลังผนึกตราประทับ มารพุทธะค่อนข้างมั่นใจว่าอายุกระดูกของซูฉินนั้น จะอย่างไรก็ไม่เกินสามสิบปี
ตอนนี้อายุอยู่ในช่วงสี่สิบปีแล้ว?
อรหันต์ที่อายุเพียงสี่สิบปี?
ร่างเงาเลือนรางรู้สึกเพียงหนังศีรษะตนชาวาบ
ตอนนี้เขาถูกสะกดมาตั้งเก้าร้อยปี ละทิ้งร่างกายของตนไปอยู่ในรูปจิตมาร ความแข็งแกร่งของเขาไม่รู้ว่าลดลงไปมากแค่ไหน
หากซูฉินยังอยู่ในระดับชั้นที่หนึ่ง ร่างเงาเลือนรางมั่นใจมากว่าจะจัดการปัญหาได้และยังสามารถล่าถอยไปได้ในกรณีที่ผลออกมาเลวร้าย
แต่ระดับอรหันต์…
“ท่านปรมาจารย์ เนื่องจากท่านเป็นผู้ปล่อยข้าออกมา หากท่านมีสิ่งใดเรียกใช้ข้า ตราบใดที่ท่านกล่าวออกมา ข้าจะกระทำมันอย่างไม่มีบิดพลิ้ว…”
ร่างเงาเลือนรางไม่กล้าที่จะอ้างตัวเป็น ‘ผู้อาวุโส‘ อีกต่อไป คิดว่าจะต้องยอมจำนนชั่วคราวเพื่อรักษาชีวิตตนเอาไว้ พยายามพาออกนอกเรื่อง
“ไม่จำเป็นหรอก”
ซูฉินขี้เกียจเกินกว่าที่จะมาพูดเรื่องไร้สาระ
ทันใดนั้นตราประทับรูปร่างสี่เหลี่ยมอันเล็กๆ ก็ผุดขึ้นมาจากความว่างเปล่า
ตราประทับขนาดเล็กนี้มีสีดำสนิทราวกับว่ามาจากนรกขุมที่ลึกที่สุดและมีคราบเลือดติดอยู่ที่มุมของมัน
มันคือตราประทับสะกดมาร
ซูฉินได้รับมันมาสักพักใหญ่แล้ว เป็นของชิ้นสุดท้ายที่ได้จากหอคอยสะกดมารในวัดเส้าหลิน เรียกได้ว่าเป็นภัยพิบัติของเหล่ามารร้ายเลยทีเดียว
ครืนครืนน
ทันทีที่ตราประทับสะกดมารปรากฏขึ้น มันก็ขยายขนาดออกไป พุ่งขึ้นคลุมผืนฟ้า แล้วค่อยๆ ตกลงมายังร่างเงาเลือนราง
“นี่คือ?”
ดวงตาของร่างเงาเผยความกลัวสุดขีด
เมื่อยามที่ตราประทับปรากฏขึ้นครั้งแรก ร่างเงารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของมันถูกระงับลงไปเล็กน้อย และในตอนที่ตราประทับอันเล็กขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ พลังในการสะกดก็เพิ่มมากขึ้น หนักขึ้น กดทับลงมาราวกับโลกจะพังทลาย
“อะไรกัน!!!”
ร่างเงาเลือนรางคำรามลั่นครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงไม่นานมันก็ใช้วิชาลับหลายสิบวิชาเพื่อหยุดยั้งแรงกดดันจากผนึกตราประทับไม่ให้ส่งผลกระทบถึงตัวมันได้
เป็นที่น่าเสียดาย
ไม่ว่าจะใช้วิธีการใด ก็เหมือนกับเพียงสายลมพัดเข้าใส่ตราประทับแล้วผ่านออกไปราวกับมีรูระบาย
หลังจากนั้นไม่นาน
ใต้การสะกดปราบปรามของตราประทับสะกดมาร ร่างเงามารร้ายก็สลายไปอย่างสมบูรณ์และแม้แต่ถ้ำที่เขาออกมาก็ถูกบดขยี้เป็นผุยผงด้วยตราประทับสะกดมาร
“สิ่งนี้สะดวกดีนี่นา…”
ซูฉินมองไปที่ตราประทับสะกดมารด้วยความพึงพอใจ
แม้ซูฉินจะสามารถออกมือเพื่อจัดการมารพุทธะได้ด้วยตนเอง แต่ด้วยตราประทับสะกดมาร ซูฉินไม่จำเป็นออกแรงเองเลยด้วยซ้ำ
แน่นอนว่ามารพุทธะถูกสะกดมาเป็นเวลากว่าเก้าร้อยปี ความแข็งแกร่งของมันร่อยหรอเต็มทน นอกเหนือจากนั้นความสามารถของตราประทับสะกดมารยังทรงพลังมากเกินไป
หลังจากที่ดึงตราประทับสะกดมารกลับมา ซูฉินก็กลับไปที่เก่าแล้วนั่งขัดสมาธิ
เนื่องจากมารพุทธะได้สิ้นใจแล้วอย่างสมบูรณ์ พลังผนึกตราประทับฝ่ามือยูไลที่เหลืออยู่ในพื้นที่หวงห้ามภูเขาด้านหลังจึงถูกดูดซับไปโดยซูฉินเป็นธรรมดา
“ฝ่ามือแดนพิสุทธิ์?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]